Skip to main content
sharethis

29 เม.ย.58 หม่อมราชวงศ์ปรียาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานตอนหนึ่งในงานประชุมสามัญประจำปีของสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย ที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ว่า  เศรษฐกิจไทยยังคงชะลอตัวทั้งจากภาวะการส่งออกที่ลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ราคาพลังงานที่ปรับตัวลดลงในตลาดโลกกว่าร้อยละ 50  รวมถึงการที่รัฐบาลเร่งจัดการเศรษฐกิจนอกระบบ ซึ่งมีขนาดถึง 1 ใน 5  ทั้งการปราบปรามยาเสพติด และการจัดระเบียบต่างๆ  ทำให้ความคึกคักในการใช้จ่ายลดลง อาจส่งผลให้เศรษฐกิจ ยังชะลอตัวไปอีกประมาณ 2 ปี

อย่างไรก็ตาม หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร ระบุว่า การลงทุนของภาคเอกชน กลับมาขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้ ภาคเอกชนชะลอการลงทุนไว้เนื่องจากความไม่มั่นใจในปัญหาการเมือง นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัว รวมถึงการใช้จ่ายภาครัฐที่เบิกจ่ายได้มากขึ้น จะเป็นตัวผลักดันเศรษฐกิจไทย

หม่อมราชวงศ์ปรีดียาธร ยังกล่าวถึงการเตรียมตัวทางเศรษฐกิจในอนาคตว่า ต้องมีการปรับฐานอุตสาหกรรม ผลิตสินค้าใหม่ๆ เนื่องจากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทของรัฐบาลที่ผ่านมา ทำให้สินค้าไทยกว่า 1 ใน 3 ไม่สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ โดยอุตสาหกรรมที่ไทยมีศักยภาพจะทำได้ เช่น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอากาศยาน การบริการซ่อมอากาศยาน เซลล์เชื้อเพลิง และเครื่องมือการแพทย์ ทั้งนี้ เชื่อว่าจะสามารถผลักดันได้ภายใน 3 ปี

(ที่มา : มติชนออนไลน์, 29 เม.ย.58)

ครม.เห็นชอบกรอบงบฯ รายจ่ายปี 59 วงเงิน 2.72 ล้านล้านบาท

28 เม.ย.58 สมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 วงเงิน 2.72 ล้านล้านบาท ขาดดุล 390,000 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ 2.33 ล้านล้านบาท คาดการณ์จีดีพี ปี 2559 ประมาณร้อยละ 4 ด้วยงบลงทุน 543,000 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 20 ของงบทั้งหมด งบประจำ 2.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 72,977 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 จากปีก่อน และมีสัดส่วนร้อยละ 77.2 ของงบทั้งหมด

ทั้งนี้ เงินงบประมาณปี 2559 ได้จัดสรรด้านการศึกษาสูงที่สุดด้วยวงเงิน 520,132 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18,880 ล้านบาท รองลงมา คือ งบกลาง วงเงิน 402,139 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26,431 ล้านบาท โดยงบกลางที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากได้จัดสรรเงินบำเน็จบำนาญข้าราชการวงเงินถึง 17,000 ล้านบาทมีทั้งการปรับเพิ่มเงินเดือนราชการร้อยละ 4 การเปิดให้ข้าราชการสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กลับไปใช้ระบบบำนาญ จึงทำให้งบกลางปรับสูงขึ้น

มีกรอบวงเงินกู้สูงสุดเพื่อชดเชยการขาดดุลตาม พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ 593,593.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34,033.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.1% มีสมมติฐานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) อยู่ที่ 13,359,400 ล้านบาท ขยายตัว 4% อัตราเงินเฟ้อ 1.8%

สมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การกู้เงินชดเชยภาระหนี้ของรัฐบาลวงเงิน 300,000 ล้านบาท ด้วยการทยอยออกพันธบัตรระยะยาวอายุ 10,20 ปี คาดว่าจะสรุปรายละเอียดได้ในอีก 2 เดือนข้างหน้า เพื่อกำหนดแนวทางกู้เงินจากตลาดนำมาชดเชยภาระหนี้ของรัฐบาล

(ที่มา : สำนักข่าวไทย, 28 เม.ย.58 และ มติชนออนไลน์, 29 เม.ย.58)

รมว.อุตฯ รับดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม เม.ย.ลดลงมาก

28 เม.ย.58 จักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้รายงานดัชนีผลผลิตทางอุตสาหกรรมให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบ หลังจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนมีนาคมสูงถึงร้อยละ 3.6 เพราะเข้าสู่ฤดูการเข้าหีบของโรงงานอ้อยและน้ำตาล แต่เดือนเมษายนดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยอมรับว่าลดลงมาก เพราะมีวันหยุดหลายวันติดต่อกัน ทำให้กิจกรรมทางธุรกิจลดลงไปด้วย

ส่วนกรณีกระทรวงพาณิชย์ปรับลดเป้าหมายการส่งออกจากร้อยละ 4 เหลือร้อยละ 1.2 ปี 2558 มองว่าการส่งออกกลุ่มยานยนต์ยังช่วยการส่งออกภาพรวมได้ เนื่องจากส่งออกรถยนต์ได้จำนวนมากโดยเฉพาะรถอีโคคาร์ เพราะผลิตตามมาตรฐานยูโร 5 จึงมีการส่งออกจำนวนมาก แผนสนับสนุนในอนาคตจึงต้องการส่งเสริมรถไฟฟ้า (EV) เพื่อทดลองใช้สำหรับรถยนต์ส่วนราชการ รถโดยสาร รถโดยสาร แท็กซี่ ยอมรับว่ารถยนต์ดังกล่าวยังมีราคาสูงและยังไม่แพร่หลาย จึงต้องใช้เวลาในการขับเคลื่อน ซึ่งเป็นโครงการในระยะยาว

(ที่มา : สำนักข่าวไทย, 28 เม.ย.58)

พาณิชย์เผยภาพรวมส่งออก มี.ค.ดีขึ้น

28 เม.ย.58 ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกไทยเดือนมีนาคม 2558 ภาพรวมดีขึ้น ชะลอตัวในอัตราที่ลดลง และยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดในตลาดส่งออกที่สำคัญไว้ได้ ประกอบกับการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรในกลุ่มสินค้าที่มีปัญหา ปริมาณการส่งออกที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยตลาดส่งออก เช่น สหรัฐอเมริกาและกลุ่ม CLMV ยังมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดสหภาพยุโรป (อียู) และญี่ปุ่นยังคงหดตัว

สำหรับมูลค่าการส่งออกเดือนมีนาคม 2558 มีมูลค่า 610,984 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4.15 ขณะที่การนำเข้าเดือนมีนาคม 2558 มีมูลค่า 569,300 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5.57 ส่งผลให้ดุลการค้าระหว่างประเทศเดือนมีนาคม 2558 เกินดุล 41,683 ล้านบาท ส่งผลให้ช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2558 เกินดุล 26,289 ล้านบาท ด้านการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรส่งสัญญาณดีขึ้น โดยเฉพาะยางพาราซึ่งเป็นสินค้าเกษตรส่งออกอันดับหนึ่งของไทย เริ่มส่งสัญญาณที่ดีจากปริมาณการส่งออกที่ขยายตัวสูงขึ้น ส่วนการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมหดตัวในอัตราที่ชะลอลง จากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกยังคงทรุดตัว

ชุติมา กล่าวด้วยว่า ปัจจัยภายนอกประเทศที่มีผลต่อการส่งออกของไทย คือ เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับประเทศคู่ค้า คู่แข่ง ราคาผลผลิตสินค้าเกษตรตกต่ำและยังไม่ฟื้นตัว ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทรุดตัว อุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (NTBs) และมาตรการทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (NTM) ความไม่สงบในตะวันออกกลางและแอฟริกาตอนเหนือ การลดการนำเข้าของประทศคู่ค้า และการตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ในอียู ส่วนปัจจัยภายในประเทศคือ การขาดแคลนวัตถุดิบ ขาดแคลนแรงงาน การย้ายฐานการผลิต

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จะผลักดันการส่งออกในตลาดใหม่ เช่น อาเซียน จีน อินเดีย ควบคู่ไปกับการรักษาตลาด คือ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป เพื่อให้การส่งออกของไทยกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้น

(ที่มา : สำนักข่าวไทย, 28 เม.ย.58)

ปรับเป้าส่งออกปี 58 เหลือร้อยละ 0.5 – 1

28 เม.ย.58 นันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ได้ปรับประมาณการณ์ส่งออกปี 2558 เหลือร้อยละ 0.5 -1 โดยจากการวิเคราะห์ตลาดส่งออกและรายสินค้าต่าง ๆ พบว่า เศรษฐกิจการนำเข้ารวมชะลอตัวลงมากและตลาดต่าง ๆ มียอดนำเข้ารวมลดลงอย่างชัดเจน ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าผลักดันการส่งออกให้เติบโตร้อยละ 1.2 คิดเป็นมูลค่า 230,304 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม คาดว่าเศรษฐกิจครึ่งปีหลังจะดีขึ้น ราคาน้ำมันครึ่งปีหลังจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ค่าเงินบาทอยู่ในกรอบ 32.60 -33.40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาสินค้าเกษตรทั้งปีใกล้เคียงกับราคาเกษตรปีที่แล้ว

(ที่มา : สำนักข่าวไทย, 28 เม.ย.58)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net