Skip to main content
sharethis

ศาลจังหวัดเพชรบุรี มีคำสั่งรับฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ที่ยกคำร้องขอให้ปล่อยตัว ‘บิลลี่’ นักต่อสู้เพื่อสิทธิชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย หลังภรรยายื่นฎีกาคัดค้านใน 4 ประเด็น

28 เม.ย.2558 ในวันนี้ศาลจังหวัดเพชรบุรี มีคำสั่งรับฎีกาคัดค้านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 ที่พิพากษายกคำร้องการขอให้ปล่อยตัวนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย ซึ่งหายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2557 ในระหว่างการควบคุมตัวโดยนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ยกคำร้องขอให้ปล่อยตัวนายบิลลี่ โดยวินิจฉัยว่า การไต่สวนพยาน ทั้งนายชัยวัฒน์และเจ้าหน้าที่อุทยาน 4 คน รวมถึงนักศึกษาฝึกงาน 2 คน ให้การสอดคล้องกันว่า ได้มีการปล่อยตัวนายบิลลี่ไปแล้ว พยานหลักฐานที่นำสืบจึงรับฟังไม่ได้ว่ามีการคุมขังนายบิลลี่ไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลอุทธรณ์ภาค 7 จึงเห็นพ้องด้วยกับศาลชั้นต้นที่มีคำสั่งให้ยกคำร้องนั้น ต่อมาวันที่ 27 เมษายน 2558 (เมื่อวานนี้) นางสาวพิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาของนายบิลลี่ ได้ยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 ในประเด็นดังนี้

1. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานมีหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ฯ มีความขัดแย้งกับนายบิลลี่ในกรณีการเผาทำลาย ไล่รื้อบ้านเรือนและทรัพย์สินของชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย จึงอาจเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ฯ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ดำเนินคดี และนำไปสู่การควบคุมตัวนายบิลลี่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันอาจทำให้เกิดอันตรายต่อเสรีภาพในชีวิตและร่างกายของนายบิลลี่

2.  การพิสูจน์ว่านายบิลลี่ได้รับการปล่อยตัวไปแล้วหรือไม่นั้น โดยหลักการรับฟังพยานหลักฐาน ภาระการพิสูจน์เป็นของฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจในการควบคุมตัว ไม่ใช่ภาระการพิสูจน์ของญาติผู้ถูกควบคุมตัว และตุลาการจะต้องทำหน้าที่ในการแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานให้ถึงที่สุดว่านายบิลลี่ได้รับการปล่อยตัวไปแล้วจริง เมื่อไม่ปรากฏหลักฐานบันทึกการจับ บันทึกของกลาง และบันทึกการปล่อยตัว จึงไม่อาจเชื่อได้ว่านายบิลลี่ได้รับการปล่อยตัวไปแล้ว และเชื่อได้ว่านายบิลลี่ยังคงอยู่ในการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ฯ

3.  พยานที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 รับฟังล้วนแล้วแต่อยู่ใต้บังคับบัญชาและการดูแลของนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ซึ่งเบิกความขัดแย้งกับคำให้การในชั้นสอบสวนในประเด็

นการปล่อยตัวนายบิลลี่อันเป็นข้อสำคัญในคดี โดยพนักงานสอบสวนได้พบพยานหลักฐานใหม่ที่ยืนยันว่า นายบิลลี่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว จึงขอให้ศาลฎีกาไต่สวนพยานเพิ่มเติมในประเด็นดังกล่าว เนื่องจากเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นใหม่ภายหลังการพิจารณาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ และมีสาระสำคัญถึงขนาดที่จะทำให้เปลี่ยนแปลงคำวินิจฉัยของศาลฎีกาได้

จากการยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาดังกล่าวของนางสาวพิณนภา วันนี้ศาลจังหวัดเพชรบุรีมีคำสั่งรับฎีกา โดยให้ส่งสำเนาฎีกาให้นายชัยวัฒน์และรวบรวมสำนวนส่งศาลฎีกาเพื่อพิจารณาต่อไป
 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net