Skip to main content
sharethis

วาระสำคัญใน กสท.จันทร์นี้ มีความเห็นข้อกฎหมายของคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย กสทช. ต่อข้อกฎหมายว่า ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลประเภทบริการธุรกิจระดับชาติยังคงต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการเข้าร่วมการประมูลหรือไม่  สืบเนื่องจากบริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1988) จำกัด (มหาชน) หรือ “SLC” (ผู้ถือหุ้นในบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด) เข้าซื้อหุ้นในสื่อเครือเนชั่นและแกรมมี่

1 ก.พ. 2558 นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า  การประชุม กสท. ในวันพรุ่งนี้ สำนักงาน กสทช. นำมติที่ประชุมของคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย กสทช. ให้ความเห็นต่อกำกับดูแลผู้รับใบอนุญาตที่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการเข้าประมูล  ซึ่งยืนยันแนวคิด กสท.ที่เห็นว่าประกาศทุกฉบับที่มีผลบังคับใช้ก่อนการประมูลมีผลผูกพันที่ต้องใช้ตลอดไปเพราะว่าอ้างอิงตามมาตรา 31 พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ที่ป้องกันมิให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งครอบงํากิจการในลักษณะที่เป็นการจํากัดโอกาสในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารสาธารณะที่มาจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายหรือกระทําการอันเป็นการผูกขาดการประกอบกิจการสื่อมวลชนหลายประเภทในเวลาเดียวกันห้ามผู้รับใบอนุญาตถือครองธุรกิจในกิจการประเภทเดียวกัน หรือครองสิทธิข้ามสื่อในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ที่ใช้คลื่นความถี่เกินสัดส่วนที่คณะกรรมการประกาศกําหนด  ทำให้ กสท.ออกแบบว่าทีวีดิจิตอล 24 ช่อง กำหนดสัดส่วนให้ 1 รายถือได้ไม่เกิน 3 ใบอนุญาต และผู้รับใบอนุญาตช่องวาไรตี้ความชัดสูงจะมีใบอนุญาตช่องข่าวสารและสาระไม่ได้ และแต่ละช่อง แต่ละประเภทก็ถือข้ามกันไม่ได้  มีการกำหนดเกณฑ์ไว้ในประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกให้ใช้คลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์เพื่อประกอบกิจการทางธุรกิจ พ.ศ. 2556 ในข้อ 7.2 ที่กำหนดว่า ผู้ขอรับใบอนุญาตที่มีสิทธิเข้าร่วมการประมูลจะต้องไม่เป็นผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกันโดยการพิจารณาให้เป็นไปตามภาคผนวก ก และ ข แล้วแต่กรณี โดยในภาคผนวก ข ได้บัญญัตินิยาม ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คือผู้ถือหุ้นในผู้เข้าร่วมการประมูลเกินกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของผู้เข้าร่วมการประมูลนั้น การถือหุ้นดังกล่าวให้นับรวมหุ้นที่ถือโดยผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย 

“ส่วนตัวต้องขอขอบคุณที่ปรึกษากฎหมายที่ช่วยยืนยันหลักการนี้  ซึ่งจะทำให้การกำกับดูแลทีวีดิจิตอลทั้งในปัจจุบันและอนาคต เป็นไปอย่างราบรื่นบนหลักการของการป้องกันการครอบงำ   หลังจากนี้สำนักงาน กสทช. ก็ต้องไปสืบสวนข้อเท็จจจริง แล้วเปิดให้ทุกฝ่ายเข้ามาชี้แจ้งข้อเท็จจริงตามกระบวนการปกครอง และนำเสนอผลต่อ กสท.อีกครั้ง และจะมีมติเรื่องนี้ต่อไป” นางสาวสุภิญญากล่าว

ในวันพรุ่งนี้เวลา 9.00 น. คณะกรรมการองค์กรอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน จะมายื่นหนังสือให้ กสท. ก่อนการประชุมบอร์ด  กรณีการเข้าซื้อหุ้นของ SLC ของบริษัทเครือเนชั่นและแกรมมี่ 

นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาแนวปฏิบัติทางเทคนิคและการดำเนินการเกี่ยวกับระดับความดังของเสียง  (Audio Loudness)  เพื่อควบคุมให้ระดับความดังของรายการและโฆษณาให้เป็นไปตามข้อกำหนดที่ออกประกาศไปแล้วเกี่ยวกับการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค  และแนวทางปฏิบัติทางเทคนิคและดำเนินการเกี่ยวกับผังรายการอิเล็คทรอนิกส์ (Elecctronic Program Guide:EPG) ซึ่งเป็นการจัดส่งข้อมูลผังรายการของแต่ละช่องรายการผ่านโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล  จะมีประโยชน์ต่อผู้บริโภคที่สามารถรับรู้ข้อมูลรายการในปัจจุบันและข้อมูลรายการล่วงหน้าได้ทางหน้าจอโทรทัศน์  และมีการพิจารณากรณีไทยพีบีเอสยื่นฟ้อง กสท.และสำนักงาน กสทช. กรณีรายการ “ตอบโจทย์ประเทศไทย” ตอนสถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ” ตอนที่ 1-5 ซึ่งศาลปกครองกลางนัดไต่สวนภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net