รอบโลกแรงงานเมษายน 2015

เรือประมงรัสเซียล่มกลางทะเล ลูกเรือตาย-หายเกือบ 70
 
2 เม.ย. 2015 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเกิดอุบัติเหตุสลด เรือประมงอวนลากของรัสเซีย ‘The Dalniy Vostok’ อับปางกลางทะเล ออกฮอต์สก์ นอกชายฝั่งคาบสมุทรคัมชัตคา ทางภาคตะวันออกไกลของประเทศรัสเซีย เป็นเหตุให้ลูกเรือเสียชีวิตอย่างน้อย 54 คน และยังสูญหายอีกราว 15 คน ขณะที่สามารถช่วยชีวิตลูกเรือขึ้นมาจากท้องทะเลได้แล้วกว่า 60 คน เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา (1 เม.ย.)
 
ด้านสำนักข่าวอิทาร์ทาสส์ ของรัสเซีย รายงานว่า เรือประมงอวนลากลำนี้ มีลูกเรือ 132 คน ประกอบด้วย ชาวรัสเซีย 78 คน ที่เหลืออีก 54 คนเป็นแรงงานต่างชาติ มีทั้งชาวเมียนมาร์, ยูเครน, ลิทัวเนีย และวานูอาตู ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมาร์ โดยขณะนี้ เรือประมงอีกนับ 20 ลำ กำลังช่วยกันค้นหาลูกเรืออีก 15 คนที่ยังสูญหาย
 
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เรือประมงอวนลาก เกิดอับปางกลางทะเลออกฮอต์สก์นั้น มีการคาดการณ์ว่า เนื่องจากชนกับหินโสโครก จนท้องเรือได้รับความเสียหาย หรือบางทีอาจเป็นเพราะเรือประมงได้บรรทุกปลาที่จับขึ้นมาได้แล้วหนักถึงประมาณ 80 ตัน ไว้บนดาดฟ้าของเรือ จนทำให้เรือพลิกคว่ำ
 
ชี้เศรษฐกิจฝรั่งเศสจะฟื้นตัวแต่อัตราการว่างงานจะสูงเป็นประวัติการณ์
 
3 เม.ย. 2015 สำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศส หรืออินซี คาดหมายว่า เศรษฐกิจของฝรั่งเศส ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร หรือ ยูโรโซน จะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แต่คาดว่าอัตราการว่างงานจะยังคงสูงเป็นประวัติการณ์ต่อไป
 
สถาบันอินซี ซึ่งเผยแพร่ผลการสำรวจเมื่อวานนี้ กล่าวว่า เศรษฐกิจของฝรั่งเศสจะขยายตัวร้อยละ 0.4 ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และเติบโตร้อยละ 0.3 ในช่วงครึ่งหลังของปี ในขณะที่นายมิเชล ซาแปง รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูงที่เศรษฐกิจตลอดทั้งปีจะขยายตัวมากกว่าร้อยละ 1.0 ซึ่งสูงกว่าที่ทางการประมาณการเอาไว้ แต่การคาดหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจในทางบวกกลับไม่เพียงพอที่จะทำให้อัตราการว่างงานในประเทศปรับตัวลดลงได้ โดยคาดหมายว่า อัตราการว่างงานจะพุ่งสูงถึงร้อยละ 10.2 ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 20 ปี
 
แรงงานประมงต่างชาติหลายร้อยคนที่ถูกทิ้งในอินโดนีเซียรุดขอความช่วยเหลือ
 
3 เม.ย. 2015 แรงงานประมงต่างชาติหลายร้อยคนที่ถูกทิ้งไว้บนเกาะแห่งหนึ่งของอินโดนีเซียรีบเดินทางไปหาเจ้าหน้าที่อินโดนีเซียที่เปิดการสอบสวนเรื่องนี้และเสนอจะช่วยเหลือพวกเขา
แรงงานจำนวนมากพากันวิ่งฝ่าสายฝนกลับไปเก็บของใช้ส่วนตัวเท่าที่มีแล้วขึ้นเรือกลับไปรอที่ท่าเรือ หลังจากทราบข่าวว่าอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและตรวจตราการประมงของอินโดนีเซียบอกกับแรงงานจากเมียนมาร์ประมาณ 20 คนว่า จะพาพวกเขาออกจากเกาะเบนจินาหลังจากที่ได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่แล้วในวันนี้ ทางการอินโดนีเซียเผยว่า เกาะเบนจินามีคนจากกองทัพเรือดูแลอยู่เพียง 2 คน จึงจะนำพวกเขานั่งเรือ 12 ชั่วโมงไปยังเกาะตวลเพื่ออยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการประมงและตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ต่อไป
 
คณะเจ้าหน้าที่อินโดนีเซียเริ่มสอบปากคำแรงงานประมงต่างชาติและประเมินสถานการณ์บนเกาะเบนจินาในช่วงหลายวันที่ผ่านมา แรงงานเหล่านี้เผยว่า ถูกทำร้ายขณะหาปลากลางทะเล ทั้งเตะ เฆี่ยนด้วยหางปลากระเบน และช็อตไฟฟ้า ไม่ได้รับประทายาเมื่อป่วย ทำงานนานหลายชั่วโมงและแทบไม่ได้รับค่าจ้าง แรงงานวัย 42 ปีคนหนึ่งกล่าวว่า ดีใจมากที่จะได้กลับไปพบหน้าพ่อแม่แม้ยังไม่รู้ว่าเมื่อกลับบ้านเกิดที่เมียนมาร์แล้วอนาคตจะเป็นอย่างไร
 
รัฐบาลอินโดนีเซียเปิดปฏิบัติการช่วยเหลือแรงงานต่างชาติ
 
4 เม.ย. 2015 รัฐบาลอินโดนีเซียเปิดปฏิบัติการช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรม แรงงานเมียนมาร์ กัมพูชา ลาว 319 คนจากเกาะเบนจินา นำขึ้นเรือมาถึงเกาะตวลวันนี้ (4 เม.ย.) โดยสถานทูตเมียนมาร์ ลาว กัมพูชา จะมาถึงเกาะตวลวันจันทร์นี้เพื่อดำเนินการส่งกลับประเทศ ส่วนแรงงานไทยที่เกาะเบนจินา 746 คน ทางกระทรวงกิจการทะเลและประมง อินโดนีเซีย ระบุว่า รัฐบาลไทย และทางบริษัทจะดำเนินการช่วยเหลือในการส่งกลับ ส่วนตำรวจอินโดนีเซียอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนว่ามีการบังคับใช้แรงงานและมีการค้ามนุษย์หรือไม่
 
พนักงานบัญชีหญิงชาวออสเตรเลียถูกเลิกจ้าง เหตุแชทนินทาบอสให้เพื่อนฟัง แต่ดันเผลอพิมพ์ส่งไปให้เจ้าตัว
 
12 เม.ย. 2015 เว็บไซต์ข่าวนิวยอร์กเดลินิวส์ได้เผยแพร่เรื่องราวเป็นอุทาหรณ์ให้แก่ลูกจ้างพนักงานทั้งหลาย เมื่อ 'หลุยอิส เนสบิต' หญิงชาวออสเตรเลียรายหนึ่งผู้ประกอบอาชีพพนักงานบัญชีในบริษัทเหมืองแร่ทองคำ เกิดคันปากพิมพ์นินทา 'ร๊อบ การ์ดเนอร์' เจ้านายของเธอให้ว่าที่ลูกเขยของเธอฟัง แต่ดันเผลอพิมพ์ส่งไปให้เจ้านายแทนเสียอย่างนั้น
 
หลุยอิสได้นินทาเจ้านายของตัวเองว่าเป็น "ใครๆ เขาก็รู้ดีว่าร๊อบเป็นไอ้งั่ง!" ก่อนที่เธอจะฉุกคิดได้ก็สายไป
 
หลุยอิสพิมพ์ขอโทษทันทีที่เธอรู้ตัวว่าเธอเผลอทำอะไรลงไป โดยบอกว่า "แค่พูดหยอกล้อที่ดูเยอะไปหน่อยเท่านั้นเอง" พร้อมร้องขอให้ช่วยลบข้อความเหล่านั้นด้วย
 
แต่ร๊อบไม่สนใจ นำข้อความดังกล่าวไปให้ฟังเรียกร้องเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่ได้ตัดสินว่าข้อความดังกล่าวถือเป็นข้อความที่หยาบคาย จึงเป็นสาเหตุหลักๆ ให้หลุยอิสถูกเลิกจ้างในเวลาต่อมา หลังจากทำงานที่แห่งนี้มานาน 6 ปี
 
นายจ้างจีนหอบเงินสดกองสูงแจก พนง. ดีเด่น ต้องใส่กระสอบแบกกลับบ้าน
 
13 เม.ย. 2015 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัทธุรกิจอีคอมเมิร์ชจีนแห่งหนึ่ง สร้างความฮือฮาสุด ๆ หลังสร้างเซอร์ไพรส์ เบิกเงินสดเป็นกองสูงพะเนิน เพื่อ แจกเงินก้อนใหญ่ให้แก่บรรดาพนักงานที่ติดกลุ่มมีผลการทำงานยอดเยี่ยม โดย เงินดังกล่าวมาจากการขายหุ้นของซีอีโอ
 
รายงานระบุว่า ไอเดียสุดใจป้ำนี้มีขึ้นหลังจากบริษัทดังกล่าวที่ไม่มีการเผยชื่อซึ่งตั้งอยู่ในมณฑลหูหนาน มีผลกำไรอย่างมาก หลังจากหุ้นของบริษัทพุ่งทะยานสูงเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และทำให้ราคาหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบแทนเหล่าบรรดาพนักงานที่มีผลการทำงานยอดเยี่ยมดีเด่น บริษัทได้เบิกเงินสดเป็นจำนวนราว 14.2 ล้านหยวน หรือ ประมาณ 69.8ล้านบาท เพื่อแจกให้แก่พนักงานเหล่านี้ ในงานฉลองกิจการที่หรูหราของบริษัท เมื่อวันพฤหัสบดีที่9 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยเงินดังกล่าวมาจากการขายหุ้นส่วนตัวบางส่วนของซีอีโอเพื่อนำมาเบิก แจกให้กับพนักงานเหมือนโบนัสพิเศษ  
           
เหตุการณ์นี้สร้างความเซอร์ไพร์ส จนตกตะลึงให้แก่เหล่าพนักงานอย่างมาก เพราะเมื่อก้าวเข้ามาในห้อง ก็ต้องตาลุกวาวกับเงินที่ตั้งเป็นกองพะเนินที่อยู่ต่อหน้า  จากนั้น  บริษัท ได้แจกโบนัสให้แก่พนักงานผลงานดีเด่นแต่ละคน ซึ่งได้รับเงินสดเป็นปึกมูลค่า 3 ล้านหยวน หรือ คนละ  14.7ล้านบาทโดยพนักงานจำนวนนี้หลายคนถึงกับต้องนำกระสอบกลับมายังที่ทำงานเพื่อหอบเงินสดจำนวนเป็นฟ่อนเหล่านี้กลับบ้าน  แต่ข่าวไม่ได้บอกว่า มีพนักงานดีเด่น ได้เซอร์ไพร์สนี้ไปทั้งหมดกี่คน 
 
บริษัทอินเดียประสบปัญหาขาดแคลนผู้บริหารหญิงอ้างผู้หญิงขาดความสามารถ
 
13 เม.ย. 2015 วีโอเอรายงานว่ากฏหมายที่รัฐบาลอินเดียบังคับใช้เมื่อปีที่แล้วมุ่งสร้างความเท่าเทียมในที่ทำงานและต้องการเพิ่มจำนวนผู้หญิงที่ทำงานในตำแหน่งคณะกรรมการบริหารบริษัทให้มากขึ้น 
 
แต่เมื่อครบกำหนดเส้นตายเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ราว 150 บริษัทจากทั้งหมดประมาณ 1,475 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยังหาผู้ที่เหมาะสมเข้ารับตำแหน่งไม่ได้ ส่วนบริษัทที่หาผู้หญิงขึ้นดำรงตำแหน่งได้ เกือบครึ่งหนึ่งของทั้งหมดแต่งตั้งญาติผู้หญิง ภรรยาหรือไม่ก็ลูกสาวขึ้นดำรงตำแหน่งดังกล่าว รวมทั้งบริษัท Reliance Industries ซึ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย 
 
คุณ Pranav Haldea แห่ง PRIME Database บริษัทวิจัยด้านการตลาดในกรุงนิวเดลลีรู้สึกคลางแคลงใจต่อกฏหมายนี้ เขากล่าวว่าที่น่าเป็นห่วงมากกว่านั้นคือบริษัทเหล่านี้อ้างว่าทำตามข้อกำหนดทั้งๆ ที่แต่งตั้งสมาชิกในครอบครัวตัวเองที่เป็นผู้หญิงขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บริหาร เขาคิดว่านี่เป็นการล้อเลียนต่อกฏหมาย เพราะญาติผู้หญิงก็ต้องเข้าข้างเจ้าของบริษัท ส่งผลให้กฏหมายดังกล่าวไม่มีผลอย่างที่วางไว้ 
 
บริษัทเอกชนจำนวนมากให้เหตุผลว่าอินเดียขาดแคลนผู้หญิงที่มีความสามารถพอที่จะดำรงตำแหน่งในบอร์ดผู้บริหาร
 
