Skip to main content
sharethis

'คืนความสุขให้คนในชาติ' กับ พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมการจัดตั้งค่ายเยาวชนคนรุ่นใหม่ใฝ่ค่านิยม 12 ประการ ตั้งเป้า 354 อําเภอและระดับภูมิภาคอีก 13 แห่งทั่วประเทศ ส่วนการยื่นบัญชีทรัพย์สิน สนช. ต้องให้ความเป็นธรรม-อย่าใช้อารมณ์ ข้าราชการ-ทหารไม่จำเป็นต้องจน ให้ดูบางคนมีชาติตระกูล-ได้มรดกพกห่อ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2557 กรณีการวางโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง ว่าต้องหาเงินมาลงทุน อย่างไรก็ตามเม็ดเงินลงทุนส่วนหนึ่งต้องนำไปช่วยคนยากจนด้วย กล่าวได้ว่าประเทศไทยเองก็ติดอยู่ในกับดักรายได้น้อย รายได้ปานกลาง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2557 ชี้แจงกรณีบัญชีทรัพย์สินข้าราชการการเมือง ทุกคนพร้อมชี้แจง สงสัยให้ตรวจสอบ แต่อย่าตัดสินด้วยความรู้สึก ให้ความเป็นธรรมเขาบ้าง บางคนอาจมีชาติตระกูล หรือได้มรดกมา

10 ต.ค. 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติตอนหนึ่งว่าในด้านการศึกษานั้น ค่านิยม 12 ประการของคนไทย อันนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยสร้างอนาคตของชาติ ที่จำเป็นต้องเพิ่มเติมจากของเดิม เพราะว่าวันนี้โลกเปลี่ยนแปลง สังคมเปลี่ยนแปลงเราก็ต้องเพิ่มเติมให้ทันสมัย จริง ๆ แล้ว พื้นฐานก็มาจากของเดิม ผมเพิ่มเติมมาบ้างเล็กน้อยก็ต้องให้เกียรติท่านที่คิดมาก่อนครั้งแรก ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เรามีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุง ก็ขอให้นำมาใช้ทั้งหมด

วันนี้อยากให้ทั้ง คสช.ทั้งรัฐบาล และทุกส่วนราชการ ทุกหน่วยงาน ภาครัฐ ภาคเอกชน ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง คงต้องใช้เวลาในการปลูกฝังเยาวชนยาวนาน ถ้าเราจะเริ่มมีประชาชนที่มีคุณภาพ มีความเข้มแข็งต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ อาจต้องใช้เวลานานพอสมควร วันนี้กระทรวงศึกษาธิการ ก็ได้พยายามขับเคลื่อนในการสร้างความตระหนักให้กับคนในชาติได้มีการจัดกิจกรรม “สัปดาห์การสร้างค่านิยมหลัก 12 ประการ” ห้วงวันที่ 22 – 26 กันยายน 2557 โดยให้ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อําเภอ เขต ทุกจังหวัด รวม 928 แห่ง กิจกรรมให้ข้าราชการ บุคลการนักศึกษา และประชาชนทั่วไปร่วมกันสร้างค่านิยม 12 ประการให้ทั่วถึง เพื่อจะสร้างสรรค์ประเทศไทยให้มีความเข้มแข็ง มีจิตสํานึกในความรักชาติ ความรัก ความสามัคคี และเพื่อจะขยายไปสู่คนรุ่นหลัง ๆ ถ่ายทอดกันต่อไปในอนาคตด้วย ทั้งคนวันนี้ คนรุ่นหลังก็ต้องใช้ ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่

พล.อ.ประยุทธ์ยังระบุว่าวันนี้ได้มีการเตรียมการจัดตั้ง “ค่ายเยาวชนคนรุ่นใหม่ใฝ่ค่านิยม” ในระดับอําเภอ 354 อําเภอ และระดับภูมิภาคอีก 13 แห่งทั่วประเทศ ผมก็หวังใจเป็นอย่างยิ่งว่า ค่านิยม 12 ประการนี้ น่าจะเป็นแรงผลักดัน ให้กับการปฏิรูปประเทศไทย การสร้างอนาคตให้คนในชาติต่อไป ให้กับลูกหลานของเรา เป็นการสร้างอนาคตให้กับลูกเรา หลานเราต่อไป ซึ่งอาจจะต้องชี้แจงความหมาย กับอธิบายในข้อปฏิบัติให้เด็กเล็กเข้าใจด้วย บางที่เขาท่องอย่างเดียว ไม่รู้ว่า 12 อย่างทำอะไร ความหมายว่าอะไร พ่อแม่ช่วยสอน ช่วยทำความเข้าใจด้วย ไม่ยากเลย

ทั้งนี้เนื้อหารายการคืนความสุขให้คนในชาติในวันที่ 10 ต.ค.2557 ทั้งหมดมีดังต่อไปนี้

000

รายการคืนความสุขให้คนในชาติ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม 2557 เวลา 20.15 น

 
สวัสดีพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยที่รักทุกท่าน ก่อนที่ผมจะเริ่มกล่าวในเรื่องต่าง ๆ ผมขอให้พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนร่วมกันส่งแรงใจน้อมจิตอธิษฐานขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระพลานามัยที่สมบูรณ์ แข็งแรงและทรงหายจากพระอาการประชวรทั้งปวง เป็นมิ่งขวัญของประชาชนตลอดไป
 
ในสัปดาห์นี้นั้น ผมได้มีโอกาสเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนนำคณะรัฐมนตรี และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าถวายความเคารพ ถวายแจกันดอกไม้ และร่วมลงนามถวายพระพรที่โรงพยาบาลศิริราช ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนมีโอกาส ผมก็อยากจะขอเชิญชวนทุกท่านได้เข้าร่วมกันลงนามถวายพระพรแด่พระองค์ท่านด้วยเช่นกัน
 
สำหรับข่าวที่น่าชื่นชมสำหรับคนไทยในห้วงที่ผ่านมาก็คือ ข่าวที่คณะแพทย์จากโรงพยาบาลศิริราช สามารถคิดค้นแอนติบอดี้ สำหรับใช้เป็นต้นแบบที่จะนำไปประยุกต์ใช้รักษาโรค  อีโบลาได้สำเร็จ ล่าสุดทางองค์การอนามัยโลก ได้แสดงความยินดีกับความสำเร็จของทีมแพทย์ในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมกับเชื้อไวรัสจริงในห้องปฏิบัติการชีวนิรภัยระดับ 4 ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งหากผลการทดสอบแล้วว่ามีประสิทธิภาพที่ดี ก็จะนำไปสู่การพัฒนารักษาเชื้อไวรัส  อีโบลาได้ในทันที ทั้งนี้จะเป็นประโยชน์ในการลดขั้นตอนการทดสอบในสัตว์และคนอีกด้วย
 
