Skip to main content
sharethis

เจ้าของบาร์ "V Gastro" เป็นชาวพม่า 2 ราย นิวซีแลนด์  1 ราย ถูกศาลพม่าตัดสินให้มีความผิด "ทำให้สิ่งศักดิ์สิทธิเสียหาย" และ "เปิดร้านเกินเวลา" สั่งจำคุก 2 ปี 6 เดือน ใช้แรงงานหนัก 3 เดือน จากกรณีทำโปสเตอร์โปรโมชั่นร้านรูปพระพุทธเจ้าสวมหูฟัง แอมเนสตี้ฯ ชี้เป็นความถดถอยของเสรีภาพทางศาสนา ขณะที่ฝ่ายพุทธสุดขั้วมีอิทธิพลยิ่งขึ้น

ฟิลิปส์ แบลควูด ชาวนิวซีแลนด์ 1 ใน 3 เจ้าของร้าน "V Gastro" ถูกศาลพม่าตัดสินให้มีความผิดฐานทำให้วัตถุหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิได้รับความเสียหาย รวมทั้งไม่เชื่อฟังคำสั่งเจ้าหน้าที่รัฐ เนื่องจากกเปิดร้านเกินเวลา โดยฟิลิปส์ และชาวพม่าอีก 2 ราย ถูกดำเนินคดี หลังจากเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โพสต์รูปโปสเตอร์ร้าน ที่เป็นรูปพระพุทธเจ้าสวมหูฟัง (ที่มาของภาพ: 3News/แฟ้มภาพ)

20 มี.ค. 2558 - เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ศาลอาญาที่นครย่างกุ้ง ตัดสินให้เจ้าของร้านและผู้จัดการบาร์  "V Gastro" ได้แก่ ทุนธุเหร่ง เจ้าของร้าน, ตุดโกโก ลวิน ผู้จัดการร้าน และผู้จัดการทั่วไป ฟิลิปส์ แบลควูด ชาวนิวซีแลนด์ ถูกตัดสินลงจำคุก 2 ปี 6 เดือน และให้ใช้แรงงานหนัก 3 เดือน ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาพม่า มาตรา 188 และ 295(a) ในคดีโปสเตอร์รูปพระพุทธเจ้าสวมหูฟัง ทั้งนี้ตามรายงานข่าวของอิระวดี

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา หลังมีผู้ฟ้องร้องว่าพวกเขาทำโปสเตอร์โฆษณาโปรโมชั่นของร้านเป็นรูปวาดพระพุทธเจ้าสวมหูฟัง ข้างหลังเป็นภาพศิลปะแนวไซคีเดลิก หรือแนวมนัสปรีดิ์ (Psychedelic Art) โดยหลังจากถูกฟ้อง พวกเขาทั้งสามได้แถลงขอโทษรวมทั้งลบโพสต์รูปดังกล่าวแล้ว (อ่านคำแถลง)

 

 

 

คำแถลงของร้าน V Gastro ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2557

โดยความผิดในประมวลกฎหมายอาญาพม่า มาตรา 188 ไม่เชื่อฟังคำสั่งเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งนี้เนื่องจากเปิดร้านเกินเวลาที่กำหนด ส่วนความผิดใน มาตรา 295(a) กฎหมายฉบับเดียวกัน คือ เกี่ยวข้องกับการทำลาย ทำให้เสียหาย หรือสร้างมลทินให้กับวัตถุหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ด้วยเจตนาตั้งใจหรือรู้ผลแห่งการกระทำ โดยโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน เป็นโทษสูงสุดของข้อกล่าวหาข้างต้น

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สมาชิกครอบครัวของทั้งสาม และผู้สนับสนุนกลุ่มชาตินิยมพุทธพม่า "มะบะต๊ะ" ได้รวมตัวที่ศาลแขวงบาฮาน ตั้งแต่เช้าวันอังคารเพื่อรอคำพิพากษา ทั้งนี้จำเลยทั้ง 3 ถูกจับกุมมาตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค.

คำพิพากษาดังกล่าวทำให้ฝูงชนนอกศาลพอใจ แต่ทำให้มารดาของหนึ่งในผู้ต้องหาโกรธเกรี้ยว "ในประเทศของเรา ทุกคนสามารถเล่นเฟซบุ๊ค" เอถั่นถั่นทู มารดาของตุดโกโก ลวิน กล่าว "แม้แต่พระก็ใช้เฟซบุ๊ค สิ่งนี้เป็นปัญหาหรือ?"

โดยเอถั่นถั่นทู ตั้งคำถามถึงคำพิพากษาของศาล ว่าศาลใช้อำนาจอะไรตัดสินลูกชายของเธอ ซึ่งเป็นคนพม่าที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ก่อนหน้านี้อยู่ในประเทศญี่ปุ่น

ด้านเมียะ ถเว ทนายความของจำเลยทั้ง 3 ปฏิเสธให้ความเห็นกรณีคำพิพากษาดังกล่าว

ขณะที่ผู้สังเกตการณ์นานาชาติ ได้ประณามคำพิพากษาดังกล่าว ด้วยเห็นว่าเป็นสัญลักษณ์ของการถอยกลับของเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพในศาสนาของพม่า

โดยแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกการตัดสินดังกล่าวว่า "น่าเย้ยหยัน" พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยตัวทั้งสามทันทีและอย่างไม่มีเงื่อนไข

รูเพิร์ต แอ็บบอต ผู้อำนวยการงานวิจัย ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า "คำพิพากษาวันนี้เป็นอีกหนึ่งการโจมตีเสรีภาพในการแสดงออกของพม่า ในขณะที่กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศยอมให้มีการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก แต่ข้อจำกัดเหล่านั้นก็มีการนิยามไว้ชัดเจนและมีขอบเขตจำกัด

เขากล่าวด้วยว่า "การหดตัวของพื้นที่เสรีภาพทางศาสนา" ในพม่า "น่ากังวลอย่างยิ่ง" เพราะฝ่ายพุทธศาสนิกชนแบบสุดขั้วกำลังเพิ่มอิทธิพล และพวกเขาพอใจที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไม่ทำอะไร ในรอบหลายปีมานี้ถือเป็นการเพิ่มขึ้นของความคลั่งศาสนา ซึ่งบ่อยครั้งถูกปลุกเร้าโดยองค์กรชาตินิยมแนวพุทธ

ด้านฮิวแมนไรท์ วอทช์ ระบุเมื่อวันอังคาร (17 มี.ค.) ด้วยว่า ในขณะที่การแชร์ภาพพระพุทธเจ้าแบบแหกขนบเป็น "ความละเอียดอ่อนทางวัฒนธรรม" บทลงโทษที่เกิดขึ้นก็เป็นสิ่งการลงโทษที่ไม่ได้สัดส่วน

"สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเสรีภาพในการแสดงออกในพม่า กำลังอยู่ในสภาพที่ถูกคุกคาม" ฟิล โรเบิร์ตสัน ผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์ วอทช์ ภาคพื้นเอเชียกล่าว

"เจ้าหน้าที่รัฐบาลควรยอมรับคำขอโทษอย่างจริงใจจากชายทั้งสามคนนั้น ถอนการลงโทษดังกล่าว และมีคำสั่งให้ปล่อยตัวพวกเขาทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข และกฎหมายที่เกี่ยวกับศาสนาควรได้รับการปรับปรุงให้เป็นไปตามมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล" ฟิล โรเบิร์ตสันกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net