12 มี.ค. 2558 สำนักข่าวไทย รายงานว่า พลตำรวจโท ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประชุมชุดสืบสวนสอบสวนติดตามความคืบหน้าคดีปาระเบิดตกศาลอาญารัชดาภิเษก พร้อมกล่าวว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานจนถึงขณะนี้ พบว่าเหตุดังกล่าว กับระเบิดบริเวณทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สยาม ใกล้ห้างสยามพารากอน มีนายทุนเป็นกลุ่มเดียวกัน คอยให้การสนับสนุนเงินทุนและอาวุธ ระเบิด ในการก่อเหตุ รวมถึงเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ด้วย แต่เร็วเกินไปที่จะระบุว่าเป็นกลุ่มใด เนื่องจากพยานหลักฐานที่มียังไม่เพียงพอ

ทั้งนี้ คดีระเบิดศาลอาญา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 7 คน จาก 9 คน และคาดวันพรุ่งนี้ (13 มี.ค.) ทหารจะส่งตัวให้ตำรวจนครบาลสอบสวน และแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ นอกจากนี้ยังเตรียมขอศาลออกหมายจับบุคคลชื่อเดียร์ ที่กลุ่มผู้ต้องหาพาดพิงว่าเป็นผู้ว่าจ้าง ซึ่งการข่าวพบว่ายังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย พร้อมยืนยันคดีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทุกคดีตำรวจนครบาลยังคงสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับมาตรการป้องกันไม่ให้มีการก่อเหตุซ้ำอีก

ต่อมาเมื่อช่วงค่ำวันนี้ มีรายงานว่า จนท.ทหาร ได้ควบคุมตัว เดียร์ ซึ่งถูกอ้างจากกลุ่มผู้ต้องหาปาระเบิดศาลอาญาว่า เป็นผู้บงการให้มีการปาระเบิดในเหตุการณ์ครั้งนี้ได้แล้วเมื่อช่วงเย็นวันนี้ ที่ จ.มุกดาหาร และอยู่ระหว่างควบคุมตัวเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อขยายผลต่อ โดยมีรายงานด้วยว่า การเข้าควบคุมตัวเดียร์ เป็นผลจากการสอบถามขยายผลนายวิชัย อยู่สุข หรือตั้ม ซึ่งทหารควบคุมตัวได้ก่อนหน้านี้ โดยในการสอบถามนายวิชัย ยืนยันว่าเดียร์ไม่น่าจะอยู่ในประเทศออสเตรเลีย อย่างที่มีการกล่าวอ้าง ทหารและตำรวจจึงประสานงานกันในการตรวจสอบกระทั่งพบความเคลื่อนไหวว่าเดียร์เดินทางเข้าออกระหว่างไทยและลาว บ่อยครั้ง โดยมักใช้ด่านชายแดน จ.มุกดาหาร โดยการตรวจสอบในครั้งนี้ทำให้ทราบจุดที่เดียร์พักอาศัยอยู่จึงเข้าควบคุมตัวได้ในที่สุด

นอกจากการให้การซัดทอดของผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวก่อนหน้านี้แล้ว ทหารและตำรวจระบุว่า ยังมีหลักฐานสำคัญคือ ไลน์ที่เดียร์ใช้ในการติดต่อกับ น.ส.ณัฏฐพัชร์ อ่อนมิ่ง และ ไลน์ที่ น.ส.ณัฏฐพัชร์ ใช้ติดต่อสั่งการให้นายยุทธนา เย็นภิญโญ มือปาระเบิด ลงมือปาระเบิด RGD-5 เข้าไปในศาลอาญา ถนนรัชดาฯ โดยในไลน์ดังกล่าวปรากฏข้อความอ้างว่าเดียร์จะจ่ายเงินให้หลังจากเกิดเหตุระเบิด

ล่าสุด จนท.ควบคุมตัวเดียร์ ไปไว้ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง ใน จ.นครพนม

 

ที่มา: สำนักข่าวไทย (1, 2)