อีกหนึ่งผลงานที่น่าภาคภูมิใจคือผลงาน "ฟองข้าวสุรดา" หรือฟองน้ำห้ามเลือดทางศัลยศาสตร์ที่ผลิตจากแป้งข้าวเจ้า เป็นผลงานนวัตกรรมโดย บริษัท บุณยนิตย์วัสดุการแพทย์ จำกัด ที่ได้รางวัลที่ 1 ระดับอุตสาหกรรมในการประกวดรางวัลนวัตกรรมข้าวไทย ประจำปี 2557 ที่จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างมูลนิธิข้าวไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ฟองน้ำห้ามเลือดนี้สามารถผลิตได้เองในประเทศ มีต้นทุนในการผลิตต่ำที่สำคัญคือใช้วัสดุที่สามารถหาได้ในประเทศของเราเอง
 
สำหรับนวัตกรรมทั้ง 2 อย่างนั้น ถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของคนไทย ที่น่าภาคภูมิใจ ทางรัฐบาลจะพิจารณาผลักดันให้ได้รับการคุ้มครองในประเทศต่าง ๆ และจะสนับสนุนให้ยื่นคำขอภายใต้สนธิสัญญาความร่วมมือด้านสิทธิบัตร หรือระบบ PCT ขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ในระยะต่อไป และมีอีกหลายอย่างที่เป็นนวัตกรรมของคนไทย แบรนด์ไทย ทุกคนต้องช่วยกันให้การสนับสนุนด้วย ในเรื่องของการผลิต การจำหน่าย หรือการใช้ประโยชน์ เพื่อจะใช้ผลผลิตต่าง ๆ จากในประเทศ เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าของทรัพย์สินต่าง ๆ ที่เป็นวัตถุดิบในการผลิต
 
ส่วนเยาวชนไทยนั้น ก็สามารถนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทยได้ในงานประกวดสิ่งประดิษฐ์นานาชาติที่กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน ทีมเยาวชนของไทยได้รับรางวัลเทียบรุ่นนักวิจัยระดับโลกมาได้สองผลงานคือ “เตาประหยัดพลังงาน” ของนักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนร่มเกล้า จังหวัดกาญจนบุรี และ “กระติ๊บไฟฟ้า” เป็นผลงานของนักเรียนโรงเรียนอุบลรัตน์พิทยาคม จังหวัดขอนแก่น สำหรับรายละเอียดผลงานเป็นอย่างไรลองไปติดตามดูในข่าวว่าไม่ได้ใช้เทคโนโลยีไฮเทค แต่มีที่มา สามารถตอบโจทย์ได้ว่าเรามีความต้องการพื้นฐานในการประหยัดพลังงานในชุมชนของตนเองได้อย่างไร และที่สำคัญคือได้นำวิถีชีวิตใกล้ตัวมาพัฒนาต่อยอด น่าชื่นชมอันนี้เป็นความคิดของเด็ก ๆ ความสำเร็จของเยาวชนเราเอง น่าภาคภูมิใจ
 
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องความสำเร็จที่เราจะต้องช่วยกันยกย่อง ให้กำลังใจ ประเทศไทยมีคนเก่งมากมาย เด็กไทย คนไทย มีความรู้ความสามารถไม่แพ้ชาวต่างชาติ ที่ผ่านมานั้นโครงการวิจัยและพัฒนาของเรานั้น อาจจะไม่ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนอย่างเพียงพอ วันนี้รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก เพราะเป็นการพัฒนาต่อยอดให้กับประเทศในอนาคต เราจะมอบหมายให้กระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ไปจัดเตรียมข้อมูลเสนอรัฐบาลเข้ามา เพื่อจะพิจารณาความเป็นไปได้ในการให้การสนับสนุนโครงการวิจัยและพัฒนาต่าง ๆ ของประเทศ สิ่งดี ๆ เหล่านี้นั้น เป็นหน้าเป็นตาเป็นศักดิ์ศรีของประเทศ เราต้องช่วยกันส่งเสริม ยกย่อง และเพิ่มเติมให้ได้มากขึ้นในอนาคต เราอย่าไปสนใจกับในเรื่องอื่น ๆ มากกว่าการพัฒนาประเทศ ในช่วงระยะนี้ก็ขอร้องทุกคน ประเทศของเราจะได้รับความเชื่อถือ เชื่อมั่น จากสากลจากต่างชาติ  มิตรประเทศต่อไป รัฐบาลเราก็มีหน้าที่ในการสนับสนุน ในการให้กำลังใจทุกคนทุกพวก
 
การขับเคลื่อนงานต่าง ๆ ของรัฐบาล ผมได้มอบนโยบายให้ทุกกระทรวงนั้นจะต้องมีผลงานที่จะเป็นของขวัญให้กับประชาชนในปีใหม่นี้ด้วย และจากนั้นทุก ๆ 3 เดือนนั้นก็ต้องมีการชี้แจงความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ ที่มีผลสัมฤทธิ์ ซึ่งได้วางแผนไว้อย่างต่อเนื่อง ในทุกรายไตรมาส ประชาชนจะได้ทราบว่าเราทำงานมาอย่างไร ในมิติของการบริหารราชการแผ่นดิน การลดความเหลื่อมล้ำให้กับสังคมไทย ซึ่งมีหลากหลายอย่างด้วยกัน ทั้งอาชีพ รายได้ การเข้าถึงกระบวนการกฎหมาย แหล่งเงินทุนต่าง ๆ เหล่านี้ ถือว่าเป็นความเหลื่อมล้ำทั้งสิ้น
 
ในด้านการปฏิรูปประเทศ เราก็จะปรับปรุงทั้งกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม ระเบียบขั้นตอนวิธีการให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส มีธรรมาภิบาล ได้การยอมรับนับถือจากทุกคน ทุกภาคส่วน จะได้ไม่นำกฎหมายไปเป็นข้อขัดแย้งอีกต่อไป ภาครัฐก็จะต้องสร้างการรับรู้ ความเข้าใจที่ชัดเจนให้กับคนทุกระดับ มีคำชี้แจงที่ยาก ที่ง่ายแตกต่างกันออกไป บางคนเข้าใจยาก ภาษากฎหมายต้องช่วยกัน พร้อมกันนั้นต้องส่งเสริมให้มีส่วนร่วมของภาคประชาชนให้มากขึ้น รับฟังเสียงประชาชนทุกคนทุกพวก เช่น ในช่วงที่ผ่านมานั้น กระทรวงยุติธรรมก็ได้เชิญภาคเอกชน และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย นักวิชาการเข้ามาร่วมเสนอแนวความคิดในการปรับปรุงกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายที่มีผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง ซึ่งในสิ้นปีนี้ก็จะครบรอบ 3 เดือนแรกของการทำงานของรัฐบาลและ คสช. ก็ขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทุกหน่วยงานที่เสียสละทุ่มเท และปฏิบัติงานกันอย่างเต็มที่มานั้น ก็ขอให้มีกำลังใจในการทำต่อไปเพื่อชาติ เพื่อประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ ให้เกิดผลลัพธ์เป็นรูปธรรม มอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทยทุกคน
 
สัปดาห์ที่แล้วผมพูดถึงนโยบายของรัฐบาลที่จะส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนหันมาใช้จักรยานเพื่อการออกกำลังกายหรือใช้เป็นยานพาหนะในชีวิตประจำวัน คงใช้ได้ในบางพื้นที่ ขี่จักรยานไปทำงานคงไปไม่ได้ทั้งหมด บางพื้นที่ก็ใช้ไม่ได้ แต่ก็อยากจะส่งเสริมให้มีการใช้ให้มากขึ้น ให้ได้รับความสะดวก ความปลอดภัย วันนี้ก็ได้รับการตอบรับมาเป็นอย่างดี หลายส่วนราชการ หลายหน่วยงานก็ได้จัดพื้นที่ จัดสถานที่ให้มีการขี่จักรยานเพิ่มเติมอย่างน้อยก็เพื่อสุขภาพ หรืออย่างน้อยก็เป็นการลดมลพิษในอากาศและมลพิษทางเสียงเป็นการชั่วคราวสักระยะหนึ่ง
 
นอกจากนั้น การขี่จักรยานจะทำให้พวกเรามีโอกาสเพิ่มการปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น เพื่อนบ้าน คนในชุมชน ในตอกซอกซอย ได้มีโอกาสจอดรถจักรยานทักทายกัน เพราะที่ผ่านมาขับรถก็รีบกันปิดหน้าต่างเปิดแอร์ ก็เพิ่มมลพิษและก็ไม่ได้คุยกันด้วย ไม่ได้ทักทายกัน เพราะฉะนั้นมีโอกาสตรงไหนก็ทักทายกัน จะได้รักกันมาก ๆ ไม่ขัดแย้งกันอีกต่อไป
 
นอกจากนั้น ผมอยากให้มีการสนับสนุนร้านค้าย่อยในพื้นที่ชุมชน ในเส้นทางการใช้จักรยานจะได้มีสินค้าต่าง ๆ ไปวางขาย แวะซื้อ แวะเยี่ยม พูดคุยกันได้อย่างสะดวก ไม่จำเป็นจะต้องไปเสียเวลาเข้าห้างใหญ่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งของที่ผลิตจากในท้องที่ ในท้องถิ่นเหล่านี้น่าจะมาเปิดพื้นที่ให้ขายในพื้นที่ที่เส้นทางจักรยานผ่าน เพื่อให้ได้ผลรับที่เป็นรูปธรรมและเป็นประโยชน์ต่อสังคมมากที่สุด ทั้งนี้ต้องเริ่มจากการกำหนดมาตรฐานว่า “ไบค์เลน” ควรเป็นอย่างไร ควรจะมีจำนวนเลน วัสดุ เครือข่ายการเชื่อมโยงจุดต่าง ๆ ให้ความปลอดภัยผู้ขับขี่ สิ่งอำนวยความสะดวกที่จอดจักรยานที่สะดวก ปลอดภัย ต่อไปอาจจะมีจักรยานให้เช่าต่าง ๆ ก็แล้วแต่ หรือให้บริการฟรี ก็แล้วแต่ว่าความก้าวหน้าจะไปได้แค่ไหนอย่างไร ให้ทุกหน่วยงานได้สนับสนุนด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของจักรยานยืมเรียนเหล่านี้ ก็ต้องสอนวินัยเด็กด้วย การใช้จักรยานให้เหมาะสมถูกวิธี พอโตขึ้นเขาขับขี่จักรยานได้ไปจักรยานยนต์ ไปรถยนต์ก็จะได้ไม่ทำผิดกฎจราจร
 
ในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ อย่างเช่นบางเส้นทางไปไม่ได้สะดวก ด้วยรถ ด้วยยานพาหนะชนิดอื่น เราใช้จักรยานเอา จักรยานเมาเท่นไบค์ก็ได้ เพื่อจะไปเที่ยวน้ำตก เที่ยวอะไรต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องขยายเส้นทาง บางน้ำตกก็ใช้เป็นเส้นทางจักรยานขึ้นไปหรือเดินขึ้นไป เหมือนเมืองนอกเขาทำตอนนี้ เวลาไปต่างประเทศ เวลาไปเที่ยว เขาไปเที่ยวเชิงสุขภาพ ทุกคนได้เดิน ได้ปีนเขา ได้ขี่จักรยานขึ้นเขา ไม่เห็นต้องนำรถขึ้นไปทุกที่เลย พอขยายทางเดี๋ยวก็เกินปริมาณควบคุมคุณภาพไม่ได้อีก
 
ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ คสช. ที่ผ่านมานั้นได้ให้กระทรวงคมนาคมและส่วนราชการอื่น ๆ ได้ วางแผนจัดทำโครงการนำร่องในทุกพื้นที่ การพัฒนาเส้นทางต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วหรือทำเพิ่มเติมให้มีความสมบูรณ์โดยเร็วที่สุด ผมต้องการให้เกิดทั้งประเทศ ทั้งในกรุงเทพมหานครและทุกจังหวัด ก็ขอให้ผู้ใช้รถ หรือรถยนต์ จักรยานยนต์ต่าง ๆ  ระมัดระวัง ผู้ขี่จักรยานด้วย ต้องเผื่อแผ่แบ่งปันกันการใช้ถนน ในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม
 
ในเรื่องของการส่งเสริมการศึกษาผ่านพิพิธภัณฑ์ ผมได้มีโอกาสเข้าสักการะพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสวันสิ้นพระชนม์ครบ 1 ปี ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ในวัดบวรนิเวศวิหาร ที่มีการจัดแสดงพระประวัติของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี และของสมเด็จพระสังฆราช อดีตเจ้าอาวาส รวมทั้งข้อมูลความเป็นมาของวัดบวรฯ ที่น่าสนใจมาก แต่เป็นการนำเสนอผ่านสื่อมัลติมีเดียที่ทันสมัย มีภาพเคลื่อนไหวได้ไม่น่าเบื่อ  มีทั้งในลักษณะเป็นการ์ตูนด้วย ผมว่าน่าจะประยุกต์มาใช้ด้วย โดยพยายามนำทั้งวัฒนธรรมไทย สังคมไทย และวิทยาศาสตร์เข้ามารวมกัน เพื่อประยุกต์นำสู่การรับรู้อย่างที่มีผลเป็นรูปธรรม ไม่อย่างนั้นพูดไปเป็นนามธรรมไม่เกิด วันนี้ต้องสร้างกระบวนการเรียนรู้แบบใหม่
 
สิ่งเหล่านี้ ภาครัฐต้องสนับสนุน การเรียนรู้นอกสถานที่ นอกสถานการศึกษาตามพิพิธภัณฑ์ เช่น แบบ Live museum (หรือพิพิธภัณฑ์มีชีวิต) อาจจะแสดงให้เห็นด้วยวิธีการสมัยใหม่อะไรก็แล้วแต่ มากกว่าการไปดูรูปภาพ ดูอะไรอย่างเดียวเป็นภาพนิ่ง เป็นภาพอะไรต่าง ๆ ไม่มีชีวิต ซึ่งต่างประเทศได้ทำมานานแล้ว แล้วพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ เหล่านี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ก็เคยทรงมีพระดำริในเรื่องของการให้ปรับปรุงพัฒนาพิพิธภัณฑ์ให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ดี แต่การศึกษาไทยวันนี้ ผมได้เรียนกับทางกระทรวงศึกษาธิการไปแล้ว ขอให้เน้นการสอนทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียน อย่าไปสอนท่องจำในตำราอย่างเดียว โดยไม่เข้าใจเพื่อจะไปสอบอย่างเดียวก็ไม่ได้ ต้องนำสู่การปฏิบัติให้ได้ด้วย
 
วันนี้เรามีพิพิธภัณฑ์หลาย ๆ อย่าง หลาย ๆ ประเภท ทั้งที่ทันสมัยหรือยังไม่ทันสมัยต้องปรับปรุง ช่วยกัน แล้วนำนักเรียน ประชาชนเข้าไปดู วันนี้คนเข้าพิพิธภัณฑ์น้อยมาก ผมถือว่าน่าจะสร้างแรงจูงใจให้มากขึ้นกว่าเดิม ให้เด็กเข้าไปดู ได้เรียนรู้อย่างสนุก เพื่อเป็นการดึงดูด สร้างวิสัยทัศน์ ส่งเสริมจินตนาการของเด็ก หรือของประชาชนก็แล้วแต่ สร้างความเข้าใจได้ถึงเนื้อหาได้อย่างลึกซึ้ง มีความประทับใจและจำได้ในสิ่งที่ไปเห็นมา และนำมาสู่การสอน การเรียนในห้องอะไรก็แล้วแต่ ไม่อย่างนั้นเราเรียนแต่วิชาการ ไปสอบ สอบเสร็จแล้วก็ลืม ไม่ได้เห็นของจริง เพราะฉะนั้นเน้นเรื่องของการพัฒนา ในเรื่องของพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตให้มากขึ้น ของทุกหน่วยงานน่าจะทำได้ทั้งหมด ของทหารก็มีอยู่แล้ว วันนี้เราจะได้คนที่มีคุณภาพ เมื่อโตขึ้นมา “มีความรู้ คู่คุณธรรม” โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาในพิพิธภัณฑ์มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กจะมีความใกล้ชิดกับวัดมากขึ้น เป็นการปลูกฝังความรู้ คุณธรรมจริยธรรมพร้อม ๆ กัน
 
เราคงจำได้เรามี 3 สถาบันหลัก คือ “บ้าน – วัด – โรงเรียน” ที่เรียกย่อ ๆ ว่า “บวร” เป็นแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งสมัยก่อนบ้านกับวัดโรงเรียนจะคู่กันมาตลอด เป็นแหล่งการเรียนรู้ของประชาชน วันนี้บางอย่างก็เลือนหายไป น่าเสียดาย ผมขอให้นำหลักการเดิมที่ได้ทรงพระราชทานไว้แล้วคือ “บวร” มาเพิ่มเติมบทบาทของ “วัดให้เป็นพิพิธภัณฑ์” ที่มีชีวิตด้วยให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ทั้งด้านศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม และเรื่องประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ทุกที่มาทุกวัดทุกพื้นที่แตกต่างกันทั้งสิ้น ให้ได้รับการสอนเรื่องมารยาท คุณธรรม วัฒนธรรม  ผมเห็นว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญในการที่จะสร้างภูมิคุ้มกันให้กับสังคม โดยเป็นการลงทุนที่น้อยที่สุด เริ่มได้เลยครับ ก็ขอให้ใช้คำว่า “บวร” ช่วยกันแพร่ค่านิยมคนไทย 12 ประการด้วยครับ อันนี้ก็ขอฝากไว้ทุกศาสนา
 
ในด้านการศึกษานั้น ค่านิยม 12 ประการของคนไทย อันนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยสร้างอนาคตของชาติ ที่จำเป็นต้องเพิ่มเติมจากของเดิม เพราะว่าวันนี้โลกเปลี่ยนแปลง สังคมเปลี่ยนแปลงเราก็ต้องเพิ่มเติมให้ทันสมัย จริง ๆ แล้ว พื้นฐานก็มาจากของเดิม ผมเพิ่มเติมมาบ้างเล็กน้อยก็ต้องให้เกียรติท่านที่คิดมาก่อนครั้งแรก ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เรามีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุง ก็ขอให้นำมาใช้ทั้งหมด
 
วันนี้อยากให้ทั้ง คสช. ทั้งรัฐบาล และทุกส่วนราชการ ทุกหน่วยงาน ภาครัฐ ภาคเอกชน ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง คงต้องใช้เวลาในการปลูกฝังเยาวชนยาวนาน ถ้าเราจะเริ่มมีประชาชนที่มีคุณภาพ มีความเข้มแข็งต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ อาจต้องใช้เวลานานพอสมควร วันนี้กระทรวงศึกษาธิการ ก็ได้พยายามขับเคลื่อนในการสร้างความตระหนักให้กับคนในชาติ ได้มีการจัดกิจกรรม “สัปดาห์การสร้างค่านิยมหลัก 12 ประการ” ในห้วงวันที่ 22 – 26 กันยายน 2557 โดยให้ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อําเภอ เขต ทุกจังหวัด รวม 928 แห่ง กิจกรรม ให้ข้าราชการ บุคลการ นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ร่วมกันสร้างค่านิยม 12 ประการ ให้ทั่วถึง ทั้งนี้เพื่อจะสร้างสรรค์ประเทศไทยให้มีความเข้มแข็ง มีจิตสํานึกในความรักชาติ ความรัก ความสามัคคี และเพื่อจะขยายไปสู่คนรุ่นหลัง ๆ ถ่ายทอดกันต่อไปในอนาคตด้วย ทั้งคนวันนี้ คนรุ่นหลังก็ต้องใช้ ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่
 
วันนี้ได้มีการเตรียมการจัดตั้ง “ค่ายเยาวชนคนรุ่นใหม่ใฝ่ค่านิยม” ในระดับอําเภอ 354 อําเภอ และระดับภูมิภาคอีก 13 แห่งทั่วประเทศ ผมก็หวังใจเป็นอย่างยิ่งว่า ค่านิยม 12 ประการนี้ น่าจะเป็นแรงผลักดัน ให้กับการปฏิรูปประเทศไทย การสร้างอนาคตให้คนในชาติต่อไป ให้กับลูกหลานของเรา เป็นการสร้างอนาคตให้กับลูกเรา หลานเราต่อไป ซึ่งอาจจะต้องชี้แจงความหมาย กับอธิบายในข้อปฏิบัติให้เด็กเล็กเข้าใจด้วย บางที่เขาท่องอย่างเดียว ไม่รู้ว่า 12 อย่างทำอะไร ความหมายว่าอะไร พ่อแม่ช่วยสอน ช่วยทำความเข้าใจด้วย ไม่ยากเลย
 
การส่งเสริมการเกษตร ในเรื่องของการเกษตรเหล่านี้ เป็นเรื่องที่มีผลมีภาระผูกพัน มีปัญหามามากมาย ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญต้องมีการบูรณาการอย่างเป็นระบบ ในเรื่องของการจัดโซนนิ่ง พื้นที่เพาะปลูก ประเภทของพืชที่จะต้องเพาะปลูก ต้องให้เหมาะสมกับพืชเกษตรแต่ละชนิด แต่ละพื้นที่ เช่น พื้นที่ลุ่มน้ำ จะเหมาะแก่การปลูกข้าวพันธุ์ดี เช่นแถว อยุธยา ปทุมธานี วันนี้ผมได้สั่งให้กระทรวงอุตสาหกรรมไปทบทวนดู ไปดูแลว่าพื้นที่ใดเหมาะสมในการปลูกข้าว หรือปลูกพืชการเกษตรที่มีราคาเหล่านี้ ไม่ให้มีการตั้งโรงงานขึ้นอีก ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นการปล่อยพื้นที่ที่มีประโยชน์เหล่านี้ มีน้ำ มีดินที่สมบูรณ์ ไปเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม เพื่อสะดวกในเรื่องของการขนส่งอย่างเดียว ผมว่าคงไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้นยังไม่พิจารณาให้เพิ่มเติม และไปตรวจทบทวนของเก่าด้วย กระทรวงอุตสาหกรรมไปดูว่าโรงงานที่ยังปล่อยน้ำเสียเหล่านี้ เราจะปรับปรุง แก้ไขอย่างไร ไม่อย่างนั้นต้องถูกปิด เตือนให้เวลาไม่อย่างนั้นก็ต้องปิด ก็เดือดร้อนกันไปหมด ขอร้องกันอีกทีก็แล้วกัน
 
ในส่วนของทุกกระทรวง ทบวง กรม นั้นต้องมีการประสานกัน บูรณาการกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ไม่ใช่โทษกันไปโทษกันมา อันนี้ปลูกก็เรื่องของหน่วยหนึ่ง อันนี้ขายก็เป็นเรื่องของหน่วยหนึ่ง พอเกิดเรื่องเดือดร้อนก็รุมกลับมาที่รัฐบาล ทุกกระทรวงต้องรับผิดชอบด้วย การให้ความรู้เกษตรกร ชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ ว่าควรจะปลูกพืชแบบไหน เวลาไหนที่จะเป็นการเพิ่มช่วยมูลค่า เช่น ข้าวพันธุ์ดีบางพันธุ์ก็เริ่มสูญหายไป ในอดีตมีมากมายเป็นร้อยพันธุ์ของไทย ทั้งข้าวขาว ข้าวหอม ข้าวสีต่าง ๆ ซึ่งเหมาะแก่การไปทำผลิตภัณฑ์ในแต่ละอย่าง ไม่ว่าจะทำเป็นขนม ขนมจีน อะไรแบบนี้ มีความเหนียวต่างกัน เพราะฉะนั้นต้องอนุรักษ์กลับมา และนำมาหาพื้นที่การเพาะปลูกให้เหมาะสม อาทิเช่น การปลูกพืชหมุนเวียน ปลูกพืชออร์แกนิคที่ไม่ใช่สารเคมีก็จำเป็น สำหรับพืชพลังงานก็อีกพื้นที่หนึ่ง มีพืชผลทางการเกษตรที่ใช้น้ำแตกต่างกัน ใช้มากที่สุดอาจจะเป็นข้าว ต่อไปเป็นยาง เป็นปาล์มก็ว่ากันมา ไปเรียงมาให้ได้ และไปเลือกพื้นที่ให้ถูกต้อง ประชาชนพอใจ ได้ราคา ผมว่าถ้าคิดแบบนี้ก็จะเกิดเป็นรูปธรรม ไม่อย่างนั้นก็พันกันอยู่แบบนี้ ก็ต้องมาให้เงิน ให้ทอง ช่วยเหลือกันมาตลอด แล้วถ้าวันหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วทำอย่างไร
 
เพราะฉะนั้น เราต้องมีการรองรับผลผลิตต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นให้ได้ ทั้งในเรื่องของการผลิต การควบคุมจำนวน ปริมาณ คุณภาพ การตลาด ทั้งในประเทศ ต่างประเทศ ผมคิดง่าย ๆ เช่น ถ้าหากลดการปลูกยาง มาปลูกปาล์มน้ำมันแทนจะได้หรือไม่ วันนี้ปาล์มน้ำมันก็บอกเดี๋ยวราคาตก ถ้านำมาบริโภคอย่างเดียวราคาตกแน่นอน ถ้าเรานำน้ำมันปาล์มไปผลิตเป็น Biodiesel เป็นพืชพลังงานก็จะสมดุลกับความต้องการของการบริโภคด้วย
 
