รมว.ศึกษา เผย พล.อ.ประยุทธ์ เรียกประชุมซุปเปอร์บอร์ดด้านการศึกษา มุ่งจัดทำแผน 5 ปี นักเรียนต้องเรียนอย่างมีความสุข จบแล้วประกอบอาชีพ-แข่งขันต่างประเทศได้ ปี 58 ตั้งเป้าสร้างผู้ประกอบการ  1 แสน ต่ออาชีวะ  1 ล้าน ซ่อมและประดิษฐ์ทีวีดิจิตอล-รองรับโลจิสติกส์รถไฟ พร้อมตั้งสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ เป็นที่ปรึกษาซุปเปอร์บอร์ด

นายกรัฐมนตรีประชุมคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2558 (ที่มา: เว็บไซต์รัฐบาลไทย)

19 มี.ค. 2558 - สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา หรือซุปเปอร์บอร์ด ภายหลังการประชุม นายกฤษณพงษ์ กีรติกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้ ซุปเปอร์บอร์ดการศึกษา จัดทำแผนการศึกษาหรือมาสเตอร์แพลน ระยะ 5 ปี พร้อมให้ประสานงานแนวทางการปฎิรูปการศึกษากับสภาปฎิรูปแห่งชาติและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ สำหรับแนวทางที่นายกรัฐมนตรีเสนอ คือ การปฏิรูปการศึกษา ควรเน้นการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาการให้ความรู้แก่เด็กนักเรียน โดยเฉพาะการนำการศึกษาผ่านทางไกล DLTV มาเป็นช่องทางการกระจายความรู้ทางการศึกษา

นอกจากนี้ในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาจะต้องเป็นรูปธรรมในระยะสั้นทำทันที ภายใน 3 เดือน และระยะยาว 5 ปี โดยจะต้องทำให้นักเรียนเรียนรู้อย่างมีความสุข จบการศึกษาไปแล้วประกอบอาชีพได้ มีทักษะ ที่สามารถแข่งขันกับต่างประเทศ พร้อมยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยนายกรัฐมนตรี ต้องการให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาขยายเป้าหมายอาชีวะทวิภาคีระหว่างภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาหลักสูตรฝึกอาชีพ และการรับเข้าทำงาน ระหว่างนักศึกษา และผู้ประกอบการภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ซึ่งนายกรัฐมนตรีตั้งเป้าภายในปีนี้ (2558) ผู้ประกอบการ 1 แสนต่อนักศึกษาอาชีวะ 1 ล้านคน ที่สำคัญต้องมีการวางแผนและพัฒนาหลักสูตรร่วมกัน โดยยึด หลักการคือการต่อยอดทักษะ เช่น สามารถซ่อมรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ หรือบิ๊กไบค์ได้ หรือสามารถซ่อมและประดิษฐ์ทีวีดิจิตอลได้ ต้องมีทักษะเสริมอาชีพที่ 2 เพื่อนำไปสู่การสร้างรายได้ และผลิตคนให้ตรงกับความต้องการของงาน รองรับนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะด้านโลจิสติกส์ รถไฟไทย-จีน และการท่องเที่ยว

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า แผนการศึกษาดังกล่าวต้องยกระดับมหาวิทยาลัยให้สามารถแข่งขันกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศได้ และต้องผลิตคนไปรองรับการตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ อีกทั้งในแผนนี้ยังเน้นการพัฒนาบุคลากร ครู อาจารย์ ให้มีคุณภาพรองรับการเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ

ทั้งนี้ ในที่ประชุมนายกรัฐมนตรีสั่งการไปศึกษาจุดเด่นของระบบการศึกษา 3 ประเทศ คือ ฟินแลนด์ สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ เพื่อนำมาพัฒนา และปฏิรูประบบการศึกษาไทยที่ประชุมยังแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษาคณะกรรรมการหรือซุปเปอร์บอร์ด 2 คน คือ นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI และนายวีรไท สันติประภพ ที่ปรึกษา TDRI