เมืองไทยเรานี้มีอะไรแปลกๆ เศรษฐกิจกำลังดี คนขี่เก๋งใช้น้ำมันราคาถูก รัฐบาลเลยยกเลิกรถเมล์ฟรี ขึ้นค่ารถร่วมอีก 1 บาท และกำลังจะเป็น 10 บาท รองรับการจ้างงานเพิ่มแสนตำแหน่ง

ศูนย์พยากรณ์หอการค้า บอกว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลด แต่รองนายกฯ คุยว่าเก็บภาษีสูงเป็นประวัติศาสตร์ แล้วก็ไปอวดผลงานด้วยการสั่งสอนพิธีกรทีวีให้รู้จักสมบัติผู้ดี

นายกรัฐมนตรีพาภริยานั่งรถไฟชินคันเซ็น เป็นวาสนาคนไทยได้พึ่งใบบุญนั่งรถไฟความเร็วสูง หลังศาลรัฐธรรมนูญทำแท้งเงินกู้ 2 ล้านล้าน นี่ถ้าไม่ทำรัฐประหารยกเลิกรัฐธรรมนูญเสีย เราคงยังใช้ถนนลูกรัง แต่ป่านฉะนี้ ป.ป.ช.ยังไล่บี้เอาผิด ครม.ชุดที่แล้วฐานจะกู้เงินมาทำรถไฟความเร็วสูง

อดีตนายกฯ สั่งสลายม็อบเรียกร้องให้ยุบสภาด้วยกระสุนจริง ศาลพิสูจน์ข้อเท็จจริงแล้ว ยังลอยนวล และยังไม่ถูกถอดถอน แต่อดีตนายกฯ ที่สั่งสลายม็อบขัดขวางการประชุมสภาด้วยแก๊สน้ำตา โดนลากคอขึ้นศาลทั้งที่อัยการเคยสั่งไม่ฟ้อง

อดีตรองนายกฯ ผู้ถอดยศตัวเองเป็นกำนัน นำม็อบปิดเมืองปิดสถานที่ราชการ นุ่งผ้าเหลืองไปบิณฑบาตโดยมีตำรวจคุ้มกัน เผื่อใครโยนระเบิดใส่ท่าน ตำรวจจะได้เตะระเบิดให้

อดีตนายกฯ ผู้ดำเนินนโยบายตามที่ให้สัญญาประชาคม ถูกฟ้องศาลฐานไม่เชื่องานวิจัย TDRI แค่กลับไปเยี่ยมบ้านก็มีตำรวจทหารตรวจค้นอย่าง "ให้เกียรติ"

คนไทยเราเก่งใช้ภาษา ตรวจค้นก็เรียก "อารักขา" เอาตัวไปคุมในค่ายทหารก็เรียกว่า "ปรับทัศนคติ" สลายม็อบด้วยกระสุนจริงก็ใช้คำว่า "กระชับพื้นที่" สมแล้วที่กระทรวงศึกษาฯเพิ่มเวลาเรียนภาษาไทย

นี่ คสช.ก็เชิญผู้ช่วยทูตทหารไปขอร้อง อย่าเรียก "เผด็จการ" เพราะแสลงใจ แต่ไม่ยักบัญญัติศัพท์ใหม่ให้เรียกอะไร ฝรั่งโง่ๆ มันไม่เข้าใจนะครับ ฝรั่งเข้าใจแต่ว่าโลกนี้มี 2 ระบอบคือเผด็จการกับประชาธิปไตย แล้วตอนนี้เราเป็นประชาธิปไตยไหม ท่านก็บอกไม่ได้ เพราะใช้อำนาจรัฐประหารอยู่ เพียงแต่บอกว่าประชาชนมีส่วนร่วม

รัฐประหารแต่ไม่ใช่เผด็จการ เป็นระบอบใหม่ไม่เคยมีที่ไหนในโลก Thailand Only น่าจะประกวดตั้งชื่อ ชิงรางวัล ผมจะได้ตั้งว่า "รัฐประหารแบบมีส่วนร่วม" เพราะเป็นรัฐประหารที่เปิดให้คนเข้าร่วมอย่างกว้างขวาง ยกเว้นกลุ่มเดียวเท่านั้นคือผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 20 ล้านเสียง

