Skip to main content
sharethis

 

23 ต.ค. องค์กรพัฒนาเอกชนหลายหน่วยงานแถลงข่าวสนับสนุนการตั้งคณะทำงานของสภาทนายความช่วยเหลือทางคดีแก่ชาวพม่า 2 รายในคดีเกาะเต่า

มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.) หนึ่งในองค์กรพัฒนาเอกชนที่สนับสนุนสภาทนายความ แจ้งว่า เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2557 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อให้ความช่วยเหลือคดีที่ผู้ต้องหาชาวพม่าสองราย

นายวิน หรือเนวิน และนายซอ ถูกตั้งข้อหาในคดีอาญา จากเหตุการณ์ฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ นายเดวิด มิลเลอร์ วัย 24 ปี และนางสาวฮันนาห์ วิทเธอริดจ์ วัย 23 ปี ที่เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ.2557 โดยมีนายสุรพงษ์ กองจันทึกเป็นหัวหน้าคณะทำงานช่วยเหลือคดีและประเด็นอื่นๆที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องหาในคดีอาญา โดยมีทนายความอาวุโสจำนวนหนึ่งร่วมเป็นคณะทำงานดังกล่าวด้วย

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ทนายความของคณะทำงานดังกล่าวได้เข้าพบผู้ต้องหาเพื่อสอบข้อเท็จจริง โดยทางเรือนจำอำเภอเกาะสมุยได้จัดพื้นที่ให้คณะทนายความได้พูดคุยกับผู้ต้องหาได้อย่างเป็นอิสระ การสอบข้อเท็จจริงใช้ระยะเวลากว่า 5 ชั่วโมง และผู้ต้องหาทั้งสองรายได้ร้องขอให้ทีมทนายความยื่นคำร้องเพื่อขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุยโดยปฏิเสธข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวนที่ว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการข่มขืนและการฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษสาเหตุที่ตนให้การรับสารภาพนั้น เนื่องจากระหว่างการถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ต้องหาทั้งสองได้ถูกเจ้าหน้าที่บางคนและล่ามของเจ้าหน้าที่ร่วมกันกระทำการทรมานเพื่อให้รับสารภาพในวันที่ 2 ตุลาคม 2557จากนั้นนพักงานตำรวจจึงได้ขอให้ศาลออกหมายจับและนำผู้ต้องหาทั้งสองลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อจัดทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันที่ 3 ตุลาคม 2557 ซึ่งได้มีข่าวปรากฎแพร่หลายตามสื่อโทรทัศน์สื่อสิ่งพิมพ์และสื่อออนไลน์ การยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการครั้งนี้เพื่อขอให้พนักงานอัยการดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นเรื่องการบังคับให้ผู้ต้องหารับสารภาพและสอบสวนพยานของผู้ต้องหาประกอบด้วย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและนำผู้กระทำความผิดที่แท้จริงเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป

มสพ.ระบุว่า ในกระบวนการพิจารณาคดีที่เป็นธรรมนำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมายนั้นก็เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้เสียหายในคดีอาญา ญาติของผู้เสียหาย และต่อผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาเพื่อให้แน่ใจว่าผู้กระทำความผิดอาญานั้นได้รับโทษตามสมควรแก่ความผิดที่ได้กระทำและเพื่อเป็นมาตรการมิให้ผู้กระทำความผิดลอยนวลหรืออยู่เหนือกฎหมายอันจะสร้างความหวาดกลัว ความไม่ปลอดภัยต่อคดีอาชญากรรมที่สร้างความสะเทือนขวัญให้กับประชาชนในสังคม เช่น เหตุการณ์ฆาตกรรมในพื้นที่เกาะเต่าซึ่งมีผู้เสียหายเป็นนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษและมีผู้ถูกกล่าวหาเป็นแรงงานข้ามชาติสัญชาติพม่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญาในประเทศไทยมีหน้าที่หลักโดยตรงในการติดตามหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมที่มาตรฐานทางกฎหมายอาญาทั้งภายในและระหว่างประเทศได้รับรองไว้ทั้งในขั้นตอนก่อนการพิจารณา เช่น ในการสืบสวน การจับกุม ควบคุมตัวเพื่อทำการสอบสวน ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล กระบวนการรับฟังพยานหลักฐาน รวมถึงการคุมขังผู้ต้องหาหรือจำเลยระหว่างการพิจารณาคดีอันเป็นมาตรการป้องกันมิให้เกิดการละเมิดกฎหมายหรือหลักการด้านสิทธิมนุษยชนของผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหา

จากการเยี่ยมโดยคณะทำงานและตัวแทนองค์กรภาคประชาสังคม พบว่าผู้ต้องหาในคดีนี้ได้ถูกใส่โซ่ตรวนไว้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งในขณะที่ผู้ต้องหาถูกขังอยู่ในเรือนจำและระหว่างที่เดินทางมายังศาลซึ่งศาลปกครองเคยมีคำพิพาษาเพื่อสร้างบรรทัดฐานด้านการตรวนผู้ต้องขังตลอด24 ชั่วโมงนั้น ย่อมเป็นการละเมิดสิทธิของผู้ต้องขัง

มสพ.ระบุในตอนท้ายว่า คดีดังกล่าวนี้ นับว่าเป็นที่สนใจของประชาชนทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (Human Rights and Development Foundation-HRDF) เครือข่ายเพื่อสิทธิแรงงานข้ามชาติ (Migrant Workers Rights Network-MRWRN) มูลนิธิการศึกษาเพื่อการพัฒนา (Foundation of Education and Development-FED) และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม (Cross Cultural Foundation-CrCF) ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชน มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงความเป็นธรรมตามกระบวนการยุติธรรม หลักนิติธรรม และหลักสิทธิมนุษยชน ขอให้การสนับสนุนการทำงานของสภาทนายความและรณรงค์เพื่อให้เกิดการความยุติธรรม ยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม หลักนิติธรรมในประเทศไทย

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net