Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

 


หลายปีมานี่มีคำถามที่ผมพยายามหาคำตอบ แต่ยังไม่จุใจสักที ตามอ่านของใครหลายคน ทั้งไทยทั้งเทศ ก็ยังไม่ชัดเจน หรือ อาจจะเป็นได้ว่ายังอ่านไม่มากพอ ถ้าใครเจออะไรดีๆ โดยเฉพาะพรรคพวกที่อยู่อเมริกาช่วยแชร์มาให้หน่อย คือว่า ผมสงสัยว่า สหรัฐอเมริกา จริงจังอะไรหนักหนากับปัญหาความเป็นประชาธิปไตยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในไทยก็ดี พม่าก็ดี หรือกัมพูชา เมื่อวันก่อนก็ที่มาเลเซีย

อาจารย์นิธิเขียนโดยอ้างอาจารย์กานดาว่า พวกอนุรักษ์นิยมในสหรัฐเปลี่ยนท่าทีในการมองโลกของเขาใหม่ จากเดิมก็คิดแต่เพียงว่าใครก็ตามเอื้อประโยชน์ต่อสหรัฐพวกเขาก็เชียร์ไปหมด แต่อาจารย์นิธิก็ไม่ตอบ (แกอ้างว่าตอบไม่ได้) อีกแหละว่า ทำไมหรือเพราะเหตุใดหรือพวกเขาจึงได้เปลี่ยนความคิด

คำตอบอื่นๆที่พวกฝรั่งพากันเขียน ทั้งพวกอเมริกันเองและยุโรป ก็บอกว่าชนชั้นนำในสหรัฐเริ่มรู้สึกหวั่นไหวไม่มั่นคงเมื่ออารยธรรม วัฒนธรรมและคุณค่าทางอุดมการณ์ของพวกเขาถูกท้าทาย ครั้งแรกตามที่ฮันติงตันว่า ก็เกิดจากโลกมุสลิมและปัจจุบันนี้ แรงต่อต้านและท้าทายจากโลกมุสลิมยังไม่หมดไป แถมยังจะรุนแรงมากขึ้น มหาอำนาจใหม่ก็เกิดขึ้นในเอเชีย คือ จีน ยังไม่นับอินเดีย

ผมว่าเรารู้สึกได้สักระยะหนึ่งแล้วว่า สหรัฐอเมริกากำลังตกต่ำ ทั้งทางการเมือง การทหาร และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจ ศาสดาพยากรณ์ทั้งหลายต่างทำนายตรงกันว่า อารยธรรมตะวันตกซึ่งมีสหรัฐเป็นผู้ขับเคลื่อนหลักอยู่ในเวลานี้ถึงกาลแห่งความตกต่ำแล้ว ถ้านับเวลาก็คงอีกสัก 50 ปีหลังจากนี้ (ผมคงตายไปแล้วแหละ) สหรัฐจะหมดอิทธิพลโดยสิ้นเชิง

