Skip to main content
sharethis

นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เผยว่าประเทศมีปัญหา รัฐบาลทำงานหนัก ขอความเห็นใจในการทำหน้าที่ สื่อมวลชนยังทำหน้าที่ได้ปกติ แต่ถ้าทำผิดกติกา จนท.จะไปพูดคุยแน่นอน ส่วนผลประชุม ครม. พล.อ.ประวิตร เสนอแปรสภาพ 21 จังหวัดทหารบกเป็นมณฑลทหารบก ใช้งบ 359 ล้าน และให้เตรียมรับมือภัยแล้ง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. (ที่มาของภาพ: เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล)

18 พ.ย. 2557 - สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่มีการปิดกั้นการทำงานของสื่อมวลชน หรือมีคำสั่งเปลี่ยนตัวผู้ดำเนินรายการ "เสียงประชาชน เปลี่ยนประเทศไทย" ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ทั้งนี้ คสช. ได้เข้าไปหารือและทำความเข้าใจถึงการนำเสนอข่าว ไม่ได้มีการข่มขู่ ส่วนการดำเนินการอื่น ๆ เป็นเรื่องภายในของสถานีโทรทัศน์ ย้ำว่า ขณะนี้ประเทศมีปัญหา รัฐบาลเข้ามาต้องทำงานหนัก รวมถึงการปฏิรูปรัฐบาลก็อำนวยความสะดวก และวันนี้ถือว่าเริ่มทำได้ดีแล้ว จึงขอความเห็นใจต่อการทำหน้าที่ และให้ช่วยกัน พร้อมยืนยัน สื่อมวลชนยังคงทำหน้าที่ได้ตามปกติ ซึ่งหากพบว่ามีการทำผิดกติกา ต้องมีเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยแน่นอน ส่วนกรณที่ คสช. นัดหารือกับสื่อมวลชนนั้น ตนเองจะต้องมีการพิจารณาถึงความเหมาะสมอีกครั้งว่าจะเข้าร่วมพูดคุยด้วยหรือไม่

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ทราบข่าวจากสื่อมวลชนแล้วว่า พรรคการเมืองตอบรับที่จะเข้ามาแสดงความคิดเห็นกับคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญแล้ว ซึ่งตนเองคงไม่สามารถผ่อนปรนคำสั่งของ คสช. เกี่ยวกับการดำเนินการทางการเมืองได้ เพราะเปรียบเสมือนการผ่อนปรนกฏหมาย แต่เห็นว่า ควรมีการปรับท่าที เช่น การขออนุมัติจัดประชุมเพื่อระดมความคิดเห็น และ คสช. จะพิจารณาให้ตามความเหมาะสม โดยมีเจ้าหน้าที่ของ คสช. เข้าร่วมรับฟังด้วย

ส่วนผลการประชุม ครม. สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รายงานว่า พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (18 พ.ย.57) พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เสนอคณะรัฐมนตรี อนุมัติงบประมาณประจำปีเพิ่มขึ้นกว่า 359 ล้านบาท เพื่อแปรสภาพหน่วยจังหวัดทหารบก จำนวน 21 หน่วย ให้เป็นหน่วยระดับมลฑลทหารบก หรือ มทบ. ทหารบก และปรับการบังคับบัญชาหน่วยขึ้นตรงกับกองทัพภาค ซึ่งมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยให้สอดคล้องกับภารกิจกองทัพ

 
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังเห็นชอบตามที่ พล.อ.ประวิตร เสนอ ให้จัดลำดับความเร่งด่วนกฎหมายที่ค้างอยู่เพื่อพิจารณาให้เป็นไปตามที่ คสช. ให้สัญญากับประชาชน รวมทั้งจะปรับกฎหมายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำให้ทันสมัย และเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน โดยมอบให้ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ประสานงานกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
 
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังรับทราบรายงาน เรื่องการระบายข้าวและยางพาราที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบของ ป.ป.ช. ซึ่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันต่อที่ประชุมว่า สามารถระบายขายข้าวได้เพราะไม่ใช่ของกลาง แต่ขอให้การระบายออก ดำเนินการอย่างสุจริตและโปร่งใส เช่นเดียวกับยางพาราที่สามารถนำไปจำหน่ายได้เช่นกัน
นายกรัฐมนตรี ยังแสดงความเป็นห่วง เรื่องสภาพอากาศและภัยแล้ง โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำความเข้าใจกับประชาชน เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ และทราบว่ารัฐบาลมีความห่วงใยและมีมาตรการรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และมีแนวทางในการให้ความช่วยเหลือจากรัฐบาล ซึ่งหากมีปัญหาสามารถขอความช่วยเหลือมายังรัฐบาลได้อย่างถูกต้อง
 
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รับทราบรายงานผลการตรวจสอบการทุจริต คอร์รัปชั่น ทั้ง ป.ป.ช. คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ และ ดีเอสไอ ด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net