Skip to main content
sharethis

วันชาติสาธารณรัฐจีนปีที่ 103 ประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว ระบุเป็นจังหวะเหมาะสมที่จีนแผ่นดินใหญ่จะปฏิรูปประชาธิปไตย พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนชาวฮ่องกงเรียกร้องประชาธิปไตย โดยเชื่อว่าหากสำเร็จจะเป็นชัยชนะร่วมกันของทั้งฮ่องกงและแผ่นดินใหญ่ และส่งผลดีต่อช่องแคบไต้หวัน

พิธีฉลองวันชาติสาธารณรัฐจีน ปีที่ 103 ที่ลานหน้าทำเนียบประธานาธิบดี กรุงไทเป สาธารณรัฐจีน เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2557 (ที่มา: เว็บไซต์ทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวัน)

12 ต.ค. 2557 -เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันชาติสาธารณรัฐจีน ครบรอบ 103 ปี หรือครบรอบการปฏิวัติซินไฮ่ ของซุน ยัด เซ็นนั้น  เว็บไซต์ RTI ของไต้หวัน รายงานว่าประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว ของสาธารณรัฐจีน หรือไต้หวันได้กล่าวสุนทรพจน์ ณ ลานหน้าทำเนียบประธานาธิบดี กลางกรุงไทเป ในตอนเช้าวันนี้ ชูประเด็น "เทิดทูนประชาธิปไตย ภาคภูมิใจในไต้หวัน" ซึ่งมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างช่องแคบไต้หวันย้ำว่า ช่องแคบไต้หวันได้ก้าวจากการเผชิญหน้าไปสู่การปรองดอง ประชาธิปไตยได้แสดงบทบาทของมันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นนโยบาย "ไม่รวม ไม่แยก ไม่รบ ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญสาธารณรัฐจีน" หรือ "ฉันทามติปี 1992 หนึ่งจีน อธิบายตามความหมายของแต่ละฝ่าย" ล้วนเกิดขึ้นจากกลไกรัฐธรรมนูญของสาธารณรัฐจีนทั้งสิ้น ส่วนความตกลงระหว่างกันถึง 21 ฉบับระหว่างช่องแคบไต้หวัน ก็ได้ส่งให้สภานิติบัญญัติรับทราบหรือพิจารณาให้ความเห็นชอบ ให้สภาฯ เป็นผู้ตรวจสอบ ประธานาธิบดีหม่าฯ ระบุว่า นโยบายช่องแคบไต้หวันในอนาคตจะยังคงเป็นไปตามกลไกในระบอบประชาธิปไตยเช่นนี้ต่อไป

ผู้นำไต้หวันได้กล่าวเรียกร้องให้จีนแผ่นดินใหญ่ต้องยึดกุมโอกาสในปัจจุบัน ซึ่งเป็นโอกาสที่เหมาะสำหรับการดำเนินการปฏิรูปในระบอบประชาธิปไตยรัฐธรรมนูญ โดยย้ำว่า "ณ ขณะนี้ เป็นช่วงจังหวะที่เหมาะสมที่สุดที่จีนแผ่นดินใหญ่จะก้าวเข้าสู่การปฏิรูปในระบอบประชาธิปไตย จีนแผ่นดินใหญ่ในปัจจุบันมีการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจไปอย่างรวดเร็ว ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ดั่งคำพังเพยโบราณของจีนที่ว่า 'พืชพันธุ์ธัญญาหารสมบูรณ์ ประชาเป็นสุข นุ่งห่มภักษาหารเพียบพร้อม ชาวประชาเพรียกร้องเกียรติศักดิ์' ประชาชนจีนแผ่นดินใหญ่จำนวน 1,360 ล้านคนกำลังก้าวสู่ความมั่งคั่ง แน่นอนว่าจะต้องตั้งความหวังให้ชีวิตมีประชาธิปไตยและมีความเป็นนิติรัฐมากยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งนี้มิใช่สิทธิสำหรับชาวตะวันตกเท่านั้น แต่เป็นสิทธิของมวลมนุษยชาติ"

นอกจากนี้ ผู้นำไต้หวันยังได้แสดงจุดยืนสนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยของชาวฮ่องกงที่ต้องการให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกงโดยตรง ย้ำว่า การพัฒนาประชาธิปไตยของจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงอยู่ที่สติปัญญาและการเปิดกว้างต่อการปฏิรูปของผู้นำ 30 ปีก่อน นายเติ้ง เสี่ยวผิง อดีตผู้นำจีนคอมมิวนิสต์ได้เคยกล่าวไว้ว่า "จะต้องให้คนส่วนหนึ่งร่ำรวยขึ้นมาก่อน” แล้วทำไมในวันนี้ ฮ่องกงจึงจะเป็นแบบนี้ไม่ได้เล่า “ให้ประชาชนส่วนหนึ่งเป็นประชาธิปไตยก่อน" และเพื่อให้คำมั่นเมื่อ 17 ปีก่อนเป็นจริง ตนเชื่อมั่นว่า หากเป็นเช่นนี้จริง ก็จะต้องเปลี่ยนจากวิกฤตเป็นโอกาสได้อย่างแน่นอน ให้จีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงเป็นผู้ชนะร่วมกัน และก็จะเป็นผลดีต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างช่องแคบไต้หวันเป็นอย่างยิ่งด้วย ผู้นำไต้หวันยังได้แสดงความปราถนาอย่างแรงกล้าว่า ไม่ว่าจะเป็นฮ่องกง มาเก๊าหรือจีนแผ่นดินใหญ่ ล้วนสามารถทำให้อุดมการณ์แห่งประชาธิปไตยของ ดร.ซุนยัดเซ็น ปรากฎเป็นจริงขึ้นได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน

ผู้นำไต้หวันเห็นว่า การพัฒนาประชาธิปไตยไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ระบอบการเมืองรัฐธรรมนูญก็ยากที่จะลอกเลียนแบบกันได้ แต่ตนก็เชื่อว่า เมื่อทิศทางถูกต้องแล้ว ก็จะต้องมีทิศทางและแนวทางที่สามารถนำพาให้ก้าวไปสู่การพัฒนาเสรีภาพประชาธิปไตยที่มั่นคงและถูกต้องได้อย่างแน่นอน และย้ำว่า ไต้หวันยินดีที่จะแบ่งปันประสบการณ์ประชาธิปไตยกับประชาชนจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง และมาเก๊า  ร่วมกันแสวงหาวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับการผลักดันการปฏิรูปการเมืองและเศรษฐกิจของจีนแผ่นดินใหญ่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net