เครือข่ายผดุงธรรมเพื่อสันติ ประณามผู้ก่อเหตุยิง ชรบ.ที่ยะลา เผยอดีตจำเลยคดีความมั่นคงถูกยิงตาย-เจ็บหลายราย เรียกร้องรัฐเร่งเยียวยาผู้ประสบเหตุ นำคนผิดมาลงโทษโดยเคารพกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชน
เครือข่ายผดุงธรรมเพื่อสันติ (Justice for Peace: JOP) ออกแถลงการณ์ขอประณามผู้ใช้ความรุนแรง หลังเกิดเหตุการณ์กราดยิงชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) หมู่ที่ 4 บ้านละแอ (บันนังกูแว) ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยนายอาแซ นิเซ็ง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบหมู่ที่ 4 หนึ่งในผู้ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ เป็นสมาชิกเครือข่ายผดุงธรรมเพื่อสันติ และเป็นอดีตจำเลยในคดีความมั่นคงซึ่งศาลมีคำพิพากษายกฟ้องและคดีถึงที่สุดแล้ว
ในแถลงการณ์ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา มีอดีตจำเลยถูกลอบยิงเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย กรณีนี้เป็นรายที่ 19 ของอดีตจำเลยทั้งหมดที่ปรากฏข้อมูล และเป็นรายที่ 5 ของสมาชิกเครือข่ายผดุงธรรมเพื่อสันติ โดยหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ไม่สามารถสืบสวนสอบสวนเพื่อหาพยานหลักฐานเกี่ยวกับผู้กระทำความผิดในคดีได้
เครือข่ายผดุงธรรมเพื่อสันติ กล่าวในแถลงการณ์แสดงความห่วงใยต่อครอบครัวของผู้ได้รับบาดเจ็บ และประณามผู้ใช้ความรุนแรงในการก่อเหตุ โดยมุ่งประสงค์ต่อชีวิตของอดีตจำเลยคดีความมั่นคง และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือต่อผู้ประสบเหตุอย่างรวดเร็วและเหมาะสม เพื่อเยียวยาความเสียหายและความรู้สึกทางจิตใจของผู้ประสบเหตุ และเรียกร้องให้รัฐปรับปรุงแก้ไขมาตรการความปลอดภัยให้มีมาตรฐาน สร้างความน่าเชื่อถือต่อสาธารณชน โดยเฉพาะในสถานการณ์ความขัดแย้งทางอาวุธในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบและปฏิบัติหน้าที่สืบสวนสอบสวนนำตัวคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย โดยเคารพต่อหลักการของกฎหมาย สิทธิมนุษยชน และการใช้เครื่องมือทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างมาตรการป้องกันและยุติวงจรความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
รายละเอียดแถลงการณ์ มีดังนี้
9 ธันวาคม 2557
แถลงการณ์ประณาม เหตุการณ์ลอบยิงอดีตจำเลยสมาชิกเครือข่ายผดุงธรรมเพื่อสันติ Justice for Peace (JOP)
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2557 เวลาประมาณ 23.00 นาฬิกา เกิดเหตุการณ์คนร้ายไม่ทราบกลุ่มกราดยิงชุดรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้าน (ชรบ.) บริเวณป้อมยามบ้านผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 บ้านละแอ (บันนังกูแว) ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ นายยามามะ เฮงดาดา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ถูกยิงบริเวณน่องขาข้างขวา และนายอาแซ นิเซ็ง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบหมู่ที่ 4 ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ถูกยิงบริเวณน่องขาข้างซ้าย ทั้งสองคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบันนังสตา อาการปลอดภัย
นายอาแซ นิเซ็ง เป็นอดีตจำเลยคดีความมั่นคงที่ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องและคดีถึงที่สุด เป็นหนึ่งในสมาชิกของเครือข่ายผดุงธรรมเพื่อสันติ Justice for Peace (JOP) ที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี 2553 มีอดีตจำเลยถูกลอบยิงจนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บมาแล้วหลายราย กรณีนี้เป็นรายที่ 19 ของอดีตจำเลยทั้งหมดที่ปรากฏข้อมูล และเป็นรายที่ 5 ของสมาชิกเครือข่ายผดุงธรรมเพื่อสันติ Justice for Peace (JOP) ที่ถูกลอบยิงในพื้นที่จังหวัดยะลา ซึ่งก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์คนร้ายลอบยิงนายตอเหล็บ สะแปอิง เป็นจำเลยที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการพิจารณาคดี เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2556 จนได้รับบาดเจ็บสาหัส พิการเป็นอัมพฤต ทั้งนี้ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ลักษณะเดียวกัน โดยในทางการสืบสวนที่ผ่านมานั้นยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในทางคดี
เหตุการณ์ลอบยิงอดีตจำเลยในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่หมู่ที่ 4 บ้านบันนังกูแว ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ซึ่งในห้วงระยะเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่ หมู่ที่ 4 บ้านบันนังกูแวและพื้นที่ใกล้เคียงไม่น้อยกว่า 10 เหตุการณ์ หลายเหตุการณ์ที่ผ่านมานั้นเจ้าหน้าที่ไม่สามารถสืบสวนสอบสวนเพื่อหาพยานหลักฐานเกี่ยวกับผู้กระทำความผิดในคดีได้ ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม
เครือข่ายผดุงธรรมเพื่อสันติ Justice for Peace (JOP) ขอแสดงความห่วงใยต่อครอบครัวของผู้ได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ และ ขอประณามผู้ใช้ความรุนแรงในการก่อเหตุร้าย โหดร้าย มุ่งประสงค์ต่อชีวิตของอดีตจำเลยคดีความมั่นคง ซึ่งถือได้ว่าเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ และขอให้ผู้ก่อเหตุร้ายยุติการกระทำที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม ที่สร้างความหวาดกลัวและความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินต่อสาธารณชน และขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือต่อผู้ประสบเหตุอย่างรวดเร็วและเหมาะสม อันเป็นการเยียวยาความเสียหายและความรู้สึกทางจิตใจของผู้ประสบเหตุดังกล่าว นอกจากนี้รัฐยังมีภาระหน้าที่ในการปรับปรุงแก้ไขมาตรการความปลอดภัยให้มีมาตรฐาน สร้างความน่าเชื่อถือต่อสาธารณชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ความขัดแย้งทางอาวุธที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ มีการใช้อาวุธสงครามที่มีอนุภาพรุนแรงและมีความถี่ของการก่อเหตุมากขึ้น และขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบและปฏิบัติหน้าที่สืบสวนสอบสวนนำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย โดยเคารพต่อหลักการของกฎหมาย สิทธิมนุษยชน และการใช้เครื่องมือทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างมาตรการป้องกันและยุติวงจรความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป