Skip to main content
sharethis

27   พ.ค.2558 สมัชชาคนจนออกจดหมายเปิดผนึกขอเปิดเจรจาอย่างเป็นทางการเพื่อเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล หลังสถานการณ์ไม่คืบ ผู้ว่าฯ และกฟผ.ต่างปฏิเสธดำเนินการโดยระบุว่าไม่มีอำนาจ โดยวันที่ 28 พ.ค.ตัวแทนสมัชชาคนจนจะเดินทางมายังศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีเพื่อตามหาผู้ตัดสินใจ

รายละเอียดจดหมายเปิดผนึกมีดังนี้

จดหมายเปิดผนึก

เปิดการเจรจาอย่างเป็นทางการ เพื่อเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล

            ตามที่สมัชชาคนจน(กรณีเขื่อนปากมูล) ได้ยื่นข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาลอย่างเป็นทางการ ในวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๗ ให้รัฐบาลแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการแก้ปัญหาเขื่อนปากมูล ตามมติคณะรัฐมนตรีคราววะระการประชุม วันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ซึ่งที่ผ่านมาสมัชชาคนจนพยายามประสานงานกับรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับตัวแทนสมัชชาคนจน (กรณีเขื่อนปากมูล) ร่วมกันหลายครั้ง จนได้ข้อสรุปร่วมกันว่าจะเร่งดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล ซึ่งรัฐบาลดำเนินการล่าช้ามาก

            เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘ สมัชชาคนจน (กรณีเขื่อนปากมูล) จึงได้ยื่นหนังสือถึง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี(พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี(นายประทีป กีรติเลขา) เพื่อให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเรื่องการแก้ปัญหาเขื่อนปากมูล (รายละเอียดทราบแล้วนั้น)

            โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลจะส่งหนังสือถึงรัฐบาลในวันเดียวกัน (๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘) พร้อมกับขอประสานงานติดตามความคืบหน้าภายใน ๗ วัน ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านเรียกร้องให้เปิดบานประตูเขื่อนปากมูลเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ผู้ว่าราชการได้ชี้แจงว่า ผู้ว่าราชการไม่มีอำนาจไม่สามารถทำได้ แต่จะได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้

            ต่อมาในวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างสมัชชาคนจน(กรณีเขื่อนปากมูล) กับ กฟผ.โดยหัวหน้าส่วนกองโรงไฟฟ้าเขื่อนสิรนธร ซึ่งทาง กฟผ.ได้ชี้แจงว่าเขื่อนปากมูลจะดำเนินการเพิ่มระดับน้ำจากหน้าเขื่อนที่ระดับ ๑๐๖.๐ ม.รทก.เป็น ๑๐๘.๐ ม.รทก. เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดการปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำ ของเขื่อนปากมูล ในวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านได้เสนอให้ กฟผ. เปิดบานประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลเพื่อให้ปลาสามารถเดินทางเข้ามาในแม่น้ำนั้น กฟผ.ไม่มีอำนาจในการเปิดปิดบานประตูเขื่อนเนื่องจากอำนาจอยู่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัด

            จากสถานการณ์ดังกล่าว จึงชัดเจนว่า การไฟฟ้า ฯ และผู้ว่าราชการจังหวัดอุบล ต่างโยนความรับผิดชอบ ต่างฝ่ายต่างโยนไปให้อีกฝ่าย อันเป็นการผลักภาระความรับผิดชอบ และที่สำคัญการที่การไฟ้า ฯ อ้างว่าไม่สามารถเปิดประตูเขื่อนปากมูลได้ แต่จะปิดประตูเขื่อนปากมูลเพื่อเพิ่มระดับน้ำ กลับทำได้นั้น สะท้อนได้ชัดเจนว่าเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม

            ดังนั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อเรื่องนี้สมัชชาคนจน (กรณีเขื่อนปากมูล) จึงจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปเจรจาเพื่อให้เกิดข้อยุติ ว่าใครกันแน่คือผู้มีอำนาจในการตัดสินใจในเรื่องนี้ โดยสมัชชาคนจน (กรณีเขื่อนปากมูล)  ขอเรียกร้องให้มีเปิดการเจรจาอย่างเป็นทางการ ขึ้น ในวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๐.๐๐ น. สถานที่ ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี โดยมีองค์ประกอบการเจรจา ดังนี้

            ๑.) ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี

            ๒.) ผู้แทนจากการไฟฟ้า ฯ ที่รับผิดชอบเขื่อนปากมูล

            ๓.) ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ ๗ อุบลราชธานี

            ๔.) ผู้แทนสมัชชาคนจน (กรณีเขื่อนปากมูล)

            ซึ่งหากไม่สามารถหาข้อยุติได้ สมัชชาคนจน(กรณีเขื่อนปากมูล) ก็จำเป็นที่จะต้องเปิดการเจรจากับรัฐบาล ต่อไป

ด้วยความเชื่อมั่นในพลังประชาชน

สมัชชาคนจน(กรณีเขื่อนปากมูล)

๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๘

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net