Skip to main content
sharethis

เครือข่ายผู้ป่วยยื่น จ.ม.เปิดผนึกถึงนายกฯ ขอให้ปลด นพ.ณรงค์ จากปลัด สธ. ระบุเหตุผล 4 ข้อ ชี้ 2 ปีสร้างแต่ความวุ่นวาย ขอ ‘ตู่’ ปลดปลัด สธ.คืนความสุขให้ประชาชนโดยเร็ว

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2557 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล เครือข่ายผู้ป่วยมะเร็ง หัวใจ ไตวายเรื้อรัง โรคเลือดฮีโมฟีเลีย ผู้ติดเชื้อเอชไอวี คนพิการ และกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพแห่งชาติประมาณ 100 คน ได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) ขอให้สั่งย้าย นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ พ้นจากปลัดกระทรวงสาธารณสุข

ธนพล ดอกแก้ว ประธานชมรมเพื่อนโรคไต เปิดเผยว่า หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ได้จัดตั้งรัฐบาลเพื่อคืนความสุขให้ประชาชน และตั้ง นพ.รัชตะ ซึ่งเป็นนักบริหารที่ประชาชนยอมรับเป็น รมว.สธ. และประกาศนโยบายปฏิรูประบบสุขภาพ แต่ 3 เดือนที่ผ่านมากลับต้องเจอกับการท้าทาย ขัดขวางปลุกระดมข้าราชการไม่ให้ความร่วมมือจาก นพ.ณรงค์ ปลัด สธ. ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากพรรคเพื่อไทย ทำให้สังคมมองว่ากระทรวง สธ. ไม่มีผลงาน ทำลายความชอบธรรมของรัฐบาล ทำให้ระบบสุขภาพแตกร้าว บุคลากรมีความขัดแย้งกันในทุกระดับ เอาความเจ็บป่วยของประชาชนเป็นตัวประกันเพื่อต่อรองอำนาจกับรัฐมนตรี

ธนพลกล่าวว่า เพื่อระงับความเสียหายและคืนความสุขให้คนไทย เครือข่ายผู้ป่วยฯ จึงขอให้นายกรัฐมนตรี สั่งย้าย นพ.ณรงค์ พ้นจากตำแหน่งปลัด สธ. เพื่อไม่ให้ใช้อำนาจหน้าที่ปลุกปั่นข้าราชการสร้างความแตกแยก ด้วย 4 เหตุผล

1. นพ.ณรงค์ ใช้อำนาจปลัดเรียกประชุม สั่งการข้าราชการและคนใกล้ชิดสร้างความแตกแยกระหว่าง รพ.ใหญ่ในเมืองกับรพ.ขนาดเล็กในชนบท ทำให้รพ.ชุมชนอ่อนแอลง โดยไม่ใส่ใจกับปัญหาสาธารณสุขและความเจ็บป่วยของประชาชน
2. เอาความเจ็บป่วยของผู้ป่วยเป็นตัวประกันเพื่อต่อรองดึงเอาอำนาจการจัดสรรงบประมาณที่อยู่ในบอร์ด สปสช.ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนกลับไปอยู่ที่ สธ. ล่าสุด รพ.ขนาดใหญ่ถึงขั้นขู่ รมว.สธ. ว่าจะไม่ส่งข้อมูลการเบิกเงินให้ สปสช. จนกว่าบอร์ด สปสช.จะทำตามข้อเสนอการจัดสรรงบของปลัด สธ. ถือว่าไร้มนุษยธรรม และทำผิดกฎหมายชัดเจน
3.ใช้อำนาจปลัดท้าทายและไม่สนองตอบนโยบายผู้บังคับบัญชา นพ.ณรงค์ ไม่เคยลงพื้นที่และเข้าร่วมประชุมนโยบายสำคัญ ทั้งนโยบายของขวัญปีใหม่ ที่มีนายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และการประชุมนโยบายหมอครอบครัว ที่ รมว.สธ.เชิญให้นพ.ณรงค์มาร่วมประชุม เมื่อถึงเวลาก็ไม่มา สร้างความเสียหาย และเป็นการปฏิบัติตัวไม่เหมาะสมในฐานะปลัด
4.ไม่ปฏิบัติตามนโยบายเขตสุขภาพประชาชนของ คสช.และรัฐบาล ยังคงเดินหน้าเขตบริการสุขภาพของตนเพื่อดึงดันจะดึงงบประมาณมาจัดสรรเองให้ได้ โดยไม่สนใจร่มใหญ่คือ เขตสุขภาพประชาชน