ประวัติศาสตร์โลกบอกอย่างนั้น เอเชียเคยรุ่งเรื่องมาก่อนเมื่อ 3-4 ศตวรรษ์ก่อน แต่เมื่อสิ้นยุคมืด ความรุ่งเรื่องเกิดในยุโรปประมาณศตวรรษที่ 18 ยุโรปก็รุ่งเรืองจนตราบเท่าศตวรรษที่ 19 ขยายอิทธิพล สร้างอาณานิคมไปทั่วโลก รวมทั้งแถวๆบ้านเราด้วย แต่หลังจากนั้น ระบบจักรวรรดิ์นั่นเองกินตัวเอง ยุโรปส่งมอบอำนาจให้โลกใหม่ของพวกเขาคือ อเมริกา (ประเทศอเมริกานั้นเกิดจากพวกผู้อพยพยุโรปบังคับทาสผิวดำจากแอฟริกาสร้างขึ้นมา) เมื่อยุโรปอ่อนหล้าจากสงครามใหญ่สองครั้งในช่วงกลางๆศตวรรษที่ 20 สหรัฐก็เลยครองโลกมาจนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ การเมือง และคุณค่าทางวัฒนธรรมของตะวันตก แพร่ขยายไปทุกมุมโลก จนน่าจะถึงจุดอิ่มตัวแล้ว พูดตรงไปตรงมาคือ ถ้าไม่มีอินเดอร์เนทเล่นเสียแล้ว ฝรั่งไม่มีอะไรน่าสนใจอีก ฮอลลีวูดสร้างหนังจนหมดมุกและพล๊อตแล้ว สหรัฐในฐานะศูนย์กลางทุนนิยมโลกบริโภคทรัพยากรของโลกจนอิ่มแปร้กินต่อไม่ไหว กิจกรรมทางเศรษฐกิจก็เคลื่อนย้ายมาทางโลกตะวันออก จีนและอินเดีย ก็พงาดขึ้นมาจากความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจ

พวกอมาตย์อเมริกันก็คงจะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงอันนี้ ทั้งยังมองเห็นว่า จีนกำลังจะกลับมาเป็นศูนย์กลางของโลกอีกครั้ง ปักกิ่งนั้นหยั่งรู้ดินฟ้าอยู่แล้วจึงเปิดเส้นทางสายไหมขึ้นมาอีกครั้งในศตวรรษที่ 21 แม้ว่าสงครามแถวเอเชียกลางและคาบสมุทรบอลข่านจะยังไม่สงบลงก็ตาม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ในรัศมีเส้นทางสายใหม่ยุคใหม่นี้อยู่แล้ว เพราะเป็นหลังบ้านของจีน

ภาพประกอบนั้นผมถ่ายจากผนังตึกแห่งหนึ่งในนิวยอร์คเมื่อ 2 ปีก่อน ผมรู้สึกว่า 3 คำนี้เป็นคำเตือนตนเตือนใจของพวกฝรั่งด้วยกันเองว่า อารยธรรมของพวกเขาล่มสลายแน่ถ้าไม่ทำทั้ง 3 อย่างนี้ คือ มีชีวิตอยู่ ทำงาน และที่สำคัญ สร้างสรรค์

แต่ผมว่าทั้งหมดที่ว่ามาก็ยังตอบคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นได้ไม่แจ่มแจ้งนัก ยังไม่นับว่าคำถามต่อไปคือ พวกฝรั่งจะอยู่อย่างไรหรือทำตัวอย่างไรให้เคยชินกับความถดถอยแห่งอารยธรรม

น้องๆนักข่าวมาถามผมว่า สถานการณ์แบบนี้ประเทศไทยควรทำอย่างไร ผมก็ตอบง่ายๆตามตรงว่า ผมยังคิดไม่ออกว่า ประเทศไทยควรจะทำตัวอย่างไร หนีฝรั่งไปจิ้มก้องจีนรึ ? เอ๊ะเราก็ทำอย่างนั้นมาตลอดนี่นา ไม่เห็นมีอะไรแปลก แต่ที่แปลกอยู่อย่างหนึ่งคือ ชนชั้นสูงของไทย ผู้ที่เขามีภาระต้องคิด (ไม่ใช่ผม) ว่าประเทศไทยจะทำตัวอย่างไรนั้น ไม่เห็นคิดอะไรเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่ แถมยังมีทีท่าทุรนทุรายให้เห็นอีกเวลาโดนฝรั่งด่า แสดงให้เห็นว่า ในหัวสมองของพวกเขาไม่มีอะไรเลย แต่แปลกยิ่งกว่าคือ ในเมื่อไม่มีความคิดความอ่านอะไร แล้วยึดอำนาจทำไม มันรังแต่จะพาประเทศชาติล่มสลาย ทำไมไม่ปล่อยให้ประชาชนตัดสินชะตากรรมประเทศเอง

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net