Skip to main content
sharethis

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เผยเอาผิดทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับแถลงการณ์ปลอม ทั้งคนทำ คนโพสต์ คนแชร์ ไม่เว้นสื่อ แต่บทลงโทษก็ต้องดูเจตนา และยึดตามกระบวนการ

5 ก.พ. 2558 มติชนออนไลน์ รายงานว่า พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการดำเนินคดีการเผยแพร่แถลงการณ์สำนักพระราชวังปลอมว่า เรื่องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม นายกฤษณ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องสงสัยกรณีเผยแพร่ แถลงการณ์ปลอมของสำนักพระราชวังฉบับที่ 13 ตาม ความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นั้นยืนยันว่ารัฐบาลดำเนินการด้วยความยุติธรรมไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด จะใช่หรือไม่ใช่ นปช.ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยหลังจากมีการเผยแพร่ ได้ตรวจสอบพบไอพีแอ็ดเดรสอยู่ที่คอมพิวเตอร์บ้านผู้ต้องสงสัย

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า กฎหมายไม่ได้เลือกลงโทษว่าใครเป็นฝ่ายใด ไม่อยากให้เอาตัวองค์กร นปช.เข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องตัวบุคคล เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมชายคนดังกล่าวมาสอบสวน เพราะการโพสต์แถลงการณ์ฉบับดังกล่าว เป็นการรับข้อมูลมาในระดับต้นๆ เป็นคนโพสต์หรือแชร์ต่อ ยังไม่ใช่คนที่ผลิตหรือทำเอกสารปลอม เลยนำตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบ หาความเชื่อมโยงว่าได้ข้อมูลมาจากไหน เพื่อสาวต่อไปหาคนทำ และต้นตอทำข้อมูลหากกฎหมายระบุว่าใครโพสต์ใครแชร์ก็ต้องรับผิดทุกฝ่าย ไม่ว่าสื่อที่นำมาเผยแพร่ก็ตาม แต่บทลงโทษก็ต้องดูเจตนาที่กระทำทุกอย่างก็ว่าไปตามกระบวนการ

 

ก่อนหน้านี้ (3 ก.พ.) เว็บไซต์ ASTV ผู้จัดการ รายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. นายนิรันดร์ เยาวภาว์ ผู้ดูแลเว็บไซต์ ASTVผู้จัดการ ได้เข้าเข้าพบ ร.ต.ท.อภิชาติ กอนจันดา พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เพื่อลงบันทึกประจำวัน กรณีที่คืนวันที่ 2 ก.พ. มีผู้ไม่ประสงค์ดีได้เผยแพร่แถลงการณ์สำนักพระราชวัง ฉบับที่ 13 และ ทางเว็บไซต์ www.manager.co.th ได้นำเสนอข่าวดังกล่าว จนเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. เศษ ของวันที่ 2 ก.พ. ทางเว็บไซต์พบว่าแถลงการณ์ดังกล่าวมีพิรุธ และการใช้คำที่ไม่ถูกต้อง จึงได้ประสานกับแหล่งข่าวตรวจสอบแล้วพบว่า เอกสารฉบับดังกล่าวเป็นเอกสารที่มีข้อมูลไม่เป็นจริง จึงได้ลบข้อมูลดังกล่าวออกจากระบบเว็บไซต์ และในเวลาต่อมาได้ออกประกาศขออภัยในความผิดพลาด เนื่องจากไม่มีเจตนาที่จะดำเนินการให้เกิดความเสื่อมเสียดังกล่าว
     
ขณะเดียวกัน ทางผู้บริหารสื่อในเครือ ASTVผู้จัดการ ได้มีคำสั่งปลด นายนิรันดร์ เยาวภาว์ ออกจากตำแหน่งผู้ดูแลเว็บไซต์ พร้อมหักลดเงินเดือนร้อยละ 50 ในฐานะเป็นผู้ที่รับผิดชอบต่อความผิดพลาดดังกล่าว โดยนอกจากการแสดงความรับผิดชอบภายในองค์กรแล้วก็จะมีการดำเนินมาตรการตามความเหมาะสมต่อไป
     
ทั้งนี้ เว็บไซต์ ASTVผู้จัดการ ระบุด้วยว่า ขออภัยต่อผู้อ่านและประชาชนชาวไทยต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ ยังขอประณามผู้ที่ปลอมแปลงเอกสารสำคัญดังกล่าว และกล่าวเตือนว่าผู้ที่นำเอกสารดังกล่าวไปเผยแพร่ โดยคัดลอกจากหน้าเว็บไซต์ ASTVผู้จัดการ ทั้งในรูปแบบข้อความหรือภาพอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดได้

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net