สุชาติ สวัสดิ์ศรี: สมอลบัณฑิต

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

 

บัณทิต อานียา พูดตามที่ใจคิด หลายคนคิดว่าเขาเพี้ยน บ้าๆบอๆ แต่ใครจะเชื่อว่า เขาเขียนเรื่องสั้นได้ แปลหนังสือเป็น อีกทั้งยังเคยเขียนนิยายเรื่องยาวในสไตล์ตามแบบของเขามาแล้วก็หลายเล่ม "สมอลบัณฑิต"ไม่เคยมีโอกาสได้เรียนหนังสือชั้นสูงตามระบบ ทั้งในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ยากจนมาตลอดชีวิต เป็นลูกจีนเกิดในไทย พ่อแม่แยกทางกัน เพราะพ่อไปมีเมียน้อย ครอบตรัวยากจนของเขาเองก็แตกสลาย แต่เขากลับเป็นนักอ่าน เคยแปลผลงานวรรณกรรมชั้นดีของ "บี ทราเวน" และ ออสคาร์ ไวล์ด จนได้พิมพ์เป็นเล่ม ภาษาของเขาไม่ได้มีคลังคำสละสลวยแบบภาษาชั้นสูง แต่กระนั้นก็สามารถสื่อความได้รู้เรื่อง ทำให้เห็นในทันทีว่า อะไรที่เกินๆของเขานั้นมันแสดงให้เห็นความเป็นคนปากกับใจตรงกัน และผมเข้าใจว่าเขาเพิ่งมาแสดงอะไรแรงๆก็ตั้งแต่หลังช่วงเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เป็นต้นมา

"สมอลบัณฑิต"มีอะไรอยู่"ข้างใน"ของเขาเองมาตั้งแต่ก่อนยุคเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 แล้ว เขาชอบเรียกตัวเองด้วยความสะใจว่า "สมอลบัณฑิต" เพราะต้องการจะเสียดสีผู้คนที่เต็มไปด้วยยศศักดิ์และตำแหน่งที่อยู่หน้า เช่นเป็น ศ. เป็น รศ. เป็น ดร. เป็นพลเอก เป็นจอมพล เป็นคุณหญิงคุณนาย มีเหรียญตราติดตั้งและสายสะพายร้อยแปด ในประเทศนี้เต็มไปด้วยคนใหญ่คนโต คนระดับ"บิ๊กบิ๊ก"ในสังคมไฮโซ ไฮซ้อ ที่ช่างจ้อเหมือนนิยายนํ้าเน่าต่อเนื่อง แต่เอาเข้าจริงแล้วกลับกลวงเปล่า เดินตัวงอและเอามือกุมเป้า

กระนั้น แม้"สมอลบัณฑิต"จะถูกมองอย่างดูหมิ่นมาตลอด ด้วยรูปลักษณ์ของคนหลักลอย ยากจน เดินยํ่าอยู่ในสลัม แต่ทุกครั้งที่ผมพบเขา เขาจะมีผลงานทั้งที่เขียนและแปลมาให้ช่วยอุดหนุน ส่วนใหญ่พิมพ์แบบหนังสือมือทำ หรือไม่ก็โรเนียวมาเย็บเล่ม เขาชอบไปฟังการสนทนาอภิปรายในที่ต่างๆยิ่งเสียกว่าอาจารย์มหาวิทยาลัยหลายคน ฟังแล้วก็แสดงความเห็นแบบเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง ออกนอกประเด็นบ้าง แต่มีความกล้าที่จะแสดงออกจนหลายคนชอบคิดไปในทางว่า "มันเป็นโรคจิตหรือเปล่า" ผมก็บอกว่าเขาเป็นแบบนี้แหละ ชอบเรียนรู้รับรู้ และก็มีผลงานมาเสนอให้ช่วยอุดหนุนในทุกครั้งที่พบกันจนหลายคนเอื่อมระอา เขาก็เหมือนวณิพกที่มีผลงานศิลปะมาแลกเปลี่ยนให้ผู้ที่เข้าใจเขา ผมจะช่วยซื้องานของเขาไว้แทบทุกเรื่อง บางเรื่องก็ซํ้ากันเพราะเขาเอาไปเปลี่ยนปกใหม่ อ่านบ้างไม่ได้อ่านบ้าง แต่ก็จะให้กำลังใจเขาเพราะก็เห็นเขาทำแบบนี้มาตั้งแต่ก่อนช่วง 14 ตุลา 2516 แล้ว เขาทำงานด้วยใจรัก กัดฟันพิมพ์เอง ขายเอง ตามแต่จะผู้สนใจ "สมอลบัณฑิต"เป็นอะไรที่แปลกๆแบบนี้มานานกว่า 4 ทศวรรษแล้ว

"สมอลบัณฑิต"ก็เพียงอยากแสดงทัศนะในฐานะเสรีชนคนหนึ่งของประเทศนี้ เขาไม่ได้มีกำลังอาวุธ ไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยชั่วร้าย หลายทัศนะที่เขาแสดงออกก็เพื่อแสดงความเป็น active citizen องประเทศนี้เท่านั้น แม้หลายครั้งจะมีผู้เตือนให้เขาระมัดระวังบ้าง เพราะบางเรื่องอาจเป็นภัยกับตัวเขาได้ แต่"สมอลบัณฑิต"ก็ยังเป็นตัวของเขาเอง ถึงจะยากจนและเจ็บปวยเจียนตายมาหลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่มีความเคลื่อนไหวเรื่องประชาธิปไตย เรื่องปากเรื่องท้อง เขาจะออกมาแสดงความเห็นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หลายคนจึงมักมองไปว่าเขาสติไม่สมประกอบ พูดจาไม่รู้เรื่อง ชอบเถียงไม่ตกฟาก กึ่งดิบกึ่งป่วย

ครั้งหนึ่งเคยมีผู้เล่าให้ฟังว่า เขาโดนกล่าวหาใน ม.112 และได้มีผู้ขอให้เขาพูดกับศาลในทำนองว่าสติฟั่นเฟือ่นไม่สมประกอบ แต่เขาปฎิเสธ โดยบอกกับศาลว่าเขาสติสมประกอบทุกประการ ดังนั้นที่เขาโดนกล่าวหาอีกครั้งในเรื่อง ม.112 ก็คงจะเพราะเขาเป็น "สมอลบัณฑิต"นั่นเอง จริงใจและจริงจัง เป็นอิสรชนในฐานะของนักคิด นักเขียน ที่ทำหน้าที่พูดความจริงในสิ่งที่เขาคิดจริงๆโดยบริสุทธ์ใจ และทำให้นึกไปถึงนักคิด นักเขียน อย่างเช่น "เทียนวรรณ" "ก.ศ.ร.กุหลาบ" และ "นรินทร์กลึง"

"สมอลบัณฑิต"ได้แสดงความคิดเห็นทางการเมืองของเขาอย่างเสรีและอย่างที่ใจของเขาปรารถมาตั้งแต่ก่อนหน้ายุค 14 ตุลาคม 2516 แล้ว เพราะเขายังมั่นคงแลนับถือในความเป็นคนที่เท่ากัน โดยเชื่อว่าตนเองนั้นอยู่ใน"สังคมเปิด"ของระบอบประชาธิปไตย และเขาก็เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่วัยหนุ่ม จนบัดนี้อายุ 74 ปีแล้ว ใครจะเชื่อว่าเขามีอายุเท่ากับกวี "รางวัลอัศนี พลจันทร์" ที่ชื่อ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ !

ในฐานะนักเขียนเรื่องสั้น ไม่ทราบมีใครในแวดวงรู้บ้างหรือเปล่าว่า เขาเคยมีเรื่องสั้นลงพิมพ์ในหนังสือรวมเรื่องสั้นชุด "ถนนที่นำไปสู่ความตาย" ที่ผมเป็นบรรณาธิการให้ "สำนักพิมพ์ดวงกมล" มาตั้งแต่เมื่อ พ.ศ.2517 โดยในครั้งนั้นเขาเขียนเรื่องสั้นตั้งชื่อเรืองได้อย่าง "โพสท์โมเดิร์น"มาก คือ "ข้าพเจ้าไม่ใช่ข้าพเจ้า" และครั้งนั้นชื่อจริงของเขายังใช้ว่า บัณฑิต ศิริชัยวงศ์ ส่วนชื่อ "สมอลบัณฑิต อานียา"เพิ่งมาเปลี่ยนใช้ในภายหลัง

ขอแสดงความเข้าใจและเห็นใจ

ขอเป็นกำลังใจให้ "สมอลบัณฑิต อานียา"

ฤาเรื่องนี้มันจะเป็นเหมือนอย่างที่มิตรสหายคนหนึ่งกล่าวว่า

"ม.112 ยิ่่งใช้ ยิ่่งเสื่อม III"

 

 

เผยแพร่ครั้งแรกใน เฟซบุ๊ก สุชาติ สวัสดิ์ศรี 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท