Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

รายงานข่าวของสถาบันข่าวอิศราเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมและของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมาได้กล่าวถึงการจัดตั้งองค์กรที่มีชื่อว่า Majlis Amanah Rakyat Patani หรือเรียกชื่อย่อว่า MARA PATANI (มาร่า ปาตานี) ในขณะที่ ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตต์ภิรมย์ศรี นักวิชาการด้านสันติภาพในภาคใต้ก็ได้กล่าวถึง MARA ในรายการโทรทัศน์ผ่านอินเทอร์เน็ต "Thaivoicemedia" เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่าองค์กรดังกล่าวเป็นความพยายามของมาเลเซียในฐานะผู้อำนวยความสะดวกของกระบวนการพูดคุยสันติภาพ โดยรวบรวมกลุ่มองค์กรที่เป็นขบวนการต่อสู้ปาตานีจำนวน 6 กลุ่มให้อยู่ภายใต้องค์กรร่มดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เนื้อหาในรายงานที่กล่าวมานี้ยังมีบางส่วนที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงและยังเกิดข้อสงสัยในรายงานข่าวทั้งหมดที่กล่าวมานั้นด้วย

ก่อนหน้านี้ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมามีข่าวลือเกี่ยวกับการเกิดขึ้นของ MARA PATANI มากมาย มีทั้งการตั้งสมมติฐานไปต่างๆ นานา มีทั้งการคาดเดา หรือแม้แต่มีการกล่าวหาในเรื่องราวที่เกี่ยวกับ MARA PATANI ด้วยความรู้สึกที่จะต้องรับผิดชอบในการให้ข้อมูลที่แท้จริงจากแหล่งข้อมูลที่ใกล้ชิดและเชื่อถือได้ ข้าพเจ้าจึงใคร่ขอใช้โอกาสนี้เพื่ออธิบายอย่างย่อๆ ในสิ่งข้าพเจ้าเข้าใจเกี่ยวกับ MARA PATANI

เดิม MARA PATANI (Majlis Amanah Rakyat Patani, หรือพอจะแปลได้ว่าสภาอะมานะฮ์แห่งประชาชนปาตานี – กองบรรณาธิการ deepsouthwatch)  เป็นสิ่งที่ริเริ่มโดยสมาชิก BRN (แนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติ) ที่สนับสนุนการเจรจาต่อรองว่าจะเป็นกระบวนการเชิงรุกหนึ่งที่จะนำไปสู่การพูดคุยเพื่อสันติภาพ องค์กรด้งกล่าวก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2557 โดยกลุ่มสมาชิก BRN ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ รวมถึงกลุ่มเยาวชน, อุลามาอ์ และกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งพวกเขาถือว่าพวกเขาเป็น “คณะผู้ก่อการใน BRN” (Kumpulan Bertindak BRN)  ที่มีแนวโน้มต้องการหาทางแก้ปัญหาทางการเมืองด้วยวิธีการเจรจากับรัฐบาลไทย

แม้จะไม่เป็นที่แน่ชัดว่าพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากองค์กรแม่ของ BRN หรือจากกลุ่มติดอาวุธของ BRN มากน้อยเพียงใด แต่กระนั้นพวกเขาก็มองโลกในแง่ดีที่ว่า หากความพยายามของพวกเขาเกิดดอกผลในทางบวก พวกเขาย่อมได้รับการสนับสนุนและความช่วยเหลือจากทั้งสองกลุ่มดังกล่าว รวมไปถึงถึงจากประชาชนโดยรวมอีกด้วย ภาระและความรับผิดชอบของการริเริ่มครั้งนี้ว่าจะได้รับการยอมรับจากองค์กรนำของ BRN หรือไม่นั้นวางอยู่บนบ่าของพวกเขาแล้ว

ในช่วงกลางเดือนมีนาคม 2558 คณะผู้ก่อการใน BRN กลุ่มนี้ได้นำเสนอแนวคิดและเปิดโอกาสให้กลุ่มนักต่อสู้ปาตานีกลุ่มอื่นๆ เข้าร่วมเป็นหนึ่งในองค์กรร่มดังกล่าวนี้และร่วมกันกำหนดแนวทางในการต่อสู้ รวมทั้งกำหนดข้อเรียกร้องร่วมในการเข้าสู่การเจรจาสันติภาพกับฝ่ายรัฐบาลไทย