วันนี้เท่าที่ผมเคยติดตามมา เห็นบอกว่าถ้านำไปทำ Biodiesel จะขาดอยู่มากพอสมควร อย่าผลิตปาล์มาเพื่อขายเป็นน้ำมันพืชอย่างเดียว ไปทำ Biodiesel เราต้องทำทั้งระบบ ทั้ง Demand - Supply กระบวนการผลิต การตลาด การจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ วันนี้ผมว่าแค่ผลิตใช้ในประเทศก็น่าจะพอเพียง เรื่องปาล์มน้ำมัน เพราะฉะนั้นได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยมาช่วยกันในการขอความร่วมมือจากท้องถิ่น จากประชาชน เก็บข้อมูลการเกษตรในส่วนนี้ เพราะท้องถิ่นเองจะรู้ดีว่าพื้นที่ที่ตัวเองอยู่นั้น เหมาะสมกับพืชชนิดใด และมีน้ำ มีความพอเพียงอะไรอย่างไร อย่าไปฝืนกันเลย พออะไรราคาดีก็ไปปลูกตามกันมา ๆ เรื่อย ๆ และก็มากขึ้น ๆ พอไม่ได้ผลก็ต้องชดเชย ต้องเยียวยา เสียเงินไปหลาย ๆ ทาง ส่งเสริมให้ยั่งยืนสักที ปรับให้ตรงกับพื้นที่สักที ท้องถิ่นเองต้องช่วยเรา ช่วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ช่วยกระทรวงมหาดไทย ขึ้นทะเบียนต่าง ๆ ต้องเป็นธรรม ถูกต้องให้ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนได้โดยตรง อันนี้เป็นสิ่งเร่งด่วนที่ทุกหน่วยงานต้องบูรณาการร่วมกัน  และทำให้การเติบโตทางภาคการเกษตรของไทยเป็นไปอย่างยั่งยืน
 
ในเรื่องของปัจจัยการผลิตต่าง ๆ ที่เราคิดตั้งแต่เป็น คสช. ก็ยังทำอยู่ การลดต้นทุนการผลิตข้าวหรือยางอะไรก็แล้วแต่ กำลังคิดอยู่ อะไรที่คิดไว้แล้วก็ทำต่อไป อะไรที่ต้องเสริมให้ยั่งยืนก็ทำคู่ขนานกันไปด้วย วันนี้ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรฯ ได้ไปพิจารณาจัดตั้งธนาคารเมล็ดพันธุ์พืช เราเคยมีธนาคารข้าวไปแล้ว วันนี้ผมอยากให้มีธนาคารเมล็ดพันธุ์พืช  ธนาคารปุ๋ย คือไม่จำเป็นจะต้องยืมเมล็ดพันธุ์ปุ๋ยมาแล้วคืน แล้วคืนเมล็ดพันธุ์ข้าว หรือปุ๋ย เราไม่จำเป็นต้องยืมอันนี้ แล้วคืนอันนั้น ก็แลกไปมูลค่าไปแล้วก็คืนแลกกันกลับไป อันนี้ต้องพัฒนาประยุกต์ให้ได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงพระราชทานมาอยู่แล้ว เดิมเรื่องธนาคารข้าว วันนี้มีความจำเป็นข้าว พันธุ์ข้าวก็ไม่พอ ไม่มี ราคาแพง เราก็ตั้งธนาคารเวลาข้าวมีเราก็เก็บไว้ส่วนหนึ่ง ทุกคนก็มาร่วมกันลงทุนในตรงนี้ ถึงเวลาก็มากู้ยืมกันไป จะใช้เป็นปุ๋ยก็ได้ อาจจะแลกเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ทำเองได้ทั้งหมด ผักตบชวามากมายไป ต้องกำจัดทิ้ง ไปกองทิ้ง ไปเผาทิ้ง ทั้ง ๆ ที่ผักตบชวาทำปุ๋ยอินทรีย์ได้เป็นอย่างดี ทำอาหารปลาก็ได้ ทำอะไรได้อีกมากมาย อาหารสัตว์ อาหารหมู ได้มากมาย เพราะฉะนั้นเราต้องช่วยเหลือกันทั้งระบบ มีการดูแลลูกหลานชาวนาเกษตรกร วันนี้ถ้าเราไม่ผลิตเกษตรกรรุ่นใหม่จะเป็นปัญหาในอนาคต รัฐบาลไม่สามารถดูแลตลอดไป ต้องผลิตเกษตรกรรุ่นใหม่ ชาวนารุ่นใหม่ที่เรียนรู้เรื่องเทคโนโลยี วันนี้ผมได้สั่งไปแล้วว่าให้ทุนการศึกษาให้กับลูกชาวนา ลูกชาวไร่ ลูกเกษตรกรทุกประเภท ลองดูสิว่าจะทำได้อย่างไร ถ้าลงทุกพื้นที่ได้ทุกอำเภอ ทุกตำบล ทุกหมู่บ้าน ในอนาคตเราก็จะมีเกษตรกรยุคใหม่ที่เรียนรู้ต่อเทคโนโลยี ใช้เครื่องไม้เครื่องมือเป็น บริหารจัดการของตัวเองเป็นและได้เร่งขับเคลื่อนชุมชนของตัวเอง ผมไม่ได้หมายความว่าให้กระทรวงศึกษาธิการไปให้เรียนเป็นจบปริญญาตรี โท เอกเป็น Doctor แล้วไปเป็นนักวิชาการ ผมไม่ต้องการ ให้จบภาคการเกษตรนี่แหละครับ วิชาทางการเกษตรได้รู้ทั้งระบบ จะได้ยั่งยืนสักที ก็ขอให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านช่วยกันดูแล ช่วยกันคัดเลือกและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอะไรก็แล้วแต่ทุกส่วนราชการ ถ้าช่วยกันแม้แต่ภาคเอกชนคนรวยก็ช่วยได้ มอบทุนการศึกษามาตำบลนี้ อำเภอนี้ ตำบลนี้ให้เขาไปเรียนรู้ในเรื่องอะไรบ้างก็บอกไปการเกษตรกับวิทยาศาสตร์อะไรต่าง ๆ เราจะได้มีลูกชาวนาหรือลูกชาวไร่เป็น Doctor ในสิ่งที่เขาถนัดและเขาก็อยู่ในชุมชนของเขา ไม่ใช่ผลิตมานักวิชาการมาแต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ตอนนี้ทุกคนต้องช่วยกันส่งเสริมแล้วก็ Promote สินค้าการเกษตรของเราให้มากยิ่งขึ้นด้วย
 
ในเรื่องสินค้าการเกษตร เรื่องข้าว ผมคิดเองว่าเป็นผลผลิตที่สำคัญและก็สร้างชื่อเสียงและรายได้ให้กับประเทศ คนไทยเป็นอย่างมาก เราก็ควรจะรักษาวัฒนธรรมไทยเอาไว้ในการกินข้าว ไม่ใช่ไปสอนให้คนไทยกินขนมปังแทน กลัวอ้วนก็กินขนมปัง ควรจะกินข้าวนี่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงรับสั่งข้าวนี่ไม่ทำให้คนอ้วน ถ้าทานแต่เพียงพอ พอดีออกกำลังกาย และนักกีฬาต่างชาติวันนี้ส่วนใหญ่เกือบทุกประเทศทานข้าวหมดแล้ว เขาเพิ่มพลังงานเขาในการแข่งขันคนไทยพยายามไม่กินข้าว แล้วก็กินทิ้งกินขว้างบ้าง วันนี้ลูกหลานต้องไม่กินทิ้งกินขว้าง กินข้าวให้หมดจาน กินทุกเมล็ดต้องหมดต้องให้นึกถึงว่ากว่าจะเป็นเม็ดข้าวให้เรากินได้เขาเหนื่อยมาเท่าไร ใช้เวลาเป็นหลายเดือนกว่าจะผลิตออกมา ผ่านขั้นตอนมากมายหยาดเหงื่อแรงงานความยากลำบากต้องรู้คุณค่าของข้าว
 
วันนี้อยากจะส่งเสริมให้คนไทยกินข้าว และคนทั้งโลกกินข้าว ถ้าอย่างนี้ผลิตเท่าไรก็ไม่พอ ทางยุโรป ทางอะไรเหล่านี้ก็วันนี้เขาสนใจอาหารไทย สนใจข้าวมากมายเราต้อง Promote เรื่องนี้ให้มากขึ้น อาหารไทยเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว แล้ววันนี้อยากจะให้ส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวเชิงนิเวศไปด้วย ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้เข้ามาได้รู้วิธีการทำนา ดำนา ปลูกข้าวเกี่ยวข้าว ตำข้าวอะไรก็แล้วแต่ ให้เขาลองมาอยู่ไร่นาสวนผสมเหล่านี้ สวนผลไม้เก็บเกี่ยวเองกินเอง รับประทานหรืออะไรก็แล้วแต่ ให้เขาคุ้นเคย โดยมาอยู่อาศัยในบ้านแบบ Homestay หรือโรงแรมใกล้ ๆ ก็ได้ จะได้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน พักโรงแรมไปดูทำไร่ทำนาอาจจะพักอยู่ในบ้านของเกษตรกรก็ได้ ได้บรรยากาศอีกต่างหาก เราต้อง Promote สิ่งเหล่านี้ เป็นการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติเชิงนิเวศ เพราะฉะนั้นต้อง Promote ให้ได้เป็นการ Promote ข้าวทางอ้อมด้วย Promote ยางอะไรก็แล้วแต่ คือคนต่างชาติเขาสนใจทั้งสิ้นวิธีการผลิต
 
เราไม่ค่อยทำ ต่างชาติเขาทำหมด อยากให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปลองคิดต้นแบบดู แล้วเริ่มทำได้เลยในลักษณะนี้ นำร่องไปทุกพื้นที่จะได้ช่วยเหลือชาวนา มีค่าเช่าบ้าน ค่าเช่าที่อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราวอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเราไม่เสริมในอาชีพอื่น ๆ มาเราจะขายข้าว ๆ ก็เป็นอยู่แบบนี้
 
การช่วยเหลือชาวนาที่มีรายได้น้อยในปีการผลิต 2557/2558 ปีนี้เท่านั้นเป็นการช่วยเหลือเฉพาะหน้าเร่งด่วน ซึ่งอย่างไรก็ตาม รัฐบาลก็จะเดินหน้าวางรากฐานระบบเกษตรกรของไทยให้พัฒนาอย่างยั่งยืน ไม่มาแก้ปลายเหตุ ไม่มา Subsidize ราคา ไม่มาจำนำหรือประกันอะไรก็แล้วแต่ ทำอย่างไรจะยั่งยืน ทำอย่างไรรัฐบาลต้องไม่ไปช่วยมา เพราะนั้นต้องหาตลาดให้มากเพิ่มพัฒนาคุณภาพข้าว เพิ่มพันธุ์ข้าวอะไรก็แล้วแต่ ให้มีมูลค่ามากขึ้น ในการช่วยเหลือเฉพาะหน้าวันนี้ ผมเรียนอีกครั้งว่าเป็นเฉพาะหน้า จะเริ่มจ่ายเงินชาวนาไร่ละ 1,000 บาทในเดือนตุลาคมนี้ ไม่เกินครัวเรือนละ 15 ไร่ เพราะฉะนั้นหากท่านห่วงกังวลว่าเงินจะไม่ถึงมืออย่างที่ผมรับฟังเสียงมาทางสื่ออะไรก็แล้วแต่ จะต้องช่วยกันตรวจสอบ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกันศึกษารายละเอียด กำนัน ผู้ใหญ่บ้านช่วยดูตรวจสอบว่าชาวนาที่แท้จริงที่มีที่นาน้อย น้อยกว่า 15 ไร่ และก็อีกส่วนหนึ่งที่ไปเช่านาเขาจะทำอย่างไร ผมอยากให้เงินที่ให้ไปนี่ ให้ถึงมือชาวนา ไม่ได้ให้ไปถึงผู้ให้เช่านาหรือนายทุนอะไรก็แล้วแต่ ให้ชาวนาเขาได้มีเงินไปเถอะ สงสารเขาบ้างกว่าเขาจะได้เงิน 5,000 บาท 10,000 บาท คนรวยไม่รู้สึกแต่คนจน 10 บาท 100 บาท 1,000 บาทเขาอยู่ได้ตั้งหลายวัน เพราะฉะนั้นมาจะมองดูจำนวนน้อยเกินไป บางคนบอกมากกว่านี้ล่ะ แล้วนำเงินที่ไหนให้มากกว่านี้รัฐบาลมีค่าใช้จ่ายมากมายในวันนี้ เพราะฉะนั้นวันนี้ได้ให้ทั้งกระทรวงยุติธรรมได้ไปจัดตั้งคณะทำงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตมีตัวแทนหน่วยงานด้านการป้องกันการทุจริตต่าง ๆ อีก 11 หน่วยงานเข้ามาวางระบบร่วมกับทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ตรวจสอบทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางให้เงินถึงมือพี่น้องชาวนา ไม่ให้มีการรั่วไหลเกิดขึ้น ไม่ให้ไปแกะห่อขนมกิน
 