“ด้วยความจำเป็นจากเหตุผล 4 ข้อ และยุติความขัดแย้งภายในกระทรวงสาธารณสุข และระบบบริการสาธารณสุข ที่แตกแยก บอบช้ำมาเป็นเวลามากกว่า 2 ปี จากแนวคิดที่ผิดพลาด ถอยหลังเข้าคลอง และจากการบริหารจัดการที่ขาดภาวะผู้นำ ขาดวุฒิภาวะ ของ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ และเพื่อให้นโยบายปฏิรูประบบสาธารณสุขของรัฐบาล สามารถเดินหน้าได้ เกิดประโยชน์กับประชาชนตามความตั้งใจของ คสช. เครือข่ายผู้ป่วยมะเร็ง หัวใจ ไตวายเรื้อรัง โรคเลือดฮีโมฟีเลย ผู้ติดเชื้อเอชไอวี คนพิการ และกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ จึงขอให้ท่านนายกรัฐมนตรี และท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตัดสินใจสั่งย้าย นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ พ้นจากตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยเร็ว เพื่อคืนความสุขเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้ป่วยและประชาชนโดยทั่วไป” นายธนพล กล่าว

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า นพ.รัชตะ รมว.สธ. ได้เชิญ นพ.ณรงค์ ปลัด สธ., นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ ดร.คณิศ แสงสุพรรณ ประธานอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลังในระบบหลักประกันสุขภาพ  หารือเพื่อแก้ปัญหาร่วมกันในวันที่ 5 ม.ค.58 นี้ เพื่อหาทางยุติข้อขัดแย้งภายในกระทรวง สธ. และหวังเดินหน้านโยบายของรัฐบาลด้านสาธารณสุขหลังมีข่าวเรื่องไม่มีผลงาน และก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีความพยายามประสานรอยร้าวดังกล่าว ด้วยการเรียกตัว นพ.ณรงค์ เข้าพบที่ทำเนียบจนมีข่าวลือเรื่องการให้โอกาสอีกครั้ง

...................................

จดหมายเปิดผนึก
ของเครือข่ายผู้ป่วยมะเร็ง หัวใจ ไตวายเรื้อรัง โรคเลือดฮีโมฟีเลีย ผู้ติดเชื้อเอชไอวี คนพิการ
และกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ

เรื่อง  ขอให้คืนความสุขให้กับระบบบริการสาธารณสุขของประชาชน
         ด้วยการสั่งย้าย นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ พ้นจากปลัดกระทรวงสาธารณสุข
เรียน ท่านนายกรัฐมนตรี และท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
                      
ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้จัดตั้งรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาที่สะสม สร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในสังคม คืนความสุขให้ประชาชน และเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย  โดยมอบหมายให้ ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน นักวิชาการ และนักบริหารที่ประชาชน และชาวสาธารณสุขยอมรับอย่ากว้างขวาง ให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมกับประกาศนโยบายเดินหน้าปฏิรูประบบสาธารณสุข สร้างทีมหมอครอบครัวทำงานเชิงรุก ดูแลสุขภาพคนไทยทุกครัวเรือน แต่ตลอดเวลาสามเดือนต้องมาเจอกับการท้าทาย ขัดขวาง ปลุกระดมข้าราชการไม่ให้ความร่วมมือ ไม่รับคำสั่ง ไม่สนองนโยบาย ทำตัวเป็นปฏิปักษ์อย่างชัดเจน จากข้าราชการภายใต้บังคับบัญชาของ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้รับการแต่งตั้งจากอดีตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยที่ผ่านมา ทำให้สังคมมองว่ากระทรวงสาธารณสุขภายใต้รัฐบาลของท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มี ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่มีผลงานประกฎ  ทำลายความชอบธรรมของรัฐบาล และทำให้ระบบบริการสาธารณสุขเกิดความแตกร้าว บุคลากรวิชาชีพต่างๆ ขัดแย้งในทุกระดับ ทุกวิชาชีพ มีการสั่งการให้เอาการเจ็บป่วยและชีวิตของผู้ป่วยเป็นตัวประกัน เพื่อการต่อรองอำนาจกับรัฐมนตรี  โดยใช้ภาพความขัดแย้งกับ สปสช. เป็นตัวแทน สร้างความเสียหายให้กระทรวงสาธารณสุขอย่างรุนแรงเป็นประวัติการณ์
               
เพื่อระงับความเสียหายของระบบสาธารณสุข คืนความสุขให้กับคนไทย  และเดินหน้านโยบายของรัฐบาลได้อย่างเต็มที่  เครือข่ายผู้ป่วยมะเร็ง หัวใจ ไตวายเรื้อรัง โรคเลือดฮีโมฟีเลย ผู้ติดเชื้อเอชไอวี คนพิการ และกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ จึงมีความจำเป็นต้องขอให้ท่านนายกรัฐมนตรี และท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งย้าย นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ออกจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อไม่ให้มีโอกาสใช้อำนาจหน้าที่สั่งการและปลุกปั่นข้าราชการสร้างความขัดแย้ง เพิ่มความเสียหายให้กับระบบบริการสาธารณสุข และชีวิตของผู้ป่วย ด้วยเหตุผล 4 ประกาศดังนี้

1. ตลอดเวลากว่าสองปีของการเป็นปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโดยเฉพาะช่วงสามเดือนของรัฐบาลปัจจุบัน นพ.ณรงค์ ได้ใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปลุกระดมและสั่งการข้าราชการ และคนใกล้ชิด เป็นผลให้เกิดความแตกแยก ขัดแย้งกับหน่วยงานต่างในระบบสาธารณสุข ปล่อยให้เกิดการปลุกปั่นทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างโรงพยาบาลใหญ่ในเมืองกับโรงพยาบาลขนาดเล็กในชนบท และทำให้โรงพยาบาลชุมชน อ่อนแอลง  โดยไม่ใส่ใจกับปัญหาสาธารณสุข และการเจ็บป่วยของประชาชน

2. เอาความเจ็บป่วยและชีวิตของผู้ป่วยเป็นตัวประกันเพื่อต่อรองอำนาจการบริหารงบประมาณกับคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และ สปสช. เพื่อสนองต่อความต้องการของตนในการรวมศูนย์อำนาจการออกหลักเกณฑ์การบริหารงบประมาณของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และเมื่อไม่ได้ตามที่ต้องการ ได้เรียกประชุมผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ให้ร้ายคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ให้ร้ายรัฐมนตรี และให้ร้าย สปสช. เป็นผลให้ นพ.สุทัศน์ ศรีวิไล ประธานชมรมโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และ นพ.สุรพร ลอยหา ประธานชมรม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด  แถลงข่าวสั่งให้โรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง ไม่ร่วมมือ ไม่ส่งข้อมูลการเบิกเงิน และไม่รับเงินค่าบริการจาก สปสช. ตลอดปีงบประมาณ 2558 หรือจนกว่าคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน จะมีมติยอมตามที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเสนอ เป็นการเอาความเจ็บป่วยและชีวิตของผู้ป่วยเป็นตัวประกันเพื่อต่อรองให้ได้อำนาจการบริหารงบประมาณตามที่ตนต้องการ โดยไร้มนุษยธรรม และผิดกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

3. ใช้อำนาจหน้าที่ปลุกปั่นข้าราชการ ท้าทายไม่สนองตอบนโยบายมอบของขวัญปีใหม่คืนความสุขให้ประชาชน ของรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา ตลอดเวลาสามเดือนของรัฐมนตรีปัจจุบัน นพ.ณรงค์ ได้แสดงให้สังคมทั้งภายในและภายนอกกระทรวงสาธารณสุขเห็นถึงความขัดแย้ง ไม่ยอมรับ ไม่เคยพูดถึงให้ความสำคัญกับนโยบายและไม่ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐมนตรี ไม่ออกพื้นที่ ไม่ร่วมประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่มีรัฐมนตรีเป็นประธานประชุม และครั้งเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรีได้มาประชุมที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อตามความก้าวหน้าของนโยบายมอบของขวัญปีใหม่ของรัฐบาล แต่ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ขอลากิจอย่างกระทันหัน ไม่เข้าร่วมการประชุม รวมทั้งเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม มีการประชุมผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานของกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ 1,500 คน เพื่อรับฟังการชี้แจงนโยบายเน้นหนัก “ทีมหมอครอบครัว” เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ชิ้นสำคัญแก่ประชาชน โดยมีรัฐมนตรี เป็นประธานให้นโยบาย และได้เชิญ นพ.ณรงค์ มาร่วมชี้แจงแนวทางดำเนินการด้วย แต่เมื่อถึงเวลาปรากฏว่าไม่มา สร้างความเสียหายให้กับการดำเนินงานตามนโยบาย และเป็นการปฏิบัติตัวไม่เหมาะสมในฐานะปลัดกระทรวง

4. ไม่ปฏิบัติตามนโยบายเรื่องเขตสุขภาพประชาชน ของ คสช.และรัฐบาล นพ.ณรงค์ พยายามผลักดันเรื่อง “เขตบริการสุขภาพ” เพื่อเป็นข้ออ้างการดึงอำนาจการบริหารงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้ถอยหลังกลับไปเป็นของเขตตรวจราชการของตน สร้างความขัดแย้ง เกิดเสียงคัดค้านจากโรงพยาบาลระดับต่างๆ จากกลุ่มผู้ป่วย และจากนักวิชาการภายนอก เป็นการสวนกระแสนโยบายสร้างความปรองดองของ คสช. และเมื่อความขัดแย้งมีแนวโน้มขยายกว้างออกไป จนในที่สุด พล.ร.อ. ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการกองทัพเรือ รองหัวหน้า คสช. ได้เป็นประธานประชุมหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปลดชนวนความขัดแย้ง แก้ไขปัญหา และหาทางด้วยการให้ตั้งเป็น “เขตสุขภาพประชาชน” ที่เป็นการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนในพื้นที่ ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารงบประมาณ ขึ้นมาแทน และประกาศเป็นนโยบายของรัฐบาลในเวลาต่อมา แต่หลังจากนั้น นพ.ณรงค์ ก็ยังไม่ยอมหยุดเดินหน้าเขตบริการสุขภาพของตน ไม่ยอมหยุดสร้างความขัดแย้งกับ สปสช.และเครือข่ายผู้ป่วย ที่เป็นผู้รับผลกระทบโดยตรง

ด้วยความจำเป็นจากเหตุผลทั้ง 4 ข้อใหญ่ และเพื่อยุติความขัดแย้งภายในกระทรวงสาธารณสุข และระบบบริการสาธารณสุข ที่แตกแยก บอบช้ำมาเป็นเวลามากกว่าสองปี จากแนวคิดที่ผิดพลาด ถอยหลังเข้าคลอง และจากการบริหารจัดการที่ขาดภาวะผู้นำ ขาดวุฒิภาวะ ของ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ และเพื่อให้นโยบายปฏิรูประบบสาธารณสุขของรัฐบาล สามารถเดินหน้าได้ เกิดประโยชน์กับประชาชนตามความตั้งใจของ คสช. เครือข่ายผู้ป่วยมะเร็ง หัวใจ ไตวายเรื้อรัง โรคเลือดฮีโมฟีเลย ผู้ติดเชื้อเอชไอวี คนพิการ และกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ จึงขอให้ท่านนายกรัฐมนตรี และท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตัดสินใจสั่งย้าย นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ พ้นจากตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยเร็ว เพื่อคืนความสุขเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้ป่วยและประชาชนโดยทั่วไป

เครือข่ายผู้ป่วยมะเร็ง หัวใจ ไตวายเรื้อรัง  โรคเลือดฮีโมฟีเลย ผู้ติดเชื้อเอชไอวี คนพิการ และกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ

29  ธันวาคม  2557

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net