นาย Uday Chawla ผู้อำนวยการแห่งบริษัทเสาะหาผู้บริหาร Transearch India บริษัทรับผู้เสาะหาผู้สมัครที่มีคุณสมบัติตามกำหนด กล่าวว่าเขาประสบปัญหาในการเสาะหาผู้หญิงที่มีประสบการณ์ในตำแหน่งคณะกรรมการบริหารมาก่อนแล้ว
 
Chawla กล่าวว่า บริษัทเอกชนที่มีความเป็นมืออาชีพต้องการผู้หญิงที่จะเข้าดำรงตำแหน่งบอร์ดบริหาร ที่มีความสามารถในการทำงานให้บริษัทจริงๆ ไม่ใช่แค่แต่งตั้งให้ผู้หญิงคนใดก็ได้เข้าทำงานในตำแหน่งนี้เพียงเพราะต้องทำตามข้อบังคับของกฏหมายเท่านั้น
 
บริษัทเหล่านี้กำหนดคุณสมบัติเอาไว้สูงมากว่าต้องมีความสามารถและมีประสบการณ์ในตำแหน่งมาก่อน แต่มีผู้หญิงอินเดียน้อยมากที่มีประสบการณ์ในตำแหน่งนี้มาก่อน
 
แต่นักวิจารณ์หลายคนชี้ว่าที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าบริษัทต่างๆ ไม่ให้ความสำคัญกับกฏหมายนี้และไม่เพิ่มความพยายามในการเสาะหาผู้ที่มีคุณสมบัติ 
 
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ความล้มเหลวของบริษัทเอกชนอินเดียในการค้นหาผู้หญิงเข้าดำรงตำแหน่งบอร์ดผู้บริหารนี้ทำให้อินเดียมีผู้หญิงดำรงตำแหน่งทางด้านการบริหารระดับสูงมีน้อยมาก โดยจัดอยู่ในอันดับที่ต่ำที่สุดประเทศหนึ่งในโลกเพราะมีจำนวนผู้หญิงในตำแหน่งสูงๆ ของบริษัทเพียง 15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น 
 
ผลการศึกษาโดย Catalyst หน่วยงานไม่หวังผลกำไรที่มุ่งส่งเสริมสภาพแวดล้อมในที่ทำงานที่หลากหลายทางเพศชี้ว่า เกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงที่ทำงานในบริษัทเอกชนอินเดียลาออกจากงานในช่วงระยะเริ่มต้นถึงตอนกลางของชีวิตการทำงาน เทียบกับ 29 เปอร์เซ็นต์ทั่วทวีปเอเชีย 
 
Shachi Irde ผู้อำนวยการบริหารแห่ง บริษัท Catalyst India ชี้ว่าเหตุผลหนึ่งที่ผู้หญิงต้องลาออกจากงานเพราะต้องรับหน้าที่ดูแลครอบครัวเป็นหลัก เธอกล่าวว่าบริษัทต่างๆ จำเป็นต้องใช้นโยบายก้าวหน้าในการเพิ่มจำนวนลูกจ้างเพศหญิง หากบริษัทเอกชนให้ความสำคัญและปฏิบัติต่อลูกจ้างผู้หญิงอย่างเท่าเทียม เธอคิดว่าจะมีผู้หญิงทำงานในบริษัทเพิ่มมากขึ้นแทนที่จะลาออกจากบริษัท 
 
Irde กล่าวว่าทางบริษัทเอกชนควรใช้ประสบการณ์ในการทำงานเป็นเงื่อนไขหลัก ในการแต่งตั้งผู้หญิงเข้าเป็นคณะกรรมการบริหาร แทนการจำกัดว่าต้องเคยดำรงตำแหน่งมาก่อน 
 
ด้านคุณ Pranav Haldea กล่าวว่าปัญหาที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่า บริษัทอินเดียจำนวนมากไม่คิดว่าการมีลูกจ้างผู้หญิงในบริษัทจำนวนมากขึ้นเป็นการเพิ่มมูลค่าแก่บริษัท เขากล่าวว่าไม่เชื่อว่าการออกฏหมายออกมาเพิ่มเติมเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ถูกจุด แต่คิดว่าควรแก้ที่ทัศนคติของเจ้าของบริษัทมากกว่า ตราบใดที่เจ้าของบริษัทและฝ่ายจัดการไม่เห็นความสำคัญของการบริหารจัดการบริษัทที่ดี พวกเขาก็จะยังหาทางเลี่ยงกฏหมายกันต่อไป
 
บริษัทน้ำมัน "สแตท ออยล์" ของนอร์เวย์ เตรียมปลดพนักงาน 2,400 คน ในเดือน พ.ค. เพื่อลดค่าใช้จ่าย
 
14 เม.ย. 2015 สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ว่า สแตท ออยล์ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของนอร์เวย์ ประกาศเตรียมปลดพนักงาน 2,400 คน ในเดือน พ.ค. หรือเกือบร้อยละ 11 ของพนักงานทั้งหมด เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงดิ่งลง ทั้งนี้ จากรายงานของหนังสือพิมพ์ ดาเกนส์ เนรินสลีฟ ฉบับวันจันทร์ โดยอ้างการเปิดเผยของตัวแทนแรงงาน ระบุว่า การปรับลดพนักงานจะส่งผลกระทบต่อแผนกวิศวกรรม โดยเฉพาะส่วนที่ทำงานบนแท่นขุดเจาะ และดูแลรักษาบ่อน้ำมัน รวมทั้งพนักงานฝ่ายบริหาร
 
นายยานนิค ลินด์แบค โฆษกสแตท ออยล์ กล่าวว่า บริษัทกำลังหาแนวทางเสริมการผลิต ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตำแหน่งงาน แต่ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสามารถระบุจำนวนสุดท้ายที่แน่ชัดได้ การปรับลดพนักงานเป็นส่วนหนึ่งของโครงการประหยัดรายจ่ายรายปี 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปี 2559 ตามที่สแตท ออยล์ ประกาศเมื่อปีที่แล้ว เมื่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ยังคงอยู่เหนือ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
 
ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปีที่แล้ว และล่าสุดอยุ่ต่ำกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้บรรดายริษัทด้านพลังงาน ต้องเร่งดำเนินมาตรการตัดลดรายจ่าย และระงับหรือลดระดับการลงทุนตามแผน โดยในส่วนของสแตท ออยล์ ซึ่งประสบภาวะขาดทุนในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว และกำไรลดลงครึ่งหนึ่ง จากผลประกอบการตลอดทั้งปี ได้ประกาศลดการลงทุนลงร้อยละ 10 จากงบประมาณตามแผนที่กำหนดไว้ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับปีนี้ และปรับลดพนักงานลงอีก จากที่ลดไปแล้วร้อยละ 8 เหลือ 22,500 คนเมื่อปีที่ผ่านมา
 
ซีอีโอหนุ่มอเมริกันไฟแรงประกาศจะให้เงินเดือนขั้นต่ำพนักงานทุกคน 70,000 ดอลล่าร์
 
15 เม.ย. 2015 วันอังคารที่ 14 เมษายน ที่กรุงวอชิงตัน เป็นวัน Equal Pay Day  โดยวีโอเอรายงานว่า Dan Price เจ้าของบริษัท Gravity Payments ซึ่งทำบัญชีบัตรเครดิตให้กับร้านค้าในนคร Seattle รัฐ Washington ประกาศให้ลูกจ้างพนักงานทั้งหมดรับทราบว่า ในช่วงสามปีข้างหน้า เขาจะขึ้นเงินเดือนให้ลูกจ้างทุกคน โดยกำหนดขั้นต่ำสุดไว้ที่ 70,000 ดอลลาร์ 
 
เงินที่จะเอามาใช้จ่ายตามเป้าหมายนี้ จะมาจากเงินเดือนของเขาเอง ซึ่งเท่ากับหนึ่งล้านดอลลาร์ในขณะนี้ แต่จะลดลงไปอยู่ที่ 70,000 ดอลลาร์ และเงินกำไรของบริษัท CEO ของบริษัท Gravity Payments ผู้นี้บอกว่า ที่ตัดสินใจทำเช่นนี้เพราะได้อ่านผลงานวิจัยของนักจิตวิทยาที่ได้รับรางวัลโนเบลสองคน ซึ่งระบุว่า คนที่มีรายได้ต่ำกว่า 70,000 ดอลลาร์ จะมีความสุขเพิ่มมากขึ้นอย่างจริงจัง ถ้ามีรายได้เพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ราวๆ 75,000 ดอลลาร์
 
CEO ผู้นี้บอกไว้ด้วยว่า เขาไม่เห็นด้วยที่เงินเดือนผู้บริหารกับพนักงานลูกจ้างในอเมริกามีความแตกต่างกันมากกว่า 350 เท่าตัว และอยากจะเห็นลูกจ้างพนักงานของเขาเป็นคนทำงานที่มีความสุขด้วย
 
IOM ระบุจำนวนผู้อพยพจากแอฟริกาเข้าอิตาลีในปีนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ
 
16 เม.ย. 2015 องค์การ Save the Children รายงานว่า เฉพาะในช่วงระหว่างวันที่ 10-13 เมษายนที่ผ่านมา หน่วยรักษาชายฝั่งของอิตาลีต้องให้ความช่วยเหลือผู้อพยพจากแอฟริกาแล้วมากกว่า 7 พันคน ในจำนวนนี้เป็นเด็กราวๆ 450 คน
 
Joel Millman โฆษกของ International Organization for Migration (IOM) กล่าวว่า ตัวเลขนี้บ่งชี้ว่า ฤดูการลักลอบนำผู้อพยพเข้าเมืองสำหรับปีนี้กำลังดำเนินไปอย่างแข็งขันแล้ว
 
เจ้าหน้าที่ของ (IOM) ผู้นี้บอกว่า ตามอัตราที่เป็นอยู่ขณะนี้ จำนวนผู้อพยพจากแอฟริกาเข้าอิตาลีในปีนี้ มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ และว่าจะมีผู้เสียชีวิตมากกว่าปีที่แล้วอย่างน้อยห้าเท่าตัว เพราะเท่าที่เป็นไปจนถึงกลางเดือนเมษายน มีผู้อพยพเสียชีวิตระหว่างการเดินทางจากแอฟริกาเหนือข้ามทะเล Mediterranean เพื่อขึ้นบกที่อิตาลี แล้วมากกว่า 500 คน เทียบกับจำนวนในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมีเพียง 47 คน
 
Joel Millman โฆษกของ IOM อธิบายว่า สาเหตุจูงใจให้ผู้อพยพเสี่ยงภัย ส่วนใหญ่เป็นเพราะคนเหล่านี้ เป็นแรงงานจากแอฟริกาตะวันตกที่เข้าไปทำงานในประเทศ Libya เมื่อเกิดความไม่สงบใน Libya และมีอาชญากรรมเพิ่มขึ้น รวมทั้งการส่งเงินกลับประเทศของตนทำได้ยากมากขึ้น คนเหล่านี้จึงพยายามหนีภัยออกจาก Libya ไปแสวงโชคในยุโรป
 
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ฝ่ายผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติกล่าวว่า ในปีที่แล้ว มีผู้อพยพจากแอฟริกาเหนือเสียชีวิตอย่างน้อย 3,500 คน ด้านองค์กรระหว่างประเทศกำลังเรียกร้องให้สหภาพยุโรป (EU) เร่งดำเนินการป้องกันมิให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก 
 
อินโดฯ ประท้วงซาอุฯ ประหารคนงานอิเหนาฆ่านายจ้างปกป้องตนเอง
 
16 เม.ย. 2015 จาการ์ตาเรียกเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียเข้าพบในวันพุธ (15 เม.ย.) เพื่อประท้วงต่อกรณีริยาดเดำเนินการประหารชีวิตแรงงานรับใช้ประจำบ้านคนหนึ่ง ฐานฆ่านายจ้างเสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน โดยร้องเรียนว่าครอบครัวของนักโทษหญิงและเจ้าหน้าที่สถานกงสุลไม่เคยได้รับแจ้งล่วงหาเกี่ยวกับการลงทัณฑ์ ขณะที่เอ็นจีโอเพื่อสิทธิคนงานอินโดนีเซียออกโรงประณาม พร้อมอ้างว่าผู้ต้องหาลงมือเพื่อปกป้องตนเอง
       
เจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียบอกว่า ซิติ ไซนับ ถูกประหารที่เมืองเมดินาเมื่อวันอังคาร (14 เม.ย.) หลังถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานจ้วงแทงและทำร้าย นัวรา อัล-โมโรเบอี นายจ้างหญิงเสียชีวิตในปี 1999
       
ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด และผู้นำอินโดนีเซีย 3 คนก่อนหน้านี้เคยเขียนหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรถึงกษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย กราบบังคมทูลขอพระองค์ช่วยร้องขอครอบครัวเหยื่อให้อภัยแก่ไซนับ ทว่า การประหารก็ยังมีขึ้น แม้จาการ์ตาอ้างว่าครอบครัวของนักโทษหญิงรายนี้และเจ้าหน้าที่สถานกงสุลอ้างว่าไม่เคยได้รับแจ้งอย่างสมควรก่อนหน้าการลงทัณฑ์เลย
       
