Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 2 ก.พ.2558 โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 6 คน ในจำนวนนี้เป็นหญิง 2 คน ทั้งหมดถูกกล่าวหาว่าทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือ กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานภาพ โดยการเผยแพร่คลิปและข้อความหมิ่นฯ บนเฟซบุ๊ก

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก สตช. กล่าวว่า ทั้งหกเป็นสมาชิกของ “เครือข่ายบรรพต” มีจุดมุ่งหมายในการใช้สื่อออนไลน์ยุงยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายและความเกลียดชังขึ้นในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีการหมิ่นสถาบัน เครือข่ายนี้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน มีระดับชั้นของการทำงานและการสั่งการเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับชั้นผู้นำ เป็นผู้ผลิตแนวคิดในรูปของสื่อซีดี คลิปเสียง และบทความ ระดับผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งรับฟังและช่วยกันเผยแพร่แนวคิดตามเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ก ยูทูป และบล็อก ระดับแนวร่วม มีหน้าที่ให้การสนับสนุนทางด้านการเงิน

โฆษก สตช. กล่าวด้วยว่า พวกเขามีการพบปะหรือประชุมลับกันอยู่เป็นระยะ และในการเผยแพร่ข้อมูลนั้นจะพยายามใช้ข้อมูลจริงเพียงบางส่วนมาผสมกับข้อมูลเท็จ หรือข้อมูลเท็จที่ตรวจสอบได้ยาก

หลังการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหา 4 ราย ได้แก่ นายดำรงค์ (สงวนนามสกุล), นายไพศิษฐ์ (สงวนนามสกุล), นายเงินคูณ (สงวนนามสกุล), นางศิวาพร (สงวนนามสกุล) มาฝากขังยังศาลทหาร กรุงเทพฯ โดย 2 รายแรก คือ นายธารา (สงวนนามสกุล) และนางอัญชัญ (สงวนนามสกุล) นั้นเจ้าหน้าที่นำตัวมาขอฝากขังยังศาลทหารตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.แล้ว โดยนางอัญชัญได้ยื่นประกันตัวแต่ศาลปฏิเสธ ขณะที่อีก 4 รายนั้น มีเพียงนายดำรงค์ที่ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน นอกนั้นให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา

ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพโดยไอลอว์ ระบุว่าจาการสอบถามจากตัวผู้ต้องหาพบว่า นายธาราถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 25 มกราคม เวลาประมาณ 13.00 น. โดยทหารในเครื่องแบบประมาณ 10 คน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ดีเอส 4-5 คน ในการควบคุมตัวไม่มีการต่อสู้ขัดขืน หลังจากเจ้าหน้าที่นั้นได้นำตัวธารามาที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง ระหว่างการสอบสวนธารารับสารภาพทั้งหมด จากนั้นจึงขอศาลทหารฝากขัง อย่างไรก็ตาม ธารามีฐานะยากจนจึงเป็นเพียงคนเดียวที่ยังไม่มีทนายและไม่มีญาติมาเยี่ยม

ผู้สื่อข่าวประชาไทรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับดำรงค์นั้นถูกจับกุมตัววันที่ 25 ม.ค.เช่นเดียวกับธาราและอัญชัญ แต่อยู่ในความควบคุมของทหารจนครบ 7 วัน ก่อนถูกนำมาฝากขังพร้อมกับไพศิษฐ์ เงินคูณ และศิวาพร ซึ่งทยอยถูกจับกุมหลังจากนั้น หลังการควบคุมตัวของทหารทั้ง 4 รายถูกนำตัวสอบสวนที่กองบังคับการปราบปรามกระทำความผิดทางเทคโนโลยี (ปอท.) จากนั้นจึงควบคุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหาที่ สน.ทุ่งสองห้อง ขณะนี้ผู้ต้องหาชายทั้ง 4 คนถูกควบคุมตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วนผู้ต้องหาหญิง 2 คนถูกควบคุมตัวที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ญาติของผู้ต้องหาหลายคนกล่าวว่าจะพยายามหาหลักทรัพย์เพื่อมาประกันตัวผู้ต้องหาภายในสัปดาห์นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ต้องหาระบุว่าพวกเขาไม่ถูกซ้อมทรมาน หลายรายถูกใช้ผ้าปิดตาระหว่างทหารนำตัวไปที่คุมขัง ถูกคุมขังเดี่ยวในห้องที่ไม่รู้เวลา เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ทุกอย่างไปจากบ้าน ทั้งที่เป็นของตนเองและของคนในครอบครัว นอกจากนี้ทุกคนถูกบังคับใหบอกรหัสผ่านเข้าบัญชีเฟซบุ๊กอีกด้วย

ทั้งนี้ ในการแถลงข่าว พล.ต.ท. ประวุฒิ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า “บรรพต” คือผู้บงการเครือข่ายนี้ซึ่งกำลังหลบหนีอยู่ต่างประเทศ บรรพตถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้มีทักษะในการผลิตสื่อ และผลิตสื่อหมิ่นสถาบันฯ นำมาเผยแพร่ให้เครือข่ายเผยแพร่ต่อ อย่างไรก็ตาม จากการหาข้อมูลเบื้องต้นของประชาไท พบว่า บรรพตคือชื่อของนักจัดรายการพอตแคสเสื้อแดงคนหนึ่ง ในเฟซบุ๊กมีเพจชื่อ Banpodj Thailand Clips ซึ่งเผยแพร่ข่าวและบทวิเคราะห์การเมือง บล็อกในชื่อเดียวกันถูกบล็อกโดยกระทรวงไอซีที

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังให้รายละเอียดในการแถลงข่าวอีกว่า ผู้ต้องหาหกคนที่ถูกจับได้เป็นสมาชิกเครือข่ายระดับผู้ปฏบัติการ ได้แก่

1.ดำรงค์ อายุ 65 ปี ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของเฟซบุ๊ก Dam Samray และเป็นผู้ดูแลระบบของเพจ BANPOJ THAILAND CLIPS ซึ่งเป็นเพจสำคัญในลำดับต้นๆ ที่ใช้เผยแพร่ข้อมูล ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าภรรยาของดำรงค์ถูกจับกุมไปพร้อมกัน แต่ได้รับการปล่อยตัวแล้ว

2.ศิวาพร อายุ 41 ปีอาชีพแม่บ้าน ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของเฟซบุ๊ก Siwaporn P. ถูกกล่าวหาว่าเผยแพร่ข้อความและภาพที่เข้าข่ายความผิดมานาน และมีการติดต่อกับกลุ่มผู้มีแนวคิดทางลบต่อสถาบันฯ จำนวนมาก โดยหนึ่งในนั้นคือ เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ Sam Parr (พงษ์ศักดิ์) ที่ได้ถูกจับกุมแล้วก่อนหน้านี้

3.เงินคูณ อายุ 43 ปี อาชีพหมอดู ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของเฟซบุ๊ก เงินคูณ ชินวัตร ถูกกล่าวหาว่าอยู่ในเครือข่าย โดยมีหน้าที่ขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต่างๆ เพื่อหาเงินทุนสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่ม เงินคูณถูกจับที่บ้านเป็นรายสุดท้ายเมื่อวันที่ 29 ม.ค.

4.ไพศิษฐ์ อายุ 46 ปี อาชีพขายสี ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของเฟซบุ๊ก Pradit Suksombul ถูกกล่าวหาว่าเป็นบุคคลสำคัญในเครือข่ายในการเผยแพร่ข้อความ รูปภาพ หรือคลิปต่างๆ ที่เข้าข่ายความผิด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่หทารจับตัวน้องชายของไพศิษฐ์ไปด้วยและปล่อยตัวแล้ว นอกจากนี้ไพศิษฐ์ยังป่วยเป็นโรคต้อหินที่ตาข้างหนึ่ง ขณะที่ตาอีกข้างหนึ่งเสียไปแล้ว

5.อัญชัญ อายุ 58 ปี เป็นข้าราชการกรมสรรพากร ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของเฟซบุ๊ก Patch PrachPrakary (เพชร ประกาย) และเป็นผู้ดูแลด้านการเงินของเครือข่ายทั้งที่ได้จากการขายสินค้าต่างๆ และรับการสนับสนุนมาจากบุคคลในเครือข่าย อัญชัน มีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง

6. นายธารา อายุ 57 ปี ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของเว็บ okthai.com และอีกหลายแห่งซึ่งเป็นแหล่งเผยแพร่ข้อมูลที่เข้าข่ายความผิด ถูกกล่าวหาอีกว่าหลอกลวงหาเงินกับบุคคลอื่นโดยนำผลิตภัณฑ์ในเครือข่าย โดยเฉพาะจากอัญชัญมาจำหน่ายต่ออีกทอดหนึ่ง ตำรวจระบุว่าสถานภาพของเขาอยู่ในระดับแนวร่วมที่ช่วยเผยแพร่ข้อมูลมากที่สุดมากกว่าแนวร่วมคนอื่นๆ

 


ข้อมูลบางส่วนจาก เว็บไซต์ASTVผู้จัดการ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net