หลังการเจรจาถกถียงกันอย่างยาวนานเป็นเวลาหลายวัน ท้ายสุดทุกฝ่ายเห็นชอบว่าองค์กรร่มดังกล่าวนี้ต้องมีการปรับโครงสร้างและตกลงกันให้ชื่อเรียกขานใหม่ว่า MAJLIS SYURA PATANI และชื่อย่อขององค์กรยังคงเป็น MARA PATANI (เพื่อเป็นยอมรับการริเริ่มของ BRN) ซึ่งมีชื่อภาษาอังกฤษว่า PATANI CONSULTATIVE COUNCIL (PCC, หรืออาจแปลได้ว่าสภาชูรอแห่งปาตานี – กองบรรณาธิการ deepsouthwatch) โดยมีองค์กรเข้าร่วมที่ประกอบด้วย

            1. แนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปาตานี (คณะผู้ก่อการใน BRN)

            2. แนวร่วมอิสลามปลดปล่อยปาตานี (BIPP)

            3. องค์การปลดปล่อยสหปาตานี (PULO-P4)

            4. องค์การปลดปล่อยสหปาตานี (PULO-dspp)

            5. องค์การปลดปล่อยสหปาตานี (PULO-mkp)

            6. ขบวนการมูญาฮิดีนอิสลามปาตานี (GMIP)

การเข้าร่วมในองค์กร MARA PATANI ของหกองค์กรนักต่อสู้ปาตานีในครั้งนี้ส่งผลให้ MAJLIS SYURA PATANI (MARA PATANI) เป็นองค์กรที่รวมตัวกันของกลุ่มนักต่อสู้เพื่อปาตานีทั้งหมดที่ยังคงทำงานอยู่ในทุกวันนี้ ที่แม้ว่าการริเริ่มขององค์กรนี้เป็นความพยายามเฉพาะของ BRN ก็ตาม แต่จากการยืนยันของแหล่งข่าวภายใน การก่อตัวของ MAJLIS SYURA PATANI ที่เกิดขึ้นใหม่นี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือและความเห็นพ้องต้องกันของทุกองค์กรโดยปราศจากการชี้นำ การหนุนเสริม หรือกดดันจากมาเลเซียในฐานะผู้อำนวยความสะดวกแต่อย่างใด

MARA PATANI ณ ปัจจุบันมีเพียงสมาชิกจากตัวแทนหกองค์กรนักต่อสู่ดังที่กล่าวมาเท่านั้น ในอนาคต MARA PATANI จะเปิดรับบรรดาตัวแทนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มต่างๆ ในปาตานีเข้าร่วมในองค์กรร่มดังกล่าวนี้ เพื่อจะได้ร่วมกันพิจารณาถึงแนวทางและเป้าหมายและข้อเรียกร้องทางการเมืองอันเป็นความต้องการที่แท้จริงของประชาชนปาตานี

แม้ว่ากระบวนการก่อตัวของ MARA PATANI จะถูกมองจากบางคนว่าเป็นความพยายามในลักษณะ Top-down หรือจากบนลงล่าง โดยไม่ได้เกิดจากเสียงรากหญ้าในหมู่ประชาชนชาวปาตานี แต่แน่นอนกระบวนการต่อสู้เพื่อเรียกร้องอิสรภาพและเอกราชย่อมไม่เป็นที่สงสัยว่าความพยายามนี้เป็นดอกผลการริเริ่มจากกลุ่มองค์กรนักต่อสู่เหล่านั้นที่ได้ต่อสู้เรียกร้องมากกว่าครึ่งศตวรรษ

เป้าหมายการก่อตั้ง MARA PATANI ไม่ใช่เป็นเพียงการนำพาตนเองเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลไทยเท่านั้น แต่จะมุ่งดำเนินการเพื่อให้ได้รับการยอมรับและสนับสนุนจากนานาชาติในฐานะการต่อสู้ของประชาชนชาวปาตานีในกรอบคิด “สิทธิในการกำหนดชะตากรรมตนเอง (Right to Self-Determination) อีกด้วย และต้องยืนยันด้วยว่าแม้ว่าองค์กรนักต่อสู่เพื่อปาตานีทั้งหมดต่างเห็นชอบที่จะเข้าร่วมกระบวนการเจรจาสันติภาพ แต่ไม่มีแม้แต่องค์กรใดที่จะละทิ้งข้อเรียกร้องเพื่อเอกราชของปาตานีที่พวกเขาต่อสู้มาอย่างยาวนานแต่อย่างใด

ในฐานะที่เป็นองค์กรร่มที่เกิดขึ้นใหม่ แน่นอนว่า MARA PATANI นั้นไม่ได้ไร้ซึ่งจุดอ่อนและข้อจำกัดในหลายๆ ด้าน แต่ด้วยความตั้งใจและความจริงจังของทุกๆ ฝ่ายที่หนุนเสริมและมีความเห็นพ้องต้องกัน เป็นที่คาดหวังว่า MARA PATANI จะมั่นคงแข็งแรงในอนาคต

เป็นไปได้ว่า MARA PATANI อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการบรรลุความมุ่งหวังของชาวปาตานี แต่ ณ วินาทีนี้ MARA PATANI ถือเป็นเสียงของฉันทามติเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถจะขับเน้นออกมาเพื่อรับความสนับสนุนจากประชาชนทุกหมู่เหล่า ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีกระบวนการเจรจาสันติภาพหรือไม่ก็ตาม

มีข้อกังวลประการหนึ่งจากผู้สังเกตการณ์ที่ว่า MARA PATANI จะประสบความล้มเหลวหากว่าสมาชิกของ BRN ที่มีบทบาทภายใน MARA PATANI ซึ่งในที่นี้ก็คือคณะผู้ก่อการใน BRN นั้นไม่ได้เป็นผู้ที่มีฉันทานุมัติ (mandate) จากองค์กร ที่จริงแล้วเรื่องนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะประเมินอย่างเป็นภาวะวิสัยว่า MARA PATANI นั้นจะมีความสามารถที่จะทำอะไรได้อย่างมีประสิทธิผลในกระบวนการพูดคุย องค์กรนี้จะเติบโตและพัฒนาสู่เป้าหมายหรืออาจจะเป็นไปในทางกลับกันยังขึ้นอยู่กับเวลาและสถานการณ์เท่านั้นที่จะเป็นตัวกำหนด

ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ กองเลขานุการของ MARA PATANI จะจัดให้มีการประชุมหรือการพบปะกันของสมาชิกใน MAJLIS SYURA PATANI เพื่อยืนยันถึงสถานภาพขององค์กร พร้อมๆ กับร่วมกำหนดแนวทางการต่อสู้และถือเป็นการประกาศเปิดตัวองค์กรอย่างเป็นทางการ

สุดท้ายนี้ แหล่งข่าวใน MARA PATANI ยังได้คาดหวังว่าองค์กรประชาสังคม (CSOs) องค์กรเอกชนนอกภาครัฐ (NGOs) นักเคลื่อนไหว และประชาชนชาวปาตานีที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง ต้องการความยุติธรรม และอิสรภาพ จะให้การสนับสนุน MARA PATANI ในฐานะที่เป็นหนึ่งเสียงและหนึ่งแนวทาง (SATU SUARA dan SATU SALURAN) ที่จะรักษาเจตนารมณ์และความมุ่งมาดปรารถนาของประชาชนมลายูปาตานี นอกจากนี้แล้ว พวกเขายังได้เรียกร้องต่อกลุ่มต่างๆ ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในปาตานีให้ตอบรับข้อเรียกร้องของ MARA PATANI เมื่อยามที่ขอให้มายืนเคียงบ่าเคียงไหล่แบกรับภาระอันหนักอึ้งนี้

พวกเราทุกคนคงต้องรอผลการตอบรับจากทุกๆ ฝ่ายว่าจะเป็นอย่างไรหลังจากที่ MARA PATANI เปิดตัวอย่างเป็นทางการในอีกไม่ช้า

 

อาบูฮาฟิส อัลฮากิม

จากนอกรั้วปาตานี

23 พฤษภาคม 2558


ที่มา เว็บไซต์ deepsouthwatch
 


หมายเหตุกองบรรณาธิการ deepsouthwatch:
บทความชิ้นนี้เขียนโดยอาบูฮาฟิซ อัลฮากีม หนึ่งในบล็อกเกอร์ที่เป็นสมาชิกกลุ่มแนวร่วมอิสลามปลดปล่อยปาตานี (BIPP) เผยแพร่ครั้งแรกในบล็อกของเขาเป็นภาษามลายู และแปลเป็นภาษาอังกฤษ กองบรรณาธิการเห็นว่าข้อสงสัยเกี่ยวกับองค์กรที่ชื่อว่า มาร่า ปาตานี นั้นเป็นที่ถกเถียงอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ในขณะเดียวกันการปรากฏตัวขององค์กรร่มที่ว่านี้ยังถือเป็นพัฒนาการใหม่ของกระบวนการสันติภาพที่น่าสนใจ กองบรรณาธิการจึงแปลบทความดังกล่าวเป็นภาษาไทยอีกครั้งเพื่อให้ผู้ที่สนใจได้ติดตามความเคลื่อนไหวครั้งนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net