“รัฐบาลพยายามให้ความช่วยเหลือเธอตั้งแต่แรกเริ่มและร้องขอครอบครัวเหยื่อให้อภัยเธอ” กระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียระบุในถ้อยแถลงในช่วงค่ำวันอังคาร (14 เม.ย.) “รัฐบาลอินโดนีเซียยื่นประท้วงรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ฐานไม่แจ้งล่วงหน้าแก่ตัวแทนของอินโดนีเซียหรือครอบครัวของนักโทษต่อวันเวลาของการประหาร”
       
อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงมหาดไทยของซาอุดีอาระเบียชี้แจงว่าได้เลื่อนการประหารไซนับ มาเป็นเวลานานแล้ว เพื่อรอจนกว่าลูกๆ ของเหยื่อจะโตเสียก่อน จากนั้นถึงเพิ่งตัดสินใจดำเนินกาลงทัณฑ์นักโทษรายนี้
       
องค์กร Migrant Care เอ็นจีโอเพื่อสิทธิแรงงานอินโดนีเซียในต่างแดน ประณามการประหารครั้งนี้ และอ้างว่าไซนับลงมือเพียงเพื่อปกป้องตนเองจากการถูกนายจ้างข่มเหงเท่านั้น
       
ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆ ใช้การประหารชีวิตไซนับ เรียกร้องอินโดนีเซียยกเลิกการสนับสนุนโทษประหารชีวิต เนื่องจากจาการ์ตาเองก็ยังคงเดินหน้าลงทัณฑ์โทษตายผู้ต้องหาคดียาเสพติดหลายคน โดยกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งหลายเรียกร้องอินโดนีเซียละทิ้งโทษประหารชีวิต เพื่อเป็นก้าวย่างแรกในการกดดันประเทศอื่นๆไม่ให้กำหนดโทษตายต่อแรงงานต่างด้าวอิเหนาเช่นกัน
       
นายโตดุง มูลยา ลูบิส ทนายความของ 2 นักโทษออสเตรเลีย แอนดรูว์ ชานและนายมิวรัน ซูคูมาน ที่โดนโทษประหารชีวิตในออสเตรเลีย จนกลายเป็นข้อพิพาทระหว่างแคนเบอร์รากับจาการ์ตา ระบุว่ามันขัดแย้งโดยสิ้นเชิงที่อินโดนีเซียต่อสู้ขอความปราณีในต่างแดน แต่กลับปฏิเสธมันภายในบ้านของตนเอง
       
กระนั้นก็ดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียยืนกรานว่า จาการ์ตาจะเดินหน้าประหารชีวิตนักโทษตามเดิม แม้อีกด้านหนึ่งจะยื่นประท้วงในกรณีของไซนับ “เรามีพันธกิจปกป้องพลเมืองของเรา นั่นคือเป้าหมายลำดับหนึ่งของเรา แต่มันมีประเด็นเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมาย ที่เราจำเป็นต้องบังคับใช้ภายใน”
 
แรงงานในนิวยอร์กชุมนุมใหญ่ขอค่าแรงขั้นต่ำชั่วโมงละ 15 ดอลลาร์สหรัฐ
 
16 เม.ย. 2015 แรงงานจำนวนมากในนครนิวยอร์ก เมืองใหญ่ที่สุดของสหรัฐชุมนุมเรียกร้องขอค่าแรงขั้นต่ำชั่วโมงละ 15 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 485 บาท)
 
ผู้จัดการชุมนุมระบุว่า พนักงานร้านฟาสต์ฟูดชุมนุมตามเมืองต่าง ๆ กว่า 230 เมือง รวมทั้งมีพนักงานในภาคต่าง ๆ ถือเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดของผู้ได้ค่าแรงต่ำ เฉพาะที่นครนิวยอร์กมีคนชุมนุม 10,000-15,000 คน ชายกัวเตมาลาวัย 58 ปี พนักงานดูแลกระเป๋าสัมภาระที่ท่าอากาศยานเจเอฟเคเผยว่า ทำงานสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง ตื่นตั้งแต่ตีสาม ได้ค่าจ้างชั่วโมงละ 10.10 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 327 บาท) เมื่อจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้วก็ไม่เหลือเงินติดกระเป๋า ผู้ชุมนุมที่นครนิวยอร์กกล่าวว่า เบื่อหน่ายกับค่าจ้างที่ไม่เคยทำให้หลุดพ้นจากความยากจนเสียทีและเบื่อหน่ายที่นายจ้างขู่จะเล่นงานพนักงานที่เข้าร่วมหรือตั้งสหภาพแรงงาน
 
ค่าจ้างขั้นต่ำในรัฐนิวยอร์กอยู่ที่ชั่วโมงละ 8.75 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 284 บาท) และจะต้องขึ้นเป็น 9 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 292 บาท) ในปีหน้า ขณะที่ค่าจ้างขั้นต่ำของรัฐบาลกลางกำหนดไว้ที่ชั่วโมงละ 7.25 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 235 บาท) ผู้ตรวจสอบบัญชีของนครนิวยอร์กชี้ว่า ค่าจ้างขั้นต่ำในนครนิวยอร์กถือว่าต่ำที่สุดในบรรดาเมืองใหญ่ทั้งหมดของสหรัฐ หากขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็นชั่วโมงละ 15 ดอลลาร์สหรัฐจะช่วยประหยัดเงินภาษีที่ต้องนำไปใช้ในโครงการออกบัตรค่าอาหารและดูแลสุขภาพให้แก่ผู้มีรายได้น้อยได้ปีละ 200-500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,485-16,215 ล้านบาท)
 
ชาวแอฟริกาใต้รณรงค์ต้านทำร้ายต่างชาติ
 
17 เม.ย. 2015 สื่อรายงานว่าชาวแอฟริกาใต้ไม่ต่ำกว่า 5 พันคนในเมืองเดอร์บัน ทางตอนใต้ของประเทศ ได้ออกมาแสดงพลังเพื่อรณรงค์ให้ยุติความรุนแรงจากภาวะหวาดกลัวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะแรงงานอพยพจากประเทศในแถบแอฟริกา หลังเกิดเหตุทำร้ายร่างกายชาวคองโกอพยพกว่า 250 คนเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
 
การชุมนุมนี้เป็นไปอย่างสงบ โดยผู้ประท้วงได้ร้องเพลงร่วมกัน ก่อนจะมีกลุ่มคนที่ไม่พอใจการชุมนุมพยายามเข้ามาก่อกวน แต่ตำรวจยังสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
 
