Skip to main content
sharethis

สมัชชาคนจน กรณีเขื่อนปากมูล ออกแถลงการณ์ จี้หน่วยราชการเร่งแก้ปัญหา ลำน้ำโดม เน่ากว่า 3เดือน พร้อมตั้งคำถามราชการทำอะไรอยู่

 

18 มิ.ย. 2558 สมัชชาคนจนกรณี เขื่อนปากมูล ออกแถลงการณ์ กรณีน้ำเน่า ที่ลำน้ำโดม จังหวัดอุบลราชธานี โดยตั้งข้อสังเกตว่ามีสาเหตุมาจาก เหตุคันดินกั้นบ่อบำบัดน้ำเสียของบริษัทอุบลเกษตรพลังงานแตก ทำให้น้ำเสียจากโรงงานไหลเข้าลำน้ำโดมใหญ่ ทั้งนี้ระยะเวลาที่น้ำเน่าเสียกินเวลาไปกว่า 3 เดือน แล้วยังไม่มีหน่วยราชการใดแก้ไขปัญหาได้ ทั้งนี้สมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูลได้ยื่นข้อเสนอ 3 ข้อ ดังนี้ 1. ให้ย้ายราชการที่ไร้ความสามารถ ดังนี้ (1) สิ่งแวดล้อมภาคที่ 12 อุบลราชธานี (2) อุตสาหกรรมจังหวัดอุบลราชธานี (3) ชลประทานจังหวัดอุบลราชธานี (4) ประมงจังหวัดอุบลราชธานี 2. ให้สั่งการให้บริษัทอุบลเกษตรพัฒนา หยุดการเดินเครื่อง 3. ให้ตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาน้ำในลำโดมใหญ่เน่าเสีย

แถลงการณ์สมัชชาคนจน (สคจ.) กรณีเขื่อนปากมูล

ราชการไร้ปัญญา แก้ปัญหาลำโดมเน่ากว่า 3 เดือนไม่ได้ อยู่ไปเปลืองภาษีประชาชน

ตามที่บริษัทอุบลเกษตรพลังงาน เกิดเหตุคันดินกั้นบ่อบำบัดน้ำเสียแตก และทำให้น้ำเสียของโรงงานจำนวนมากไหลเข้าสู่แม่น้ำลำโดมใหญ่ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา น้ำในลำโดมใหญ่ก็เน่าเสีย และจนทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศโดยเฉพาะสัตว์น้ำ ที่เน่าตายเกลื่อนลำน้ำ รวมถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านในชุมชนรอบลำโดมใหญ่ ที่ไม่สามารถใช้น้ำในลำโดมใหญ่เพื่ออุปโภคและบริโภคได้

วิกฤติน้ำลำโดมใหญ่ ที่ยืดเยื้อมา กว่า 3 เดือนนั้น ยังไร้ทางออก ขณะนี้ผลกระทบได้ลุกลามขยายวงกว้างออกไป โดยน้ำเน่าจากลำโดมใหญ่ได้ไหลเข้าสู่แม่น้ำมูนแล้ว ทำให้ประชาชนที่อยู่และอาศัยแม่น้ำเริ่มได้รับผลกระทบแล้ว

ต่อสถานการณ์ดังกล่าว มีความชัดเจนว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สิ่งแวดล้อมภาคที่ 12 อุบลราชธานี ชลประทานจังหวัดอุบลราชธานี และประมงจังหวัดอุบลราชธานี รวมถึงอุตสาหกรรมจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการติดตามสถานการณ์รวมถึงดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในคลี่คลาย แต่ที่ผ่านมาซึ่งเป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้ว หน่วยงานดังกล่าวกลับอับจนปัญญา ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ หรือแม้แต่การควบคุมปัญหาน้ำลำโดมเน่าให้อยู่ในพื้นที่จำกัดได้ และยิ่งนานวันน้ำลำโดมยิ่งเน่าเสียมากขึ้น และขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น

จากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ได้ทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัย ในการทำหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า มีการ “ใส่เกียร์ว่าง” หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม การที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำลำโดมใหญ่เน่าเสียได้ นั้น ก็ย้อมสะท้อนได้อย่างชัดเจนว่า บุคคลากรของหน่วยงานที่รับผิดชอบต่อปัญหาดังกล่าวนี้ ไม่มีปัญญา ไร้ความสามารถ ดังนั้นแล้ว จึงไม่ควรให้ราชการที่ไร้ความสามารถอยู่ต่อไปได้ เพราะจะทำให้ปัญหาดังกล่าว ลุกลามบานปลายมากยิ่งขึ้น

สมัชชาคนจน (สคจ.) กรณีเขื่อนปากมูล ซึ่งมีสมาชิกในพื้นที่รอบสองฝั่งแม่น้ำมูนในพื้นที่ 3 อำเภอ ซึ่งเป็นกลุ่มคนทีี่ประกอบอาชีพประมง ในแม่น้ำมูน ขณะนี้น้ำเน่าจากลำโดมใหญ่ได้ไหลเข้าสู่แม่น้ำมูนแล้ว และการที่น้ำเน่าจากลำโดมใหญ่ไหลเข้าสู่แม่น้ำมูน จะทำให้ปลาในแม่น้ำมูนที่มีน้อยอยู่แล้ว ได้รับผลกระทบ และหากเกิดผลกระทบดังเช่นที่เกิดกับลำโดมใหญ่ ที่น้ำเน่าเสียจนปลาตายเกลื่อนลำโดมมาเกิดขึ้นที่แม่น้ำมูน ย่อมจะส่งผลกระทบระบบนิเวศ และการประกอบอาชีพของพวกเราด้วย

ดังนั้น เพื่อเป็นการยับยั้งปัญหาไม่ให้ลุกลามมากไปกว่านี้ สมัชชาคนจน (สคจ.) กรณีเขื่อนปากมูล ขอเรียกร้อง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี (ผู้ว่า CEO) เร่งดำเนินการ ดังนี้

1. ให้ย้ายราชการที่ไร้ความสามารถ ดังนี้ (1) สิ่งแวดล้อมภาคที่ 12 อุบลราชธานี (2) อุตสาหกรรมจังหวัดอุบลราชธานี (3) ชลประทานจังหวัดอุบลราชธานี (4) ประมงจังหวัดอุบลราชธานี

2. ให้สั่งการให้บริษัทอุบลเกษตรพัฒนา หยุดการเดินเครื่อง

3. ให้ตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาน้ำในลำโดมใหญ่เน่าเสีย

ทั้งนี้ ให้ดำเนินการใน ทันที

 

เชื่อมั่นในพลังประชาชน

สมัชชาคนจน กรณีเขื่อนปากมูล

18 มิถุนายน 2558

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net