ทรงธรรม สุขสว่าง  ผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่า ยอมรับ  "Unseen Thailand" มีส่วนให้ทะเลไทยเสื่อมโทรม ด้านธรณ์ ธำรงค์นาวาสวัสดิ์ เผย คนไทยได้เงินจากการท่องเที่ยวเพียง 15 เปอร์เซ็นต์ นอกนั้นเข้ากระเป๋าต่างชาติ

27 มี.ค. 2558 สำนักข่าวไทยพีบีเอส รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2558 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จัดเสวนาเรื่อง "วิกฤตการท่องเที่ยวทางทะเล" เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากนักวิชาการ ตัวแทนนักอนุรักษ์และหน่วยงานภาครัฐเกี่ยวกับ สำหรับนำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติทางทะเล ซึ่งผู้แทนจากกรมอุทยานแห่งชาติฯ ยอมรับว่าการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามโครงการ Unseen Thailand ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีส่วนทำให้อุทยานแห่งชาติหลายแห่งเสียหาย

ทรงธรรม สุขสว่าง ผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่าความเสื่อมโทรมของอุทยานแห่งชาติทางทะเลของไทยเกิดขึ้นมานานนับ 10 ปีแล้ว ตัวอย่างเช่นแนวปะการังในทะเล จ.ภูเก็ต ถูกทำลายจากการสร้างโรงแรม รีสอร์ตเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว  นอกจากนี้่นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลในหลายยุค รวมทั้งการเปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ตามโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เรียก ว่า "Unseen Thailand" ยังส่งผลให้อุทยานแห่งชาติหลายแห่งเสื่อมโทรมเพราะการท่องเที่ยวที่บูมและ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เกินศักยภาพการรองรับของพื้นที่ เช่น เกาะตาชัย อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำไปใช้โปรโมทเพื่อดึงเม็ดเงินรายได้เข้าประเทศจนมีนักท่องเที่ยวเข้าไปใน พื้นที่มากเกินไปและสร้างผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ

ทรงธรรมเห็นด้วยกับการปฏิรูปการจัดการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่สภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) จัดทำข้อเสนอ กล่าวคือ ให้แยกสำนักจัดการอุทยานทางทะเลเป็นองค์กรใหม่

ธรณ์ ธำรงค์นาวาสวัสดิ์ ประธานอนุกรรมการปฎิรูปทะเลไทย สปช. กล่าวว่า การจัดการท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเลล้มเหลวมานานทั้งในเชิง นโยบายที่ขาดความชัดเจนดำเนินงาน ขาดระบบการคัดเลือกคนมาทำงานในอุทยานแห่งชาติทางทะเล ซึ่งส่วนหนึ่งได้มาทำงานเพราะการวิ่งเต้นหรือเป็นคนของนักการเมือง

ธรณ์เปิดเผยว่า มีข้อมูลว่าผู้ที่จะได้รับตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติสิมิลัน ต้องจ่าย "ค่าตำแหน่ง" นับล้านบาท ขณะที่ยังต้องหารายได้เพื่อนำเงินไปส่งส่วย เช่น หารายได้จากการผูกขาดกิจการร้านอาหารบนเกาะ เป็นต้น

ขณะนี้หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ติดอันดับ 1 ใน 5 ของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่เสื่อมโทรมที่สุดในโลก ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีการนำเรือขนนักท่องเที่ยว นับร้อยลำเข้าไปเหยียบย่ำทำลายแนวปะการัง ขณะที่เม็ดเงินการท่องเที่ยวทำรายได้เข้ากับประเทศเพียง 15 เปอร์เซนต์เท่านั้น แต่อีก 85% ไปอยู่กับนักธุรกิจต่างชาติที่มาซื้อโรงแรม ร้านอาหาร และนำเรือขนนักท่องเที่ยวมาลง มากิน มาใช้ในธุรกิจของเขา เงินรายได้จึงไม่ได้อยู่กับไทย และไม่ใช่รูปแบบการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ธรณ์ระบุ