ผู้ชุมนุมคนหนึ่งบอกว่า ในฐานะที่เป็นชาวแอฟริกาใต้ เขาต้องการยืนยันว่า ประเทศนี้เปิดรับทุกคน ไม่เพียงเฉพาะชาวต่างชาติจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเพื่อนร่วมทวีปแอฟริกาด้วย
 
ภาวะหวาดกลัวชาวต่างชาตินี้เกิดขึ้นหลังชาวแอฟริกาใต้บางส่วนเชื่อว่า แรงงานอพยพโดยเฉพาะจากโซมาเลีย ซิมบับเว มาลาวีและไนจีเรียเข้ามาแย่งงาน จนทำให้อัตราการว่างงานของชาวแอฟริกาใต้พุ่งสูงขึ้น ความรุนแรงต่อผู้อพยพ ทำให้บางส่วนต้องเดินทางเข้าไปอยู่ในค่ายชั่วคราวภายในสนามกีฬาและสถานีตำรวจเพื่อความปลอดภัย
 
ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2008 ภาวะหวาดกลัวผู้อพยพต่างชาติในแอฟริกาใต้ลุกลามเป็นการจลาจลใหญ่ และมีผู้อพยพทั้งจากโซมาเลีย ซิมบับเว ปากีสถานและโซมาเลียถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
 
อัตราว่างงานอังกฤษต่ำสุดในรอบ 7 ปี
 
18 เม.ย. 2015 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ว่าสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษออกรายงานเมื่อวันศุกร์ เกี่ยวกับสถานการณ์ของตลาดแรงงานในประเทศระหว่างเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว ถึงเดือน ก.พ. ปีนี้ว่าจำนวนผู้ว่างงานในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ที่ 1.84 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 5.6 ของประชากรทั้งประเทศ ลดลง 76,000 คน จาก 3 เดือนก่อนหน้านี้ ถือเป็นสถิติต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2008
 
ขณะที่จำนวนผู้มีงานทำในช่วงเวลาเดียวกันเพิ่มขึ้น 248,000 คน เป็น 31.05 ล้านคน สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. ปีที่แล้ว ด้านค่าตอบแทนรายสัปดาห์ในรอบ 3 เดือนจนถึงเดือน ก.พ. หากคำนวณโดยรวมเงินโบนัสถือว่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 แต่หากหักลบเงินโบนัสออกจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 ทั้งนี้ เพียงไม่นานหลังรายงานได้รับการเผยแพร่ออกไป อัตราแลกเปลี่ยนเงินปอนด์สเตอร์ลิงเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งตัวขึ้นร้อยละ 0.6 มาอยู่ที่ 1.5036 ปอนด์ ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ สูงที่สุดในรอบเกือบ 1 เดือน
 
EU ยื่น ‘ใบเหลือง’ ให้ไทยปฏิรูปอุตสาหกรรมการประมง
 
22 เม.ย. 2015 สหภาพยุโรป (EU) ยื่นคำขาดให้ประเทศไทยปฏิรูปนโยบายเรื่องการประมงที่ผิดกฎหมาย ที่ไม่มีการรายงาน และที่ไม่มีกฎข้อบังคับ หรือที่เรียกย่อๆ ว่า IUU มิฉะนั้นจะถูกห้ามส่งออกอาหารทะเลไปยัง EU ภายในสิ้นปีนี้
 
รายงานของคณะกรรมการบริหารของ EU กล่าวว่า ได้ดำเนินมาตรการดังกล่าวหลังการวิเคราะห์โครงสร้างที่ทางกฎหมาย มาตรการบังคับใช้ และการจัดการบริหารงานในเรื่องนี้ของประเทศไทยอย่างละเอียด ซึ่งส่งผลกระทบความสามารถของประเทศไทยในการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ
 
ถ้า EU สั่งห้ามการส่งออกอาหารทะเลจากประเทศไทยจริง คาดว่าประเทศไทยจะประสบการสูญเสียรายได้มากกว่า 500 ล้านดอลลาร์ต่อปี
 
รายงานข่าวกล่าวว่า ความวิตกกังวลสำคัญของ EU คือการที่ประเทศไทยไม่สามารถให้การรับรองได้อย่างถูกต้องถึงแหล่งที่มาและความถูกต้องตามกฎหมายของอาหารทะเลที่ส่งออก
 
ในสัปดาห์นี้ กระทรวงเกษตรของประเทศไทยได้เริ่มการรณรงค์ที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อปรับปรุงการทำงานของอุตสาหกรรมการประมง รายงานข่าวกล่าวว่า รัฐบาลกำลังเขียนกฎข้อบังคับการประมงที่เข้มงวดมากขึ้น และคาดว่าจะออกเป็นกฎหมายบังคับใช้ในเดือนกรกฎาคมนี้ 
 
ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศของไทยมีถ้อยแถลงออกมา ที่กล่าวว่า EU เลือกที่จะไม่ให้ความสนใจกับความพยายามอย่างแข็งขันของรัฐบาลไทย ในการแก้ไขประเด็นปัญหาต่างๆ ที่เคยมองกันว่าเป็นสาเหตุของการประมงผิดกฎหมาย
 
EU และองค์กรสิ่งแวดล้อมที่ไม่ใช่รัฐบาลหรือ NGO ประมาณว่า ตลาดมืดอาหารทะเลที่มาจากการประมง IUU มีมูลค่าสูงถึงหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับ 15% ของปริมาณการจับปลาทั่วโลก
 
องค์กร NGO หลายรายยินดีกับการดำเนินมาตรการของ EU ต่อประเทศไทยในครั้งนี้
 
Environmental Justice Foundation (EJF), Oceana, The Pew Charitable Trusts, และ World Wildlife Fund มีถ้อยแถลงร่วมกันออกมาที่กล่าวว่า “จากนี้ไป ประเทศไทยจะต้องดำเนินการเชิงบวกและร่วมมือกับคณะกรรมการบริหารของ EU เพื่อจะได้หลุดพ้นจากการถูกนำชื่อขึ้นบัญชีดังกล่าว"
 
นาย Steve Trent ผู้บริหารของ EJF กล่าวว่า “ทางการไทยมีการควบคุมเรือประมงของตนน้อยมาก โดยเรือประมงเหล่านั้นมีกิจกรรมผิดกฎหมายหลายอย่าง ทำลายปริมาณปลาและสิ่งแวดล้อมทางทะเล ซึ่งเชื่อมโยงกับสภาพการทำงานที่เอารัดเอาเปรียบมากที่สุดและโหดร้ายทารุณมากที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกกันไว้" 
 
ผู้บริหารของ EJF กล่าวส่งท้ายว่า สภาพดังกล่าวรวมถึงการใช้แรงงานทาสและความรุนแรงอย่างมากที่สุดด้วย
 
