Skip to main content
sharethis
 
วัยเกษียณ แห่สมัครผู้ประกันตนล้นห้อง ทบ 100 ได้ 100 ยอดทะลุ 2 ล.
 
วันที่ 4 ธ.ค. หลังจากสำนักงานประกันสังคม (สปส.) จัดโครงการขยายความคุ้มครองประกันสังคม มาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 ให้แก่ผู้ประกอบอาชีพอิสระและผู้สูงวัย เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ในการส่งเสริมการออมของแรงงานนอกระบบและผู้เกษียณอายุราชการ โดยเปิดให้คนอายุ 60 ปี ขึ้นไปสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้ทุกทางเลือก ส่วนอายุเกิน 65 ปี ให้สมัครทางเลือกที่ 3 เพื่อรับสิทธิประโยชน์การออมเงินยามชราภาพ ปรากฏว่า ในช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนปิดรับสมัครในวันที่ 8 ธ.ค. ในสำนักงานประกันสังคมพื้นที่ต่างๆ มีคุณลุง คุณป้า ให้ลูกหลานพามายื่นใบสมัครอย่างหนาแน่น
 
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ชั้น 6 สำนักงานประกันสังคม เขตพื้นที่ 3 ดินแดง กรุงเทพฯ มีผู้สูงอายุซึ่งส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 60 ปีขึ้นไป แห่กันเข้ามาสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 จนคนล้นออกมานอกห้อง จากการสอบถามบอกว่ามาสมัครเพราะจ่าย 100 ได้ฟรีอีก 100 แต่ส่วนใหญ่ยังไม่รู้รายละเอียดของสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ เจ้าหน้าที่จึงต้องคอยชี้แจงทำความเข้าใจ ถึงการจ่ายเงินสมทบตามมาตรา 40 มี 3 ทางเลือก
 
ทางเลือกที่ 1 เดือนละ 100 บาท ผู้ประกันตนจ่าย 70 บาท รัฐบาลจ่าย 30 บาท คุ้มครองกรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ และเสียชีวิต ทางเลือกที่ 2 เดือนละ 150 บาท ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท รัฐจ่าย 50 บาท คุ้มครองเหมือนทางเลือกที่ 1 แต่เพิ่มเงินชราภาพ ส่วนทางเลือกที่ 3 จ่าย 200 บาท ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท รัฐจ่าย 100 บาท คุ้มครองกรณีชราภาพ ทางเลือกที่ 4 จ่ายสมทบ 300 บาท จ่ายเอง 170 รัฐสนับสนุน 130 คุ้มครองกรณี ประสบอันตราย/เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย ชราภาพ ทางเลือกที่ 5 จ่าย 350 จ่ายเอง 200 รัฐจ่าย 150 คุ้มครอง กรณี ประสบอันตราย/เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย ชราภาพ (เงินบำเหน็จ) ชราภาพ (เงินบำนาญ) โดยผู้สูงอายุ ที่อายุ 60-65 ปี สมัครได้ทุกทางเลือก ส่วนคนที่อายุ 65 ปีขึ้นไป สมัครได้เฉพาะทางเลือกที่ 3 ในกรณีเงินชราภาพเพียงอย่างเดียว
 
นายนิวัฒน์ เฉลิมสุขศรี อายุ 70 ปี มาจากย่านห้วยขวาง กล่าวว่า เมื่อก่อนเป็นพ่อค้าขายผัก แต่ตอนนี้เลิกขายเพราะอายุมาก เพื่อนส่งไลน์มาชวนให้ไปสมัครมาตรา 40 ตนเห็นว่า มีสิทธิประโยชน์น่าสนใจ เพราะได้เงินออมยามแก่เฒ่า ส่งเงินสมทบ 100 บาท รัฐบาลจ่ายสมทบให้อีก 100 บาท ทำให้มีเงินออมเดือนละ 200 บาท รวมกับเบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 700 บาท จะมีเงินเดือนละ 900 บาท ทุกวันนี้ ลูกๆ ให้ค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่ง ตั้งใจจะออมเงินไว้เป็นค่าประกอบพิธีศพตัวเอง จะได้ไม่เดือดร้อนลูกหลาน
 
ด้านนางพุฒทรา ชื่นชอบ อายุ 68 ปี อดีตลูกจ้างประจำสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า ตนยังไม่เข้าใจรายละเอียดในสิทธิประโยชน์ ในการสมัครแต่ละช่วงอายุ จึงต้องสอบถามจนเข้าใจว่า อายุเกิน 65 ปี สามารถสมัครในทางเลือกที่ 3 เพียงอย่างเดียว คือ กรณีเงินออมไว้ใช้ยามชราเท่านั้น จ่ายเดือนละ 100 บาท รัฐบาลให้อีก 100 บาท และยังสามารถจ่ายย้อนหลังไปถึงปี 2555 ได้ด้วย ทำให้มีเงินออมทันทีกว่า 6 พันบาท เพราะรัฐบาลจ่ายสมทบย้อนหลังให้เท่ากัน ถ้าอยากจะยกเลิกเมื่อใด ก็สามารถเอาเงินออกมาใช้ได้ ตนเห็นว่าดีที่ไม่ต้องออมนาน จึงชวนเพื่อนๆ มาสมัคร เพราะจะหมดเขตวันที่ 8 ธ.ค. ไม่นึกว่าคนจะมากขนาดนี้
 
ด้านนายโกวิท สัจจวิเศษ ผู้ตรวจราชการกรมสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ในฐานะโฆษก สปส. กล่าวว่า สปส. เปิดรับสมัครผู้ประกันตนมาตรา 40 มานานแล้ว โดยกำหนดอายุที่ 15-60 ปี แต่ในปีนี้ ได้ให้โอกาสผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และ 65 ปีขึ้นไป สมัครเป็นผู้ประกันตนได้ ถึงวันนี้มีผู้มาสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ทั่วประเทศ จำนวน 2,041,520 คน แยกเป็น 5 ทางเลือก โดยทางเลือกที่ 2 ที่จ่ายเงินสมทบเดือนละ 150 บาท ในจำนวนนี้ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท รัฐจ่าย 50 บาท คุ้มครองกรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต และเงินออมชราภาพ มีคนสมัครมากที่สุด 1,476,707 คน ผู้สูงอายุที่อายุเกิน 65 ปี ที่สมัครทางเลือกที่ 3 ต้องจ่าย 200 บาท ผู้ประกันตนจ่ายเอง 100 บาท รัฐจ่ายสมทบ 100 บาท คุ้มครองกรณีชราภาพ ได้เงินออม มีคนสมัคร 156,483 คน
 
โดยสำนักงานประกันสังคมทุกแห่ง มีคนสมัครวันละกว่า 1,000 คน คาดว่าถึงวันที่ 8 ธ.ค. จะมีสมัคร 3-4 หมื่นคน ส่วนการยุบรวมกองทุนประกันสังคม มาตรา 40 เข้ากับกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. ยังต้องมีการศึกษารายละเอียด
 
(ไทยรัฐ, 4-12-2557)
 
รับแรงงานไทยในอิสราเอลเสพยา เร่งแก้ปัญหา
 
วันนี้ (3 ธ.ค.) ที่กระทรวงแรงงาน พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.รง.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าแรงงานไทยในประเทศอิสราเอลจำนวนมาก ประสบปัญหาติดยาเสพติด ที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์การขยายตลาดแรงงานของประเทศไทย ว่า ปัจจุบันมีแรงงานไทยจำนวนหลายพันคนทำเดินทางไปทำงานภาคเกษตรกรรมในประเทศอิสราเอล แต่ยังไม่แน่ใจว่าข่าวที่ออกมาแรงงานไทยเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดชนิดไหน มีความรุนแรงอย่างไร แต่เท่าที่ได้รับรายงานมีคนเข้าไปเสพ ไม่มีผู้ค้า ซึ่งเดิมมีการเรียกกันว่ายาขยัน ทั้งนี้ ประเทศอิสราเอลเป็นประเทศที่มีระเบียบวินัยเคร่งครัดมาก ไม่น่าจะปล่อยให้มีเรื่องยาเสพติดเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม คงต้องรอ นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) เดินทางกลับจากราชการที่ประเทศอิสราเอล ในวันที่ 4 ธ.ค. ก่อน เพื่อมาพูดคุยรายละเอียดอีกครั้ง ว่า ยาที่แรงงานเสพเป็นยาประเภทใด จะได้มาร่วมกันวางแผนว่าแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร
 
(ASTV ผู้จัดการออนไลน์, 3-12-2557)
 
“บิ๊กเต่า” ยันนำนักโทษทำงานประมงตามความสมัครใจ
 
(4 ธ.ค.) พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีที่มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.) ออกแถลงการณ์ขอให้ทบทวนการใช้นโยบายนำนักโทษทดแทนแรงงานในกิจการประมง เนื่องจากเป็นเพียงการแก้ปัญหาในระยะสั้นและแรงงานกลุ่มนี้ยังเป็นแรงงานที่ไร้ฝีมือไม่สามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในกิจการอุตสาหกรรมประมงได้อย่างถาวร ว่า ผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำต้องมีการฝึกอาชีพก่อนพ้นโทษ ซึ่งการนำนักโทษมาทำงานในกิจการประมง ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกและการจะไปทำงานในกิจการประมงต้องเกิดจากความสมัครใจเท่านั้น โดยผู้ประกอบการประมงยินดีที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังได้มีอาชีพ มีรายได้ ไม่หวนกลับไปทำผิดซ้ำ จนต้องกลับเข้าไปอยู่ในเรือนจำอีกครั้ง ทั้งนี้ จากการศึกษาพบว่าที่ประเทศอังกฤษ มีการจัดตั้งบริษัทเพื่อรองรับผู้พ้นโทษ จากเดิมผู้ที่พ้นโทษกลับไปทำผิดซ้ำ ร้อยละ 60 ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น จึงถือเป็นแนวทางที่ดีที่จะนำมาปรับใช้กับประเทศไทย
       
นายอารักษ์ พรหมณี รองปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า แนวคิดการนำผู้ที่ใกล้พ้นโทษไปทำงานในกิจการประมง มีหลายฝ่ายแสดงความกังวล ซึ่งกระทรวงแรงงาน กับ กรมราชทัณฑ์ได้มีมาตรการรองรับในเรื่องนี้ ซึ่งต้องเกิดจากความสมัครใจ ทั้งนายจ้างและผู้ใกล้พ้นโทษในระยะเวลา 1 ปี พร้อมมีความประพฤติดี ทั้งการทำความเข้าใจการเตรียมความพร้อมด้านทักษะ และสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ ขณะเดียวกัน ต้องมีการติดตามผล และดูแลให้ได้รับการคุ้มครอง มีงานและรายได้เลี้ยงดูตนเองหลังพ้นโทษ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำข้อตกลงร่วมกัน
       
นอกจากนี้ มาตรการนี้ยังจะช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานในกิจการประมง และช่วยลดเรื่องค้ามนุษย์ที่ไทยถูกกล่าวหา โดยนำร่องในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีผู้นักโทษที่เข้าข่ายที่มีอายุ 18 - 25 ปี จำนวน 176 คน และต้องสอบถามความสมัครใจต่อไป คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในต้นปี 2558
 
(ASTV ผู้จัดการออนไลน์, 4-12-2557)
 
สั่งปิด 90 วันโรงงานพานาโซนิคขอนแก่นหลังไฟไหม้
 
จากเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ประกอบเสร็จของบริษัท พานาโซนิค แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด สาขาขอนแก่น เลขที่ 99 หมู่ 9 ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้
       
ล่าสุด นายสมพล โนดไทสง อุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ทางอุตสาหกรรมจังหวัดได้เข้าไปตรวจอาคารสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งอาคารดังกล่าวได้รับความเสียหายพอสมควร แต่ไม่เสียหายโดยสิ้นเชิง ความเสียหายประมาณ 50% ช่วงสายจึงได้ติดประกาศคำสั่งให้โรงงานหยุดประกอบกิจการบางส่วนเฉพาะอาคารนี้ โดยให้เวลาแก้ไข 90 วัน ส่วนอาคารไลน์การผลิตอื่นๆ ไม่ได้รับผลกระทบ จึงยังคงเปิดทำการผลิตและให้พนักงานทำงานได้ตามปกติ ซึ่งอาจจะกระทบถึงการหาสถานที่เก็บวัตถุดิบบ้าง
       
ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมจังหวัดได้แจ้งให้โรงงานทำลายขยะเผาไหม้ โดยให้แยกส่วนของขยะพลาสติก ทองแดง และวัสดุอื่นๆ เป็นขยะอันตรายหรือไม่อันตราย ให้กำจัดอย่างถูกวิธี ถูกต้องตามกฎหมายโรงงาน โดยเฉพาะขยะอันตรายต้องนำไปกำจัดที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ส่วนน้ำที่ใช้ดับเพลิงไหลเข้าบ่อดักของโรงงาน ยังไม่พบว่าไหลออกด้านนอกจนกระทบต่อชุมชนที่อยู่รอบข้าง โดยได้เก็บตัวอย่างน้ำไปวิเคราะห์สารปนเปื้อน จะรู้ผลประมาณ 2 สัปดาห์ ส่วนกลิ่นควันได้ตรวจวัดอากาศในบริเวณอาคารแล้วค่าออกซิเจนยังคงปกติ
       
สำหรับโรงงานผลิตชิ้นส่วนสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้าพานาโซนิคแห่งนี้ถือเป็นโรงงานใหญ่ได้มาตรฐาน ก่อนหน้านี้มีการซ้อมดับเพลิงไปไม่นาน โดยมาตรฐานต้องมีอุปกรณ์ดับเพลิงตามกฎหมาย หรืออย่างน้อย 100 ตารางเมตรต่อจุด ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ พนักงานสอบสวนและฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุในช่วงเช้ายังคงสันนิษฐานว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
       
ส่วนชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบโรงงาน บ้านคำใหญ่ ต.ม่วงหวาน เรียกร้องให้ทางโรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจ และให้ความรู้ในเรื่องสุขภาพ หลังได้รับผลกระทบจากควันไฟและกลิ่นเหม็นจากการเผาไหม้ในโรงงาน เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และเกิดการเจ็บป่วยตามมา 
 
(ASTV ผู้จัดการออนไลน์, 4-12-2557)
 
ยอดการผลิตลดแรงงานภาคอุตสาหกรรมถูกเลิกจ้างเพียบ
 
นายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย(คสรท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีแรงงานรับเหมาค่าแรง(ซับคอนแทรค)ในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ถูกเลิกจ้างนับพันคน เนื่องจากยอดการผลิตโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ลดลง รวมทั้งแรงงานซับคอนแทรคบางส่วนไปฟ้องร้องนายจ้างตามมาตรา 11/1 ของกฎหมายคุ้มครองแรงงานเพื่อให้ได้รับค่าจ้างและสวัสดิการต่างๆเท่าเทียมกับลูกจ้างประจำ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีคำพิพากษาของศาลแรงงานในเรื่องนี้ออกมาแต่มีผลเฉพาะกับแรงงานกลุ่มที่ไปยื่นฟ้องร้องเท่านั้น ทำให้นายจ้างเกิดความไม่พอใจแรงงานซับคอนแทรคที่ไปฟ้องร้องและส่งตัวแรงงานคืนให้แก่บริษัทซับคอนแทรคต้นสังกัดซึ่งเท่ากับเป็นการเลิกจ้าง
 
ประธานคสรท. กล่าวอีกว่า อยากให้กระทรวงแรงงานแก้ปัญหา เรื่องแรงงานซับคอนแทรคถูกเลิกจ้างโดยขอเสนอให้ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.แรงงาน ออกประกาศกระทรวงแรงงานให้นายจ้างที่แรงงานซับคอนแทรคทำงานอยู่ด้วยในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพิ่มค่าจ้างและสวัสดิการต่าง ๆให้เท่าเทียมกับพนักงานประจำตามคำพิพากษาของศาลแรงงานและหารือกับผู้ประกอบการให้ทยอยบรรจุแรงงานซับคอนแทรคเป็นพนักงานประจำตามปริมาณที่ต้องการ หากแรงงานซับคอนแทรคคนใดถูกเลิกจ้าง ก็ให้จ่ายเงินชดเชยและเงินสวัสดิการต่าง ๆ ตามกฎหมาย
 
“ หากกระทรวงแรงงานไม่เร่งแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ เชื่อว่าหลังช่วงปีใหม่ไปแล้ว ปัญหาแรงงานซับคอนแทรคฟ้องร้องนายจ้างตามมาตรา 11/1 และการเลิกจ้างแรงงานกลุ่มนี้จะลุกลามมากขึ้นโดยคสรท.จะประชุมถึงแนวทางการแก้ปัญหาในเรื่องนี้ในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ และจะเสนอต่อรมว.แรงงานต่อไป ” นายชาลี กล่าว
 
(โลกวันนี้, 6-12-2557)
 
รัฐบาลทุ่มงบ 2 พันล้านสร้างงานใน 5 จชต.
 
