จ.ม.ลาออกจากกรรมการ กป.อพช.ผิดหวังจุดยืนการเมือง 'นิ่งเฉย'ปล่อยให้ชาวบ้านถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐ

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

วิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผอ.มูลนิธิชีววิถี นักพัฒนาผู้คร่ำหวอดในวงการ NGOs ยาวนาน30ปี ร่อนจดหมายลาออกจากการเป็นคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน( กป.อพช.)ชี้ไร้จุดยืนและขาดความกล้าหาญทางการเมืองในสถานการณ์ปัจจุบัน เมินเฉยปล่อยให้ชาวบ้านถูกคุกคามโดยเจ้าหน้าที่รัฐและไม่คัดค้านกฎอัยการศึก

๐๐๐๐

 

เรียน พี่น้อง กป.อพช. และเพื่อนองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs)ทุกคนครับ

ในฐานะที่เลือกและตัดสินใจทำงานในองค์กรพัฒนาเอกชนนับตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตการทำงานเมื่อปี 2527 และครบ 30 ปีเต็มในปีนี้ ผมรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการของพวกเราเสมอมา ทุกครั้งที่มีคำชื่นชมหรือวิพากษ์วิจารณ์ต่อการทำงานของเรา ผมดูจิตใจตัวเองพองโต ห่อเหี่ยว หรือไม่ก็ทำใจวางเฉยเสียบ้าง แล้วแต่กรณี แต่กระนั้นก็จะพยายามเรียนรู้จากสิ่งที่คนแสดงความคิดเห็นทุกๆครั้ง

แม้ว่าในทางความเป็นจริงขบวนการนี้จะประกอบไปด้วยองค์กรและคนที่มีความคิดหลากหลายมากๆ แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นหลักการร่วมของพวกเราเสมอมาคือ "ประชาธิปไตย" "ความเป็นธรรม" " การมีส่วนร่วม" ไปจนถึง การพัฒนาที่มีเป้าหมายเพื่อคุณภาพชีวิตของมนุษย์" และ "ความยั่งยืนของฐานทรัพยากรและระบบนิเวศ" เป็นอย่างน้อย

นับตั้งแต่มีความขัดแย้งทางการเมืองจนนำไปสู่การรัฐประหารเมื่อปี 2549 และการปราบปรามการชุมนุมจนมีประชาชนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก พวกเราก็เหมือนกลุ่มอื่นๆในสังคมที่มีความเห็นทางการเมืองและเข้าไปมีส่วนร่วมแสดงออกทางการเมืองอย่างหลากหลาย ไม่ว่าการตัดสินใจนั้นจะผิดหรือถูก ผมเชื่อว่าพวกเราทุกคนได้เรียนรู้สิ่งนี้ได้ด้วยตนเอง และมหาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจประเมินผลพวกเราเองในอนาคต

ความขัดแย้งทางการเมืองซึ่งสืบทอดมาจากหลายปีก่อนหน้านี้ได้ปะทุขึ้นมาอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว พวกเราเป็นจำนวนมาก ได้ตัดสินใจลงนามต่อต้านรัฐประหารและความรุนแรง พร้อมกับคำประกาศว่าการปฏิรูปและการเลือกตั้งนั้นต้องดำเนินไปด้วยกัน หาใช่การหยิบยื่นภารกิจปฏิรูปให้กับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแล้วกีดกันคนอีกกลุ่มออกไป

ขณะนี้รัฐประหารได้เกิดขึ้นแล้ว เช่นเดียวกับกระบวนการปฏิรูปที่กีดกันคนมีความเห็นต่างก็กำลังเกิดขึ้น มิหนำซ้ำยังคุกคาม กีดกันประชาชนที่เดือดร้อนด้วยปัญหาพื้นฐาน เช่น ที่ดิน สิ่งแวดล้อม ฯลฯ ไม่ให้แสดงออกและแสดงความคิดเห็น ไปจนกระทั่งบังคับขู่เข็ญคนที่ไม่ประสงค์จะเข้าร่วมการปฏิรูปไม่ให้แสดงออก สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่หลักการของพวกเรา และเราควรแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเราต่อต้านสิ่งนี้

ผมได้อ่านคำแถลงของคุณสุวิทย์ กุหลาบวงษ์ เลขาธิการกป.อพช.ภาคอีสาน เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2557 ด้วยความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจ ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งที่เรียกร้องให้ กป.อพช.ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับกรณีการคุกคามประชาชน แต่ไม่สามารถผลักดันให้คำแถลงดังกล่าวสามารถแสดงจุดยืนและเรียกร้องอย่างกล้าหาญ เพื่อต่อต้านการคุกคามประชาชน รวมทั้งไม่ปรากฎข้อเสนอให้มีการยกเลิกกฎอัยการศึก ตามความคาดหวัง ผมจึงขอลาออกจากตำแหน่งใดๆใน กป.อพช.ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อแสดงการสนับสนุนคำแถลงของสมาชิกกป.อพช.บางท่านก่อนหน้านี้ และเพื่อให้กำลังใจกับเพื่อนพี่น้องทุกคนในภาคต่างๆที่ได้ลุกขึ้นมาต่อสู้ร่วมกับประชาชนเพื่อความเป็นธรรมและท้าทายอำนาจเผด็จการ

เมื่อวานนี้เอง (9 พฤศจิกายน 2557) ทหารยังได้จับกุมตัว ดร.ประภาส ปิ่นตบแต่ง และประชาชนที่เดินรณรงค์เพื่อการปฏิรูปที่ดินอย่างสันติ ที่จ.เชียงใหม่โดยใช้อำนาจอย่างไม่ชอบธรรม และเหตุการณ์เดียวกันนี้จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และอาจจะมากขึ้นหากเราได้แต่นิ่งเฉย หากแม้แต่แถลงการณ์ก็ไม่สามารถประกาศได้อย่างกล้าหาญและรักษาหลักการไว้ได้ ต่อไปเราจะสนับสนุนการเคลื่อนไหวเพื่อความเป็นธรรมของพี่น้องที่เสียเปรียบและไร้โอกาสได้อย่างไร

ผมยังคงเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการองค์กรพัฒนาเอกชนและพร้อมที่จะเข้าร่วมการแสดงจุดยืนและความเคลื่อนไหวร่วมกับพวกเราเสมอ ตราบใดที่การกระทำนั้นยืนอยู่บนพื้นฐานของประชาธิปไตย ความเป็นธรรม การมีส่วนร่วม และการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามหลักการของพวกเรา

วิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ
10 พฤศจิกายน 2557

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท