Skip to main content
sharethis

15 เม.ย. 2558 ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากผลสำเร็จของโครงการตลาดกล้วยไม้คุณภาพ ตลาดน้ำวิถีไทยคลองผดุงกรุงเกษม และการจัดงาน วิถีข้าว วิถีไทย ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมงานนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงมอบหมายให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีพิจารณาจัดกิจกรรมบริเวณข้างทำเนียบรัฐบาลริมคลองผดุงกรุงเกษมอย่างต่อเนื่อง เน้นส่งเสริมผลิตภัณฑ์และบริการของไทยในด้านต่างๆ เปิดพื้นที่เพื่อการค้าขายสำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ซึ่งสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ประสานหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำแผนงานเสนอต่อนายกรัฐมนตรี

โดยมีแนวทางในเบื้องต้น อาทิ จัดตลาดผักผลไม้ไทยคุณภาพ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นเจ้าภาพหลัก เพื่อจัดแสดงและจำหน่ายผักผลไม้ไทยคุณภาพจากภูมิภาคต่างๆ /จัดถนนสายวัฒนธรรม โดยกระทรวงวัฒนธรรมเป็นเจ้าภาพหลัก ในลักษณะถนนคนเดิน ตลาดกลางคืน โดยนำสินค้าของดีของเด่นของสี่ภูมิภาคมานำเสนอ รวมทั้งมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านจากสี่ภาคเพื่อสร้างบรรยากาศของความคึกคักภายในงาน / จัดเทศกาลไม้ดอกไม้ประดับและปลาสวยงาม โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นเจ้าภาพหลัก /จัดกิจกรรมส่งเสริมบริการนวดไทย สปาไทย ผลิตภัณฑ์สมุนไพร อาหารเพื่อสุขภาพ เครื่องดื่มสมุนไพร สมุนไพรพื้นบ้านนานาพรรณ ผักพื้นบ้านต้านโรค โดยกระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าภาพหลัก / จัดกิจกรรมของขวัญแด่แม่ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นเจ้าภาพหลัก เพื่อนำเสนอสินค้า OTOP /จัดงานย่านธุรกิจสร้างสรรค์และสินค้า GI (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย  โดยสินค้าที่สามารถขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI ได้แก่ สินค้าเกษตร สินค้าหัตถกรรม และสินค้าอุตสาหกรรม ) กระทรวงพาณิชย์เป็นเจ้าภาพหลัก /จัดนำเสนอสินค้าดีของ SME จากสี่ภาค ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพหลัก /จัดตลาดนัดสินค้า OTOP หัตถกรรม ประเภทของใช้และของตกแต่งบ้าน กรมพัฒนาชุมชนเป็นเจ้าภาพหลัก และ/จัดกิจกรรมของที่ระลึกแด่พ่อ และของขวัญปีใหม่ กระทรวงพาณิชย์เป็นเจ้าภาพหลัก

พาณิชย์เผยส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มีแนวโน้มดี

นันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(สค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในปี 57 ว่า มีมูลค่าส่งออก 33,028.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 โดย 2 เดือน(ม.ค.-ก.พ.)ของปีนี้ ส่งออกได้ 5,262 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.16 และมีโอกาสที่จะขยายตัวได้ในปีนี้

“จากแนวโน้มการฟื้นตัวของความต้องการตลาดฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) เป็นผลบวกโดยตรงกับอิเล็กทรอนิกส์ไทย และในปี 58 คาดว่าความต้องการ HDD น่าจะยังคงขยายตัวต่อเนื่อง และอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ก็มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น เพราะทั้งฮาร์ดดิสก์ และแผงไอซี ถูกติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่น แผงไอซี ในปัจจุบันก็ถูกติดตั้งอยู่ในรถยนต์หลายรุ่น” นันทวัลย์ กล่าว

เร่งเครื่องอุตสาหกรรมชายแดนใต้ ดัน 3 อุตสาหกรรม รับดีมานด์อาเซียน

อาทิตย์ วุฒิคะโร อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเตรียมแผนเดินหน้าขยายอุตสาหกรรมชายแดนใต้ในเขตพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูลและสงขลา โดยจะดัน 3 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ อุตสาหกรรมแปรรูปยางพารา อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถใช้โอกาสในการขยายธุรกิจและลงทุน เชื่อมโยงการค้าร่วมกับสมาชิกในอาเซียนผ่านแนวชายแดน เช่น  โครงการกลยุทธ์การค้าชายแดนโครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่(NEC) โครงการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมยางและไม้ยางพารา ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง โครงการ Hand in Hand  เพื่อเพิ่มรายได้และการลงทุนในพื้นที่ชายแดนใต้ ตั้งเป้าประชาชนที่เข้าร่วมโครงการมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ25 ปัจจุบันพื้นที่ชายแดนใต้5 จังหวัด  มีมูลค่าการค้าชายแดนสูงสุดของประเทศประมาณ 5 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 51.9 ของมูลค่าการค้าชายแดนรวม

ม.หอการค้าชี้ ไทยเข้าสู่เงินฝืดแน่ แนะรัฐเร่งอัดฉีดงบฯกระตุ้น

เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ประเทศไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืดตามความหมายทางเศรษฐศาสตร์ เพราะภาวะเงินฝืด จะต้องมีภาวะอัตราเงินเฟ้อติดลบต่อเนื่องกันนาน 6 เดือน  แต่ที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศออกมา ภาวะเงินเฟ้อติดลบต่อเนื่องเพียง 3 เดือนเท่านั้น  ขณะที่สินค้าหลายตัวราคาลดลง แต่ประเทศไทยจะเข้าสู่ภาวะเงินฝืดแน่ แต่เป็นเชิงเทคนิคทางเศรษฐศาสตร์เท่านั้น เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์คาดว่า ไตรมาสที่ 2 ปีนี้ อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะติดลบอีก รวมแล้วติดลบต่อเนื่อง 6 เดือนและอาจต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7

สาเหตุเนื่องจากปีที่ผ่านมาราคาน้ำมันอยู่ที่ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จนถึงมิถุนายนปีนี้ ราคาน้ำมันควรอยู่ที่ ประมาณ 50-55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันต่ำลงเฉลี่ยติดลบกว่าปีที่แล้วกว่าร้อยละ 10-13

อย่างไรก็ตาม ในแง่ความรู้สึกของประชาชนแล้ว ขณะนี้กลับรู้สึกว่า ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะเงินฝืด  ค่าครองชีพกับรายได้ไม่สอดคล้องกัน ​รายได้พิเศษหรือเงินล่วงเวลา หาได้ยาก พ่อค้าแม่ค้า กำไรขายสินค้าลดลง เพราะแข่งขันกันลดราคาสินค้า เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่มีอัตราเติบโตไม่ดี หากรัฐบาลไม่เร่งแก้ไขจะไม่เป็นผลดีต่อกำลังใจในการบริโภคในประเทศ จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจได้ สิ่งที่รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการคือ เร่งอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศโดยเร็ว โดยการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานราชการในภูมิภาคเร่งประมูลจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่าง ๆ โดยเร็ว ภายในไตรมาสที่ 2 อย่างน้อย ในระดับหมื่นล้านบาทขึ้นไป หากได้ในระดับ 50,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นระดับที่ดี และให้เร่งโครงการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐ มีการประมูล จัดซื้อจัดจ้างกระจายไปทั่วประเทศ หากทำได้ในช่วงปลายไตรมาสที่ 2 ปีนี้  นอกจากนี้ ควรมีความชัดเจนเกี่ยวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษเพราะจะช่วยสร้างความคึกคักในต่างจังหวัด พร้อมกับส่งเสริมการค้าชายแดน และสนับสนุนการท่องเที่ยวในภูมิภาคต่าง ๆ การดำเนินการเหล่านี้ จะช่วยให้ภาวะเงินฝืดเคืองของประชาชนค่อยหายไป ซึ่งคาดหวังว่า ครึ่งปีหลังภาวะเงินฝืดเคืองจะค่อยหายไป

สำหรับเศรษฐกิจไทยปีนี้ โอกาสที่จะขยายตัวร้อยละ 3.5  จากข้อมูลแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจปัจจุบันนับเป็นเรื่องที่ยากจะทำได้ จากบรรยากาศการส่งออก ความเชื่อมั่นของประชาชนและความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ ส่วนอัตราเงินเฟ้อตลอดปีนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยประเมินว่า จะอยู่ในช่วงร้อยละ 0.5 เป็นต้น

เรียบเรียงจาก สำนักข่าวไทย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net