คสช.ไม่ ได้คิดเองทำเองหรือไม่ฟังใคร จริงครับ คสช.แค่ถือปืนกับกฎอัยการศึกไว้ แล้วให้ผู้เห็นด้วยแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย สนช.ตั้งมากับมือแต่สั่งใครไม่ได้ 190 เสียงเป็นไปตามกระบวนการนิติบัญญัติที่มีมาก่อน คสช. Impeachment ทั้งที่พ้นตำแหน่ง Impeachment ตัดสิทธิ 5 ปี เป็นกระบวนการยุติธรรมแบบไทยๆ ไม่ใช่เรื่องการเมือง ฯลฯ

แหมไม่รู้จะกังวลไปทำไม ไอ้กันปากเก่งไปงั้น สุดท้ายยังซ้อมรบคอบร้าโกลด์ ไอ้ยุ่นก็ทำเป็นคัดค้าน พอได้รถไฟความเร็วสูงก็เชิญไปนั่งชินคันเซ็น ส่วนสหายจีนไม่เคยมีความเห็น ขอแค่ดอกเบี้ย 2-4% ประเด็นสำคัญอยู่ที่ในประเทศเราเองมากกว่า

ว่าที่จริงก็ต้องชมท่านนายกฯ หลังอุณหภูมิการเมืองร้อนระอุมา 3 สัปดาห์ ท่านก็ออกอาการอยากลงจากอำนาจเร็วๆ อยากเลือกตั้งเร็ว ให้สัญญาประชาคมไม่เกินต้นปีหน้า ซ้ำแสดงท่าทีเบื่อหน่าย เข็ด ไม่เอาอีกแล้ว

เป็นเรื่องดีนะครับที่มีท่าทีเช่นนี้ แต่ที่จริง คสช.ควรจะ "มาเร็ว เคลมเร็ว ไปเร็ว" ตั้งแต่แรก แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวเพื่อตกลงกติกาปฏิรูปหลังเลือกตั้ง ไม่ใช่เอาตัวเองมาติดหล่มแม่น้ำ 5 สาย ซึ่งถ้าวางกติกาพันธนาการประชาธิปไตย จนเกิดปั่นป่วนวุ่นวายแตกหักในวันหน้า ถ้าไม่รัฐประหารอีกครั้งอย่างที่ไอ้กันระแวง ก็จะเจอ "บูมเมอแรง" กลับมา

ซึ่งถ้าดูแนวโน้มการยกร่างรัฐธรรมนูญ การปฏิรูป การออกกฎหมาย ก็น่ากังวลว่าพันธนาการเยอะเหลือเกิน ล่อเป้าสร้างความขัดแย้งไม่ใช่แค่วันหน้า แต่ฉายแล้ววันนี้ และจะมีประเด็นใหม่เรื่อยๆ ตั้งแต่เรื่องล่อกันเองอย่างยุบ กสม. ลดอำนาจ กกต. ไปจนกฎหมายมั่นคงไซเบอร์ที่สร้างแนวร่วมคัดค้านหลากหลาย

มิพักต้องพูดถึงรัฐธรรมนูญที่จะให้มีวุฒิสภาจากสรรหา มีสมัชชาคุณธรรม มีศาลใหม่ มีองค์กรอิสระ มีอำนาจล้นหลามจนรัฐบาลเลือกตั้งเป็นเจว็ด ซ้ำยังกระจายความขัดแย้งสู่ท้องถิ่น กำหนดให้สภาและผู้บริหารท้องถิ่นมาจากเลือกตั้งหรือ "วิธีอื่น" ก็ได้ ให้ข้าราชการแต่งตั้งโยกย้ายกันเองทุกระดับ ยึดรัฐวิสาหกิจไปอยู่ใต้ "ซูเปอร์โฮลดิ้ง"

เลือกตั้งต้นปีหน้า ผมเชื่อสัญญาประชาคม เอ๊ะ แต่นี่เพิ่งเดือนกุมภาฯ ท่านต้องอยู่อีกตั้งปีนะครับ

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์