Skip to main content
sharethis

ประธานาธิบดีบารัก โอบาม่า เสนอชื่อ "เกล็น ทาวเซ็นด์ เดวีส์" ต่อวุฒิสภา เพื่อดำรงตำแหน่งทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย โดยเป็นนักการทูตอาวุโส เคยเป็นรองผู้ช่วยรัฐมนตรี ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เป็นผู้แทนพิเศษด้านนโยบายเกาหลีเหนือ เป็นผู้แทนสหรัฐฯ ที่ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ

เมื่อวันจันทร์นี้ (13 เม.ย.) เว็บไซต์ทำเนียบขาว ของสหรัฐอเมริกาประกาศว่า ประธานาธิบดี บารัก โอบาม่า ได้เสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งบุคคลสำหรับดำรงตำแหน่งบริหารที่สำคัญ 3 ตำแหน่ง ได้แก่

เกล็น ทาวเซ็นด์ เดวีส์ เอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา
คารอล วอลเลอร์ โปป สมาชิกองค์การสหพันธ์แรงงานสัมพันธ์ (FLRA) จะได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานของหน่วยงานดังกล่าว

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโอบามา ได้ประกาศว่าเขาจะแต่งตั้ง อะมันดา เฮสเซอร์ เป็นประธานของคณะกรรมาธิการของประธานาธิบดีด้านทุนของทำเนียบขาว

โอบาม่ากล่าวว่า "เจ้าหน้าที่เหล่านี้มีประสบการณ์อย่างลึกซึ้ง และทำงานอย่างอุทิศตน ต่อบทบาทที่สำคัญของพวกเขานั้น ผมรอคอบที่จะร่วมงานกับพวกเขา"

 

เคยเป็นรองผู้ช่วยรัฐมนตรีฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออก-แปซิฟิก เคยประจำ IAEA

ที่มาของภาพ: สถานเอกอัครราชทูตสรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย

สำหรับ เกล็น ทาวเซ็นด์ เดวีส์ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อให้เป็นทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย แทนคริสตี เคนนีย์ นั้น ในเว็บไซต์ของสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ระบุว่า นายเดวีส์ เป็นนักการทูตอาชีพลำดับชั้นอัครราชทูตที่ปรึกษา ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ พ.ศ. 2557 จนถึงปัจจุบัน

ก่อนหน้านั้น นายเดวีส์เคยเป็นผู้แทนพิเศษด้านนโยบายเกาหลีเหนือระหว่างพ.ศ. 2555–2557 และปฏิบัติราชการในตำแหน่งผู้แทนสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ ณ กรุงเวียนนา และทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency—IAEA) ระหว่างปีพ.ศ. 2552–2555

นายเดวีส์เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มรองผู้ช่วยรัฐมนตรี และเป็นรองผู้ช่วยรัฐมนตรีฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างพ.ศ. 2549–2552 ทั้งยังเป็นที่ปรึกษาอาวุโสประจำ Leadership and Management School แห่ง Foreign Service Institute (FSI) เมื่อพ.ศ. 2548–2549 รักษาการผู้ช่วยรัฐมนตรีฝ่ายประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนและแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาในปีพ.ศ. 2548 รองผู้ช่วยรัฐมนตรีฝ่ายกิจการยุโรประหว่างปีพ.ศ. 2547–2548 และผู้อำนวยการฝ่ายการเมืองในวาระที่สหรัฐอเมริกาเป็นประธานกลุ่ม G-8 ระหว่างปีพ.ศ. 2546–2547

และช่วงปี พ.ศ. 2542–2546 นายเดวีส์รับตำแหน่งอัครราชทูตที่ปรึกษาของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ณ กรุงลอนดอน นอกจากนี้ ท่านยังเคยเป็นผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Council – NSC) ระหว่างปีพ.ศ. 2540–2542 รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาและรองผู้ช่วยรัฐมนตรีฝ่ายกิจการสาธารณะระหว่างพ.ศ. 2538–2540 และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ (Operations Center) กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างพ.ศ. 2535–2537 โดยก่อนหน้านั้น ท่านเคยไปปฏิบัติราชการในหลายประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และซาอีร์ นายเดวีส์จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขา Foreign Service จาก Georgetown University และปริญญาโทจาก National Defense University

 

ตั้งทูตหลังไทยเกิดรัฐประหาร - ขณะที่กระบวนการแต่งตั้งล่าช้า เหตุติดขัดในชั้นวุฒิสภา

ทั้งนี้ชื่อของเดวีส์ จะได้รับการเสนอไปยังวุฒิสภาของสหรัฐอเมริกาเพื่อรับรอง และเมื่อได้รับการรับรองแล้วจึงจะได้ดำรงตำแหน่งทูตประจำประเทศไทย

สำหรับ อดีตทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย คริสตี เคนนีย์ หลังพ้นจากตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้ช่วยรัฐมนตรี ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา

โดยการตั้งทูตสหรัฐอเมริกาคนใหม่ เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐอเมริกาปรับลดความช่วยเหลือทางการทหารกับรัฐบาลไทย หลังเกิดการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2558

ขณะที่การแต่งตั้งบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลเดโมแครตของบารัก โอบามา เป็นไปอย่างล่าช้าเนื่องจากต้องรอการรับรองจากวุฒิสมาชิก ซึ่งเสียงส่วนใหญ่มาจากพรรครีพับลิกัน โดยปัญหานี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net