ช่อง 3 ถอนฟ้องหมิ่นประมาท-พ.ร.บ.คอม สุภิญญาแล้ว

1 ธ.ค. 2557 เวลา 13.30 น. บัลลังก์ 908 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ทนายความบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด หรือ ช่อง 3 โจทก์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอถอนฟ้องคดีจำเลย ที่ 1 นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ด้วยข้อหาหมิ่นประมาท จากการให้สัมภาษณ์สื่อ และรีทวีตข้อความของผู้ใช้ชื่อว่า “แคน สาริกา” ที่โจทก์อ้างว่า เป็นข้อความที่หมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 และเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 และ 15 ประกอบกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91

โดยศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์วันนี้ แต่คดีสามารถยุติได้เพราะศาลอนุญาตให้ถอนฟ้องและจำเลยที่ 1 ไม่ค้าน

นางสาวสุภิญญา กล่าวว่า บ.บางกอกฯ ไม่ควรฟ้องตั้งแต่แรก เพราะเรื่องที่กล่าวในคำฟ้อง ถือเป็นการทำหน้าที่ปกติของ กสทช. รวมทั้ง การใช้ทวิตเตอร์ก็เป็นการนำเสนอข้อมูลและข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน เพราะกรณีที่เกิดข้อโต้แย้งกันในเรื่องนโยบายสาธารณะ ก็ควรที่จะพูดคุยกันด้วยเหตุผลในที่สาธารณะ การฟ้องร้องคดีอาญาเช่นนี้ เหมือนเป็นการพยายามที่จะปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นของคู่กรณี

“คิดว่าสิ่งที่ตัวเองพูดไปเป็นหลักวิชาการ และหลักข้อเท็จจริงว่า ต้องปฏิรูปสื่อจากระบบสัมปทานมาเป็นระบบใบอนุญาตในระบบการแข่งขัน ซึ่งเราอยากให้รายเดิมกับรายใหม่มาแข่งขันบนสนามเดียวกัน ซึ่งเป็นเจตจำนงของการออกกฎกติกา Must Carry และกติกาการออกคู่ขนาน ซึ่งสุดท้ายก็จบลงได้ด้วยข้อเสนอแนะของศาลปกครอง แต่อย่างไรก็ตาม คดีนี้ก็ไม่ควรฟ้องร้องตั้งแต่แรก” นางสาวสุภิญญา กล่าว

นางสาวสุภิญญากล่าวเพิ่มเติมถึง กรณีที่มีการนำพ.ร.บ.คอมพ์ฯ มาเป็นเครื่องมือในการฟ้องร้อง ทั้งๆ ที่กฎหมายฉบับนี้ยังมีปัญหาอยู่ ตั้งแต่ตัวบทและวิธีการใช้ แต่กลับนำมาเป็นเครื่องมือที่จะสกัดกั้นการแสดงความคิดเห็น ขนาดเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเองยังเสี่ยงที่จะถูกฟ้อง แล้วประชาชนทั่วไปจะมีอะไรมาเป็นเกราะป้องกัน เพราะฉะนั้น ฝากถึงบุคคลสาธารณะไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง บริษัท หรือผู้มีอำนาจ ควรที่จะยับยั้งชั่งใจในการใช้พ.ร.บ. คอมพ์ฯ ฟ้องร้อง เพราะยุคนี้เป็นยุคดิจิตอลที่ควรจะต้องให้มีการแลกเปลี่ยนกันอย่างมีวุฒิภาวะมากกว่า เพราะหากมีการใช้วิธีการฟ้องร้องจากการรีทวีตแล้ว อาจก่อให้เกิดความประหลาดใจในสายตาต่างชาติแน่นอน ขอเสนอต่อบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ควรให้มีกระบวนการแก้ พรบ.คอมพ์ ให้มีความชัดเจนและรัดกุมมากกว่านี้เช่นกัน

นายนคร ชมพูชาติ ทนายความและที่ปรึกษานางสาวสุภิญญากล่าวว่า การทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ย่อมเป็นธรรมดาที่ต้องมีการวิพากษ์วิจารณ์การกระทำหรือความคิดเห็นที่อาจไม่ถูกต้อง หากมีความคิดเห็นต่าง ก็ควรเปิดใจฟังและทำความเข้าใจต่อสาธารณชน เพื่อแสวงหาข้อสรุปที่ดีที่สุดกับทุกฝ่ายโดยยึดถือผลประโยชน์สาธารณะเป็นสำคัญ แต่บางครั้งก็อาจไม่เป็นเช่นนั้น การฟ้องร้องจึงเกิดขึ้นได้ จึงต้องทำหน้าที่ของตนเองไปในการยืนหยัดความถูกต้องต่อศาลในทุกคดีที่เกิดขึ้นกับนางสาวสุภิญญา

 

สำหรับคดีนี้ เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.2888/2557 ตามที่โจทก์ ได้แก่ บริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด หรือ ช่อง 3 ยื่นฟ้องจำเลย คือ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.  ด้วยข้อหาหมิ่นประมาท จากการให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา กับสื่อโทรทัศน์ รวมทั้งทางสื่อต่างๆ ในประเด็นว่า หากช่อง 3 บีบบังคับ กสทช. ต้องผ่อนปรนช่อง 3 เท่ากับหักหลังผู้ให้บริการโครงข่าย ผู้ประมูลดิจิตอลทีวี และประชาชนที่จะได้รับคูปอง เพราะช่อง 3 ได้รับอภิสิทธิ์ ในระบบอำนาจนิยมอุปถัมภ์มานานหลายปี รวมทั้งกล่าวหาว่า จำเลยได้ใช้ทวิตเตอร์ @supinya  รีทวีตข้อความของผู้ใช้ชื่อว่า “แคน สาริกา” @can_nw  ที่ปรากฏข้อความเป็นการหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ ที่อาจทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจได้ว่าโจทก์ใช้อำนาจทุนและความสัมพันธ์ส่วนบุคคลในการประกอบธุรกิจเพื่อให้ผูกขาด และเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค โดยเป็นการนำเข้า และจงใจยินยอมให้มีการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ ในคดีเดียวกัน โจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลย กสท.ทั้ง 3 คน ได้แก่ นางสาวสุภิญญา พร้อมด้วย พลโท ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ และ ผศ.ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ ด้วยข้อหาร่วมกันและสนับสนุนให้มีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2557 โดยมุ่งหมายเพื่อออกคำสั่งทางปกครองให้ระงับการนำสัญญาณของโจทก์ไปถ่ายทอดผ่านระบบดาวเทียมและเคเบิล ต่อมา วันที่ 18 ก.ย. 57 ศาลได้ยกฟ้องคดีที่จำเลยทั้งสาม ข้อหาร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ยังคงเหลือแต่คดีฟ้องหมิ่นประมาทเฉพาะนางสาวสุภิญญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา  326, 328 และ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 และ 15 ประกอบกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ซึ่งศาลอาญาได้นัดไต่สวนในวันจันทร์ที่ 1 ธ.ค. นี้ 

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท