คำนูณ เผยข้อสรุปที่มา ส.ว. ระบุมาจาก 5 ช่องทาง จำนวนไม่เกิน 200 คน เพิ่มอำนาจตรวจสอบประวัติ ครม. ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ เสนอร่างกฏหมายเกี่ยวกับการปฏิรูป ตรวจสอบจริยธรรมหัวหน้าส่วนราชการ และร่วมลงมติถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และข้าราชการระดับสูงได้ พร้อมเผยที่มานายกรัฐมนตรี
ที่มาภาพ : เว็บข่าวรัฐสภา
25 ธ.ค. 2557 เว็บข่าวรัฐสภา รายงานว่า ที่รัฐสภา คำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยถึงผลการพิจารณาที่มาของสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ว่า ที่ประชุมมีฉันทามติให้ ส.ว.มีจำนวนไม่เกิน 200คน ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง โดยคัดเลือกจาก 5ช่องทาง ประกอบด้วย
1.อดีตผู้นำในอำนาจอธิปไตยทั้ง 3 เช่น อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร
2.อดีตข้าราชการตำแหน่งสำคัญ เช่น อดีตผู้บัญชาการเหล่าทัพ อดีตปลัดกระทรวง
3.ประธานองค์กรวิชาชีพหรือผู้แทนองค์กรวิชาชีพที่มีกฎหมายรองรับ เช่น ประธานหอการค้าไทย ประธานสภาอุตสาหกรรม
4.กลุ่มภาคประชาชน เช่น สหภาพต่างๆ องค์กรภาคประชาชน
5.คัดสรรจากกลุ่มวิชาชีพที่หลากหลาย โดยใช้เลือกตั้งทางอ้อม
ส่วนอำนาจหน้าที่ ส.ว.ที่แตกต่างออกไปจากเดิม คือ สามารถเสนอร่างกฎหมายได้ พิจารณาร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ และที่สำคัญได้เพิ่มอำนาจการตรวจสอบประวัติผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ก่อนนายกรัฐมนตรีจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ รวมถึงตรวจสอบประวัติจริยธรรมของหัวหน้าส่วนราชการทุกส่วน ก่อนเปิดเผยต่อสาธารณะ นอกจากนี้ ยังมีสามารถร่วมลงมติถอดถอนนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ส.ส. ส.ว. ข้าราชการระดับสูงด้วย อย่างไรก็ตามที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งของ สมาชิกวุฒิสภา
คำนูญ ยังกล่าวถึงที่มาของนายกรัฐมนตรีว่า ให้มาจากการเสนอชื่อโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เช่นเดียวกับรัฐธรรมนูญปี 2540และ 2550 โดยไม่บังคับว่านายกรัฐมนตรีจะต้องเป็น ส.ส.เพื่อเปิดช่องไว้หากเกิดกรณีสถานการณ์ไม่ปกติ