Skip to main content
sharethis

สุภิญญา กลางณรงค์  กรรมการ กสทช เปิดเผยว่าในการประชุมปฏิบัติการ เรื่อง “โฆษณาอย่างไรไม่เอาเปรียบผู้บริโภค” วันที่ 10 เม.ย.นั้น พบว่า  หลังจากที่ กสทช. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)  เพื่อจัดการแก้ไขปัญหาโฆษณาอาหารและยาในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา  สามารถแก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง  โทรทัศน์ดาวเทียม และเคเบิ้ลทีวีมีความระมัดระวังมากขึ้น  แต่ระยะหลังทั้ง อย. และ กสทช. ตรวจพบว่าเริ่มมีบางช่องกลับมาออกอากาศโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายอีกแล้ว  นับจากนี้ไปหากช่องใดที่มีการกระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก  จะเริ่มมาตรการพักใช้ใบอนุญาต  นอกจากนี้ กสทช. จะเดินหน้าตกลงทำความร่วมมือกับกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อดูแลการโฆษณาสารเคมีทางการเกษตรที่เข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)  เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาโฆษณาเครื่องรางของขลัง และการโฆษณาสินค้าโดยใช้เทคนิคการตลาดแบบตรง   ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ยินดีให้ความร่วมมือเพื่อร่วมกันคุ้มครองผู้บริโภคที่ถูกเอาเปรียบจากการโฆษณาในสื่อโทรทัศน์และวิทยุ  ที่ กสทช. มีกฎหมายที่จะกำกับดูแลได้

เภสัชกรสุภัทรา บุญเสริม  ผู้อำนวยการศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ อย.  กล่าวว่า ขณะนี้ กสทช. ส่งรายชื่อช่องรายการโทรทัศน์ดาวเทียมที่เคยทำข้อตกลงกับ กสทช.มาให้อย.ตรวจสอบเฝ้าระวังจำนวน 53 ช่องรายการ หลังจากที่ถูกปิดไปในช่วงรัฐประหาร เพื่อตรวจสอบว่ามีการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายหรือไม่  หากพบช่องรายการที่พบการกระทำผิดซ้ำจะส่งให้ กสทช.ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป   ทั้งนี้การโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพในโทรทัศน์ดาวเทียมและเคเบิ้ลทีวีนับเป็นปัญหาระดับชาติที่นายกรัฐมนตรีถึงกับปรารภในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีหลายครั้งว่าพบการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพเกลื่อน จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาจริงเอาจังกับการแก้ไขปัญหานี้

ศักดิ์เกษม สุทรภัทร  กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า  ยินดีให้ความร่วมมือกับ กสทช. ในการกำกับการโฆษณาสารเคมีทางการเกษตร เนื่องจากที่ผ่านมากรมฯ พบโฆษณาทางโทรทัศน์ดาวเทียม เคเบิ้ลทีวี  วิทยุ และสื่ออื่นๆ ที่เป็นการหลอกลวงเกษตรกร  มีการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง  แต่ไม่สามารถดำเนินใดๆ ได้มากนักเนื่องจากกฎหมายปุ๋ยที่กรมวิชาการเกษตรบังคับใช้นั้นไม่ได้ให้อำนาจในการควบคุมการโฆษณาก่อนเหมือนอาหาร ยา และเครื่องมือแพทย์ที่มีกฎหมายระบุอย่างขัดเจน  มีเพียงมาตราเดียวที่พูดถึงการโฆษณาแต่ที่ผ่านมากรมฯ ไม่สามารถใช้บังคับได้เนื่องจากไม่สามารถไปกำกับช่องรายการที่โฆษณาสารเคมีดังกล่าวได้  ดังนั้นหากมีการจับมือกับ กสทช. ทำให้พอมองเห็นแนวทางว่าจะดำเนินการจัดการปัญหาโฆษณาสารเคมีที่อวดอ้างและหลอกลวงเกษตรกรได้ เหมือนที่ กสทช.จับมือกับ อย.อย่างแข็งขันในการจัดการปัญหาโฆษณาอาหารและยา

ดนัย หงสุรพันธ์  สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พูดถึงการแก้ไขปัญหาการโฆษณาเครื่องรางของขลัง  การโฆษณาสินค้าโดยใช้เทคนิคการตลาดแบบตรง  ต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ว่ามีการกระทำที่หลอกลวงผู้บริโภคจริง  แต่หาก กสทช. สามารถขอให้ช่องรายการต่างๆ ที่โฆษณาที่เข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภคระงับโฆษณาก่อน  แม้กระบวนการตัดสินคดียังไม่สิ้นสุดแต่ทำให้ผู้บริโภคได้รับการคุ้มครองจากโฆษณาที่หลอกลวงได้มากทีเดียว

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net