อัยการสูงสุดแถลงส่งสำนวนและหลักฐานฟ้องบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์และพวก 21 คน คดีทุจริตระบายข้าวรัฐต่อรัฐ โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำสั่งว่ารับฟ้องหรือไม่ 20 เม.ย. นี้

17 มี.ค. 2558 - สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รายงานว่า นายชุติชัย สาขากร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ร่วมกันแถลงภายหลังอัยการสูงสุด ได้ส่งสำนวนและหลักฐานยื่นฟ้องนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และพวกรวม 21 คน ในคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมีสำนวนที่เป็นเอกสารต้นฉบับ และสำเนา รวมทั้งหมด 205 ลัง จำนวน กว่า 16,000 หน้า

อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ กล่าวว่า ในวันนี้ อัยการสูงสุดได้เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวพาณิชย์ กับพวกรวม 21 คน เป็นจำเลยต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในความผิดฐานร่วมกันกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา และ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือ ทุจริตต่อหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานภาครัฐ พุทธศักราช 2542 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พุทธศักราช 2542 ในโครงการรับจำนำข้าว กรณีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ มีอัตราโทษสูงสุด จำคุกตอลดชีวิต และปรับสูงสุด เป็นเงินสามหมื่นห้าพันสองร้อยเจ็ดสิบสี่ล้านหกแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันเจ็ดบาทถ้วน (35,274,611,007 บาท)

ด้านอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน กล่าวว่า จำเลยในคดีนี้ ประกอบด้วยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 3 คน ข้าราชการพลเรือน 3 คน นอกนั้น เป็นบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล แม้ว่าในวันนี้จำเลยจะไม่ได้เดินทางมาศาลฯ แต่อัยการสูงสุดสามารถปฏิบัติหน้าที่ในการยื่นฟ้องได้ตามกฏหมาย โดยขั้นตอนต่อจากนี้ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา จะเลือกองค์คณะผู้พิพากษาเพื่อพิจารณาคดี 9 คน โดยเลือกจากผู้ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ากว่าผู้พิพากษาศาลฎีกา หรือ ผู้พิพากษาอาวุโสศาลฎีกา ให้แล้วเสร็จภายใน 14 วัน และองค์คณะผู้พิพากษาดังกล่าวจะประชุมเพื่อเลือกเจ้าของสำนวนคดี 1 คน ก่อนพิจารณาคำฟ้องของอัยการสูงสุด

โดยศาลจะมีคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ ในวันที่ 20 เมษายนนี้ เวลา 10.00 น.