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้ลดอันดับประเทศไทยลงไปอยู่ในระดับที่สาม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของบัญชีรายชื่อประเทศที่ไม่แก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และเมื่อเร็วๆ นี้องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ของสหประชาชาติ มีคำเตือนประเทศไทยในเรื่องความปลอดภัยของบริการการบินเชิงพาณิชย์ของประเทศ
 
ขณะเดียวกัน EU ยอมรับความก้าวหน้าในการดำเนินการปฏิรูปการประมงของเกาหลีใต้และฟิลิปปินส์ว่า “ได้ดำเนินการปฏิรูประบบกฎหมายอย่างเหมาะสม และพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาการประมงผิดกฎหมายได้แล้ว”
 
เวลานี้ EU สั่งห้ามการนำเข้าผลิตภัณฑ์ปลาที่จับมาได้โดยเรือของศรีลังกา กินี และกัมพูชา
 
ห้างดังญี่ปุ่นเปิดตัวหุ่นยนต์พนักงานต้อนรับ
 
20 เม.ย. 2015 ห้างสรรพสินค้ามิทสึโคชิ นิฮอมบาชิ เปิดตัวพนักงานต้อนรับใหม่เป็นหุ่นยนต์แอนดรอยด์ที่ดูคล้ายมนุษย์ มีชื่อว่า "ไอโกะ ชิชิระ" ต่อหน้าลูกค้าและสื่อมวลชน โดยทำหน้าที่ทักทายลูกค้าที่เดินเข้าไปในห้าง 
 
ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้หวังว่าจะใช้เจ้าไอโกะ เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการให้คำแนะนำแก่ลูกค้า และส่งเสริมการค้าของห้างฯ ขณะที่นางสาวมิโอะ ซาคาอิ ที่ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับมานานถึง 2 ปี กล่าวว่า แม้ว่ารอยยิ้มของหุ่นยนต์จะดูแข็งทื่อ แต่เธอก็รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ทำงานร่วมกับมัน 
 
ทั้งนี้ เทคโนโลยีการขยับปากและเปล่งเสียงของเจ้าไอโกได้รับการพัฒนาโดยบริษัทโตชิบา และนายฮิโรชิ อิชิกูโร ผู้พัฒนาหุ่นยนต์แอนดรอยด์ ของห้องแลปทดลองอินเทลลิเจนต์ โรโบติกส์ ของมหาวิทยาลัยโอซากา ซึ่งไอโกะ จะทำหน้าที่พนักงานต้อนรับที่บริเวณทางเข้าของห้างฯ ไปจนถึงวันพรุ่งนี้ หลังจากนั้น มันจะถูกย้ายไปทำหน้าที่ผู้ให้คำแนะนำที่ชั้น 7 ของห้างฯ จนถึงวันที่ 5 พฤษภาคม
 
สหภาพแรงงานรถไฟในเยอรมันหยุดงานประท้วง
 
23 เม.ย. 2015 นายอูลริช ฮอมบรูก เจ้าหน้าที่รับผิดชอบเรื่องการเดินรถไฟของ Deutsche Bahn (DB) ซึ่งเป็นบริษัททางรถไฟของรัฐบาลเยอรมนี คาดว่า รถไฟระยะไกลในสัดส่วนประมาณ 1 ใน 3 สามารถให้บริการได้ในวันพุธ (22 เม.ย.) และในพฤหัสบดี (23 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่เส้นทางสัญจรในเมืองประมาณครึ่งหนึ่งไม่สามารถใช้การได้
GDL ซึ่งป็นสหภาพพนักงานขับรถไฟของเยอรมนี ได้นัดหยุดงานทั่วประเทศเป็นเวลาหลายวัน หลังจากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับปัญหาค่าแรงกับ DB
 
การประท้วงหยุดงานของพนักงานขับรถไฟขนส่งสินค้าเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 15:00 น. (20.00 น.ตามเวลาไทย) ของวันอังคาร (21 เม.ย.) ไปจนถึงเวลา 09:00 น. ของวันศุกร์ (24 เม.ย.) ขณะที่พนักงานขับรถไฟโดยสารจะเริ่มหยุดงานประท้วงตั้งแต่เวลา 02:00 น. ของวันพุธ (22 เม.ย.) ไปจนถึงเวลา 21:00 น. ของวันพฤหัสบดี (23 เม.ย.)
 
ทั้งนี้ สื่อเยอรมนีรายงานว่าการจราจรบนทางหลวงในหลายรัฐของเยอรมนีติดขัดหนาแน่นอย่างมาก เนื่องจากผู้โดยสารที่เคยเดินทางด้วยรถไฟ ต้องใช้วิธีการขับรถยนต์แทน ซึ่งทำให้การจราจรติดขัดยาวเหยียดถึง 20 กิโลเมตรในช่วงเวลาเร่งด่วน
 
องค์กรสิทธิมนุษยชนสหรัฐ ชงเรื่องต่อรัฐสภาคว่ำบาตรประมงไทยฐานใช้แรงงานผิดกฎหมาย
 
24 เม.ย. 2015 นายมาร์ค ลากอน ประธานฟรีดอมเฮาส์ องค์กรไม่หวังผลกำไรด้านสิทธิมนุษยชน และอดีตทูตประจำกระทรวงต่างประเทศสหรัฐด้านการค้ามนุษย์แถลงต่อคณะอนุกรรมการกิจการต่างประเทศของสภาคองเกรสว่า หลายปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมประมงไทยใช้แรงงานผิดกฎหมาย ทั้งในเวลาออกหาปลาและในกระบวนการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์ ซึ่งต้องรอดูต่อไปว่า รัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะดำเนินการคว่ำบาตรไม่ให้อาหารทะเลของไทยเข้ามาในตลาดของสหรัฐหรือไม่ ทั้งนี้อาวุธสำคัญในการปราบปรามการค้ามนุษย์ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐคือ การจัดอันดับการต่อต้านการค้ามนุษย์ ซึ่งเมื่อปีที่แล้ว ไทยได้ถูกลดอันดับไปอยู่ในบัญชีกลุ่มที่ 3 ซึ่งหมายถึงไม่ดำเนินการตามมาตรฐานขั้นต่ำของสหรัฐและอาจถูกลงโทษคว่ำบาตรได้
 
คนงานเกาหลีใต้นับพันเดินประท้วงนโยบายรัฐบาล
 
25 เม.ย. 2015 ชาวเกาหลีใต้หลายพันคนออกมาเดินขบวนไปตามท้องถนนในกรุงโซลต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เพื่อประท้วงนโยบายแรงงานของรัฐบาลและแสดงความไม่พอใจกับการจัดการกรณีหายนะภัยเรือข้ามฟากล่มเมื่อปีก่อนที่คร่าชีวิตคนกว่า 300 คน
 