วันที่ 6 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการจ้างงานในเขตพัฒนาพิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กระทรวงแรงงาน ในรัฐบาล ว่า สำนักงานประกันสังคมใช้งบ 2 พันล้าน ทำโครงการสนับสนุนการจ้างงานในเขตพัฒนาพิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และ 4 อ.ของ จ.สงขลา เพื่อผลักดันให้มีการจ้างงานอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ และให้สถานประกอบการและผู้ประกันตน มีแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำในการประกอบอาชีพ และเพื่อลดปัญหาการว่างงาน อาชญากรรม ยาเสพติด และปัญหาทางสังคมอื่นๆ
 
โดยผู้สนใจยื่นคำขอกู้ในโครงการนี้ ติดต่อได้ที่ 1506 หรือสำนักงานประกันสังคมใน 5 จังหวัดดังกล่าว ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2558
 
(ไทยรัฐ, 6-12-2557)
 
ประชาชนแห่สมัครผู้ประกันตน ตามมาตรา 40 วันสุดท้าย ทำจราจรตึดหนึบหลายพื้นที่
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(8 ธ.ค.57) สำนักงานประกันสังคม เปิดโอกาสให้แรงงานนอกระบบที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ได้รับสิทธิประโยชน์และความคุ้มครองกรณีชราภาพหรือเรียกว่าบำนาญชราภาพ โดยสามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 เป็นวันสุดท้าย ส่งผลให้มีประชาชนจำนวนมากพากันไปสมัครที่สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมทั้งในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างนนทบุรี ปทุมธานี กันจำนวนมาก ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างมาก  เนื่องจากหลายคนเพิ่งทราบ และตัดสินใจในวันสุดท้าย ขณะที่บางรายระบุว่าไม่ทราบเรื่องมาก่อน เพิ่งจะมาทราบจากสื่อช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
 
เมื่อเวลา 9.30 น.วันที่ 8 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการรับสมัครผู้ประกันตนมาตรา 40 ในระบบประกันสังคม ในวันสุดท้าย ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ 3 กระทรวงแรงงาน มีผู้สนใจมาสมัครเข้ามาตรา 40 เป็นจำนวนมากจนเต็มพื้นที่ใต้อาคาร ซึ่งส่วนมากเป็นผู้สูงอายุ จนเจ้าหน้าที่ต้องตั้งโต๊ะรับสมัครบริเวณใต้อาคารสำนักงานและแจกบัตรคิว โดยแบ่งเป็นจุดดำเนินการในแต่ละส่วน แต่ละจุดจะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่เพื่อคอยอธิบายรายละเอียดของสิทธิประโยชน์ในแต่ละทางเลือก และอธิบายว่าอายุเท่าใดสามารถสมัครเข้าทางเลือกใดได้บ้าง
 
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ใช้โทรโข่งประกาศเรียกคิวเป็นระยะๆ ซึ่งตั้งแต่เวลา 8.30 น. ที่เปิดทำการจนช่วงสายๆ นั้นมีการแจกบัตรคิวไปแล้วกว่า 1,000 ใบ นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกันตนที่รอจ่ายเงินสมทบมาตรา 40 บริเวณชั้น 3 ของสำนักงาน ซึ่งแจกบัตรคิวไปแล้วกว่า 3,300 ใบ
 
สำหรับการคุ้มครองผู้ประกันสังคมตามมาตรา 40 เพิ่มสิทธิประโยชน์ทางเลือกที่ 3 (เงินบำนาญชราภาพ)  เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2556 เพียงจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมเดือนละ 100 บาท รัฐร่วมจ่ายอุดหนุน 100 บาท จะมีเงินออมเดือนละ 200 บาท ผู้ประกันตนสามารถจ่ายเงินสมทบย้อนหลังได้ถึงเดือนพฤษภาคม 2555 พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป สมัครได้ตั้งแต่ 9 ธันวาคม 2556 – 8 ธันวาคม 2557
 
หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ ทั้ง 12 แห่ง สำนักงานประกันสังคมจังหวัด / สาขาที่ท่านสะดวก หรือ โทร.1506 (เจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง)  
 
(มติชนออนไลน์, 8-12-2557) 
 
สหภาพแรงงานและพนักงาน "แม็คกรุ๊ป" ชุมนุมหน้าตลาดหุ้นหลังถูกสั่งยุบแผนกซ่อมบำรุงและเลิกจ้าง
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สหภาพแรงงานและพนักงานจากบริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC เกือบ 100 คน ได้เดินทางมาชุมนุมและแจกหนังสือเรียกร้องหน้าบริเวณตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อเรียกร้องถึงกรณีที่ทางบริษัทฯ มีการยุบหน่วยงานแผนกซ่อมบำรุง พร้อมกับเลิกจ้างพนักงานจำนวน 15 คน ซึ่งมีผลตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
 
นายกิตติ บุญประคองวงศ์ ประธานสหภาพแรงงาน MC เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ทำการเลิกจ้างพนักงงานแผนกซ่อมบำรุงจำนวน 15 คน โดยให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการประคับประคองและต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านต่าง ๆ เพื่อให้เหตุการณ์ดังกล่าวมีผลกระทบกับพนักงานของบริษัทฯ ทุกคนให้น้อยที่สุด โดยสหภาพแรงงานอยากเรียกร้องให้บริษัทฯ รับผิดชอบในส่วนของสวัสดิการเพิ่มขึ้น เช่น เบี้ยขยัน ค่ารักษาพยาบาล
 
ทั้งนี้ จากเอกสารที่มีการแจก โดยระบุนายพรชัย เกรียงสี่หมื่น รองประธานฝ่ายทรัพยากรบุคคล MC ระบุว่า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันเกิดการชะลอตัวลง ส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งทางบริษัทพยายามประคับประคองและใช้วิธีลดค่าใช้จ่ายด้านต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพนักงานของบริษัททุกคน แต่ยังไม่เพียงพอ ทำให้บริษัทจำเป็นต้องมีการพิจารณายุบหน่วยงานแผนกซ่อมบำรุงในเวลาต่อมา
 
(กรุงเทพธุรกิจ, 8-12-2557)
 
รมว.แรงงานขอประเมินก่อนยืดคุ้มครองประกันสังคม
 
พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.แรงงาน กล่าวภายหลังการประชุมครม.ถึงกรณีประชาชนร้องสำนักงานประกันสังคม(สปช.) ประชาสัมพันธ์ไม่ทั่วถึงในการขยายความคุ้มครองผู้ประกันตน ตามมาตรา 40 ว่า เรื่องนี้ทำมา 1 ปีแล้ว ตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อน ส่วนใหญ่รู้ล่วงหน้า แต่ไปลังเลแล้วไม่สมัครกันเอง กระทรวงแรงงานประชาสัมพันธ์มาเป็นปี สาเหตุที่จำกัดการรับสมัคร เพราะพ.ร.ฎ.ประกันสังคม มาตรา 40 ว่าด้วยขยายประกันสังคมให้ครอบคลุมแรงงานนอกระบบกำหนดระยะเวลาไว้ หากจะขยายต้องขอให้มีการแก้ไขพ.ร.ฎ.ดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะขยายเวลาหรือไม่ต้องขอประเมินก่อน แต่เรื่องโครงการกองทุนเงินออมแห่งชาติ เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง หากประชาชนเลือกเข้ากองทุนเงินออม ก็อาจไม่จำเป็นต้องขยายเวลารับสมัคร
 
"ผมขอยืนยันว่าไม่มีการเลือกปฏิบัติ หากจะขยายก็ต้องนำเข้าที่ประชุมครม.พิจารณาก่อน" รมว.แรงงาน กล่าว
 
(กรุงเทพธุรกิจ, 9-12-2557)
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net