Skip to main content
sharethis

18 ก.พ.2558 มติชนออนไลน์ รายงานว่า พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิดรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงผลประชุมครม.ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุถึงการที่รัฐบาลจัดเวทีกลางเพื่อให้ข้อมูลข่าวสารกับผู้ที่เกี่ยวข้องด้านพลังงาน ในวันที่ 20 ก.พ.นี้ เพื่อแสดงความมั่นใจให้ทุกภาคส่วนเห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ต้องการดำเนินการโดยไม่ฟังความคิดเห็นใคร ขณะนี้ข้อมูลด้านปิโตรเลียมมี 2 ชุด คือของกระทรวงพลังงาน และข้อมูลของผู้ที่ห่วงใย จึงเกิดความไม่มั่นใจในสังคมว่าข้อมูลใดถูกต้องที่จะเดินไปอย่างไร วิธีการใดจะเหมาะสมที่สุดระหว่างรัฐบาลลงทุนดำเนินเองทั้งหมด วิธีแบ่งปันผลประโยชน์ หรือการสัมปทาน จึงต้องเปิดเวทีนี้ขึ้นให้รับฟังข้อมูลสองด้านพร้อมกัน และประชาชนจะตัดสินว่าข้อมูลของใครที่มีความน่าเชื่อมากกว่า จากนั้นรัฐบาลจะรับข้อมูลที่หารือกันไปประมวลกำหนดทิศทางว่ารัฐบาลจะดำเนินการไปอย่างไร  ทั้งนี้นายกฯ วิงวอนทุกฝ่ายให้การพูดคุยในเวทีนี้ได้ข้อยุติ ให้เสนอข้อมูลต่อกันและเปิดใจรับฟังข้อมูล ไม่ใช่เป็นการโต้วาทีเอาชนะกันอย่างเดียว 

ขณะที่ ไทยรัฐออนไลน์ รายงานบทสัมภาษณ์ รสนา โตสิตระกูล รองประธานกรรมาธิการปฏิรูปพลังงาน สภาปฏิรูปแห่งชาติ ถึงเวทีดังกล่าวว่า เนื่องจากรูปแบบการจัดเวทีของรัฐบาลในวันที่ 20 ก.พ. ยังเป็นรูปแบบของการมาโต้เวทีกัน ซึ่งตรงนี้ยังคิดว่าไม่น่าจะมีประโยชน์อะไรที่จะมาแสดงวิสัยทัศน์กันคนละฝ่าย จึงมองว่าความจริงแล้ว น่าจะมีการปรึกษาหารือในส่วนของรัฐบาลกับภาคประชาชนว่าจะจัดรูปแบบอย่างไรให้ได้ประโยชน์ เพราะว่าคำถามที่ได้รับมาเป็นคำถามที่ต้องใช้เวลาตอบมาก และเวลานี้ควรจะตอบว่า นายกฯ ควรจะจัดการในประเด็นเรื่องที่เป็นนโยบาย ส่วนที่ประชาชนเรียกร้อง คือให้มีการชะลอเปิดปิโตรเลียมรอบที่ 21 และการแก้ไขกฎหมายหรือไม่

"เพราะฉะนั้นสิ่งที่เรียกร้องคือ นายกฯ ควรจะมาฟัง แต่นายกฯ บอกว่าไม่มา ซึ่งตรงนี้หากนายกฯ ไม่มาแล้วจะมีประโยชน์อะไร จึงมีความรู้สึกว่า เวทีนี้จัดไปเป็นเพียงพิธีกรรมหรือไม่ ให้มาพูดๆ แล้วจบ ซึ่งไม่ได้ประโยชน์อะไร อย่างน้อยที่สุด รัฐบาลต้องมาตอบว่า สิ่งที่ประชาชนเรียกร้องคุณมีปัญหาอะไร เป็นเรื่องระดับนโยบาย" รสนา กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net