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งจากสหภาพแรงงานเกาหลีกล่าวว่า คาดว่ามีประชาชนออกมาเดินขบวนประท้วงในช่วงกลางวันกว่า 30,000 คน เพราะไม่เห็นด้วยกับนโยบายแรงงานที่จะลดค่าจ้าง กระทบความมั่นคงทางอาชีพและผลประโยชน์วัยเกษียณของลูกจ้างรัฐ ส่วนในช่วงเย็นคาดว่าจะมีการเดินขบวนใหญ่อีกงาน เนื่องจากกลุ่มคนงานจากสหภาพแรงงานมีแผนจะเข้าร่วมสนับสนุนการประท้วงของกลุ่มญาติของเหยื่อเหตุการณ์เรือข้ามฟากล่มด้วย
 
อโดบีแจกเงินพนักงาน 1,000 เหรียญสหรัฐ เผย “ให้ไปเปิดโลก”
 
28 เม.ย. 2015 อโดบี (Adobe) บริษัทชื่อดังเจ้าของซอฟต์แวร์คุ้นหูคนไทยเอาใจพนักงานด้วยกล่องของขวัญสีแดงภายในบรรจุขนมหวาน บัตรของขวัญจากสตาร์บัคส์ และบัตรเดบิตมาสเตอร์การ์ดมูลค่า “1,000 เหรียญสหรัฐ”
 
อโดบี เผยว่า ทั้งหมดนั้นสำหรับให้พนักงานออกไปสร้างสรรค์นวัตกรรมขึ้นมา ซึ่งอาจจะเป็นแอป หรืออาจเป็นการปรับปรุงโปรดักต์ของอโดบีให้ดีขึ้นก็ได้ แต่ที่น่ายินดีต่อพนักงานอโดบีมากไปกว่านั้นก็คือ การใช้จ่ายทั้งหมดนั้น พนักงานไม่จำเป็นต้องหาใบเสร็จกลับมาคืนบริษัท นั่นหมายความว่า พนักงานสามารถใช้เงินนั้นไปกับอะไรก็ได้ที่พวกเขาต้องการ อาจเป็นเสื้อผ้า เบียร์ ตั๋วคอนเสิร์ต ฯลฯ
 
ตัวแทนจากอโดบีเผยว่า “ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของความเชื่อมั่นในกันและกัน เราให้ทรัพยากรที่จำเป็นแก่พนักงานในการออกไปทำอะไรก็ได้ที่พวกเขาต้องการ แม้ว่ามันจะไม่เกี่ยวข้องต่อหน้าที่การงานของพวกเขาเลยก็ตาม แค่ต้องการกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรม นั่นคือ เป้าหมายของโครงการ อโดบีต้ องการส่งเสริมให้เกิดบรรยากาศแห่งความคิดสร้างสรรค์ ขึ้นภายในองค์กร"
 
ที่น่ายินดีไปมากกว่านั้นก็คือ พนักงานของอโดบีทุกคนมีโอกาสร่วมโครงการนี้ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นวิศวกร หรือต้องเป็นคนที่มีไอเดียจึงจะได้รับกล่องของขวัญแต่อย่างใด
 
อย่างไรก็ดี ผู้ร่วมโครงการดังกล่าวจะถูกทดสอบด้วยภารกิจพิเศษในรูปของโค้ดสี 6 ระดับที่พวกเขาจะต้องทำให้สำเร็จ และเมื่อพวกเขาทำภารกิจของโค้ดสีระดับที่ 6 สำเร็จ พวกเขาจะได้รับเงินลงทุนจากอโดบีในการทำฝันนั้นให้เป็นจริง
 
ตัวอย่างของผลงานที่เกิดจากการให้กล่องของขวัญ เช่น การสร้างเกมบนโลกจริงๆ ที่ยูสเซอร์สามารถมีส่วนร่วมในการสร้างด่านต่างๆ บนสถานที่จริงผ่านเทคโนโลยี GPS
 
ไอเดียของอโดบีในครั้งนี้ค่อนข้างคล้ายคลึงกับนโยบายของกูเกิลที่ให้พนักงานใช้เวลา 20 เปอร์เซ็นต์ ในการทำงานไปทำอะไรก็ได้ อย่างไรก็ดี จากข้อมูลของผู้บริหารระดับสูงด้านทรัพยากรมนุษย์ของกูเกิลอย่าง Laszlo Bock เผยว่า มีพนักงานกูเกิลเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ที่ปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าว
 
พริตตี้สาวจีนประชดแต่งชุดยาจก ประท้วงโดนทางการสั่งแบนชุดวาบหวิว
 
28 เม.ย. 2015 เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสท์รายงานว่า พริตตี้สาวชาวจีนจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งแบนดังกล่าวออกมารวมตัวถือป้ายประท้วงขอสิทธิในการทำงานอีกครั้งหนึ่ง โดยคราวนี้พวกเธอไม่ได้แต่งตัวด้วยชุดวาบหวิวแบบพริตตี้ทั่วไป แต่พวกเธอกลับสวมชุดเก่าๆให้เหมือนกับขอทาน เพื่อเป็นการสะท้อนว่าตอนนี้พวกเธอกำลังตกงานจนแทบจะไม่มีเงินเหลือแล้ว
 
ที่ผ่านมา งานมอเตอร์โชว์ที่ประเทศจีนก็ไม่ต่างกับที่ประเทศไทยเท่าใดนัก ที่มักจะมีพริตตี้สาวสวยใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นคอยแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ทำให้งานมอเตอร์โชว์ในแต่ละปีช่วยสร้างงานให้กับหญิงสาวหน้าตาดีเหล่านี้จำนวนมาก เมื่อทางการจีนออกกฎเหล็กแบนพริตตี้สาวไม่ให้ใส่ชุดเซ็กซี่ในงานมอเตอร์โชว์ จึงทำให้มีพริตตี้ตกงานจำนวนมาก
 
เมื่อภาพเหล่านี้ถูกเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ท ก็ทำให้มีชาวเน็ทจีนจำนวนมากส่งกำลังใจไปให้พวกเธอ อย่างไรก็ตามถ้าวิธีแต่งตัวเป็นขอทานประท้วงนี้ไม่ได้ผล ก็ยังมีอาชีพอีกจำนวนมากที่รองรับบรรดาสาวๆเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการใส่ "เฟซกินี่" ไอ้โม่งปิดหน้าถ่ายแบบ หรือจะไปเป็นสาวเชียร์เกมตามร้านเกมในประเทศจีนก็ยังได้
 
 
ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: ประชาไท, ครอบครัวข่าว, ASTV ผู้จัดการออนไลน์, สำนักข่าวไทย, กรุงเทพธุรกิจ, ไทยรัฐออนไลน์, เดลินิวส์, สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์, VOA

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท