Skip to main content
sharethis

บอร์ด กสทช. มีมติ 6: 0 เสียง ไม่ให้เลื่อนชำระค่าประมูลทีวีดิจิทัลงวดที่ 2 ตามความเห็นของ สตง. และ อสส. ว่าอาจทำรัฐเสียหาย ชี้ถ้าไม่ชำระตามกำหนดปรับ 7.5% ต่อปี ล่าสุด ชำระแล้ว 3 ราย เป็นเงินกว่า 1.3 พันล้าน

22 พ.ค. 2558 ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กสทช. วาระพิเศษ พิจารณาเรื่องการเลื่อนกำหนดระยะเวลาในการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ มีมติ 6 ต่อ 0 เสียง เห็นชอบกับความเห็นของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ไม่ให้เลื่อนกำหนดระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทีวีดิจิตอลงวดที่ 2 และให้ผู้ประกอบกิจการ ทั้ง 24 ราย มาชำระเงิน ภายในวันที่ 25 พ.ค.2558 หากไม่มาชำระ สำนักงาน กสทช. จะส่งหนังสือไปถึง และต้องเสียค่าปรับ ร้อยละ 7.5 ต่อปี ตามหนังสือตอบกลับจาก สตง. และ อสส.

บอร์ด กสทช. ได้มีหนังสือสอบถามความเห็น โดย สตง. ตอบกลับมาเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2558 ว่า การเลื่อนชำระค่าประมูลออกไป กสทช. ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ พ.ศ. 2556 และในเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ ได้ระบุถึงระยะเวลาการชำระค่าธรรมเนียมให้ใช้คลื่นความถี่ไว้อย่างชัดเจน ซึ่งถือเป็นการทำสัญญาหรือข้อตกลงระหว่างกัน ถ้าเลื่อนจะต้องมีการแก้ไขเงื่อนไขแนบท้าย ซึ่งจะทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย และเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน

ในส่วนของสำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีหนังสือตอบกลับมาเมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2558 ให้ความเห็นว่า กสทช. ไม่อาจเลื่อนออกไปได้ นอกจากจะแก้ไขประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ พ.ศ. 2556 หรือออกประกาศฉบับใหม่โดยประกาศฉบับใหม่จะต้องไม่ทำให้รัฐเสียหาย ซึ่ง กสทช. ต้องพิจารณาว่า การกระทำดังกล่าวจะมีผลเอื้อประโยชน์แก่เอกชนบางรายหรือไม่ และจะเป็นการทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการหรือไม่ ซึ่งนัยดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการเลื่อนออกไปได้

ล่าสุด มาชำระแล้ว 3 ราย ได้แก่ บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด หรือ ช่อง 7HD จำนวน 683,730,000 บาท บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด ช่อง เวิร์คพอยท์ จำนวน 333,305,000 บาท และบริษัท โมโน บรอดคาซท์ จำกัด ช่อง MONO 29 จำนวน 322,070,000 บาท รวมเป็นจำนวนเงิน 1,339,105,000 บาท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net