เพราะฉะนั้น ทั้งนี้ต้องขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องชาวนาได้เชื่อมั่น เรามีความตั้งใจ รัฐบาลจริงใจ แต่ขั้นตอนที่ลงไปจากนี้ถึงมือชาวนาจะทำอย่างไร ต้องไปช่วยกันต้องช่วยกันดูแลเกษตรกรให้ได้มากที่สุด การเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ เหล่านี้ผมคิดว่า วันนี้ต้องทำให้ข้อมูลพื้นฐานนี้สมบูรณ์ การขึ้นบัญชี การลงทะเบียน การเปิดบัญชีธนาคาร อะไรก็แล้วแต่ ผมว่าข้อมูลต้องทันอย่ามาหลอกกัน อย่ามาเตี๊ยมกัน อะไรก็แล้วแต่ ต้องช่วยกันให้ได้ที่สุดทั้งตัวชาวนาเองต้องรักษาสิทธิ์ตัวเอง นายทุนเสียสละ เจ้าของนาเสียสละอย่าไปเอาเขาเลยครับค่าเช่านาก็มากอยู่แล้ว วันนี้อย่าไปขู่เขาว่าถ้าไม่แบ่งเงินกันอะไรกันที่ผมฟังมา จริงไม่จริงผมไม่ทราบ ถ้าไม่แบ่งเงินให้นายทุนบางส่วนครึ่งหนึ่ง 1 ใน 3 แล้ว ปีหน้าไม่ให้เช่านา อย่าให้เกิดขึ้นอย่างนี้ ผมจะถือว่าไม่ร่วมมือกับรัฐบาล ต้องถูกดำเนินการทางกฎหมาย ถือว่าขัดต่อนโยบาย ต้องไปหาวิธีการแก้ปัญหาให้ได้ทุกส่วนราชการ
 
สำหรับพืชผลทางการเกษตรอื่น ๆ ใจเย็นเล็กน้อยไม่ว่าจะเป็นยาง เป็นปาล์มเป็นอะไรก็แล้วแต่มีทุกอย่างอยู่แล้ววันนี้พยายามจะแก้ไขทุกอัน ถ้าพร้อมกันทีเดียวผมไปไม่ไหว รัฐบาลก็ไปไม่ไหวเพราะเงินมีเท่านี้ เงินมี 10 บาทต้องใช้ 100 บาทแล้วทำอย่างไรไม่ได้ก็ต้องจัดสรรเงิน 10 บาทนี้ว่าจะใช้อย่างไร หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า เดือดร้อนก่อนก็ต้องแก้ก่อนระยะสั้นเร่งด่วน แต่ต้องแก้ระยะยาวเตรียมไว้ด้วย เดินหน้าไปด้วยตรงนั้น
 
เรื่องของการถือครองที่ดินเหมือนกัน ก็มีหลายพวกที่มีทั้งถูกต้อง ไม่ถูกต้อง วันนี้เราต้องไปจัดระเบียบใหม่ทั้งหมดไม่ให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบ วันนี้ได้ให้ 6 หน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ เข้ามาดูแลเรื่องที่ดินทำกิน พื้นที่ทับซ้อนป่าไม้พื้นที่ราชพัสดุที่ราชการต่าง ๆ เหล่านี้ทับซ้อนกันหมด วันนี้ให้ใช้แผนที่ฉบับเดียวกันใช้ภาพถ่ายต่าง ๆ มาช่วยด้วยทั้ง  กรมธนารักษ์  กรมส่งเสริมสหกรณ์  กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ สํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กรมที่ดิน  กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องเรื่องที่ดินจะต้องมาดูกัน บังคับใช้กฎหมายด้วย โดยคำนึงถึงหลักรัฐศาสตร์ด้วย เพื่อจะดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้ทำอย่างไรจะให้เข้าที่จะต้องนำเขาออกไปจากการบุกรุก จากการผิดกฎหมาย ต้องจับเขาขึ้นทะเบียนให้หมด ใครอยู่ตรงไหน เมื่อนำเขาออกไปขึ้นทะเบียน อยู่ที่ไหนมาจากไหน จริงหรือเปล่า แล้วขึ้นบัญชีไว้มีที่ดินทำกิน ไม่มีที่ดินทำกินมีอาชีพหรือไม่มีอาชีพ ภูมิลำเนาอยู่ไหน และดูพิจารณาต่อไปว่า จะช่วยเหลือเขาอย่างไร เพราะเดี๋ยวเราจะไปพูดต่อถึงเรื่องของการจัดสรรที่ดินทำกินอีกครั้งหนึ่งด้วย ในหลายรูปแบบด้วยกัน
 
เรื่องการค้าขายหาบเร่ การจัดระเบียบแผงลอย รถตู้ รถจักรยานยนต์ อะไรก็แล้วแต่ จะต้องมีการใช้รัฐศาสตร์ด้วยคือกฎหมายเราฝ่าฝืนไม่ได้อยู่แล้ว เขาห้ามขาย เขาห้ามมาเกะกะกีดขวางถนน ก็ต้องปฏิบัติ แต่ทำอย่างไร คนเหล่านี้เขาจะไปขายที่ไหนได้อีก เวลาไหนจะหาพื้นที่ไหม จะเปิดถนนเส้นทางอื่นอีกไหม เป็นเวลากลุ่มนี้มาขายวันจันทร์ วันอังคาร วันพุธสลับกันไปแล้วแต่ที่ไม่กีดขวางทางจราจรและก็ขายเสร็จถึงเวลาก็เก็บกลับไปไม่ใช่วางขายแล้วก็แช่ไปทั้งวัน ทั้งคืน 24 ชั่วโมงจองที่ไว้ตลอด อย่างนี้ไม่ได้ หรือให้ไปแล้วไปขายต่อ ต่อไปนี้ถ้าให้ไปแล้ว ใครขายต่อยึดคืนทั้งหมด ไม่อย่างนั้นก็เซ้งต่อไปต่อไปจนกระทั่งท้ายสุดราคาจากร้อยบาทขึ้นไปเป็นพันบาทโน่น คนตีกินคนเดียวก็คือคนแรกขายต่อช่วงไปเรื่อย ๆ ต่อไปนี้ต้องทำจริงขายจริงถึงจะอนุมัติ หรืออนุโลมก็แล้วแต่ เพราะฉะนั้นเราต้องการช่วยคนที่รายได้น้อย ไม่รู้จะไปทำอะไรต่อ แต่กฎหมายก็คือกฎหมาย ขอทำความเข้าใจ รัฐต้องดูแล อย่าไปไล่ล่าอย่างเดียว ต้องเตรียมการทำความเข้าใจกับเขาด้วยและหาวิธีการในการจะจัดหาที่ดินทำกิน ที่ขายอะไรต่าง ๆ ก็แล้วแต่
 
ในเรื่องของที่ดินทำกินอาจจะมีปัญหาที่ไม่พอคนมากมาย เราอาจจะต้องใช้ระบบสหกรณ์ แบ่งปันผลประโยชน์กันเราหาที่ให้ ท่านรวมกลุ่มมาปลูกข้าว รวมกลุ่มมาปลูกยาง หรือปลูกอะไรก็แล้วแล้วแต่ และก็ปันส่วนกัน ส่วนหนึ่งก็คือคืนรัฐเพื่อเป็นต้นทุนในการทำผลัดรุ่นต่อไป ที่เหลือก็เป็นกำไรให้เขาไปเลี้ยงลูกเมียเขา อาจจะต้องเป็นแบบนั้น ถ้าเราแบ่งพื้นที่ไปเดี๋ยวท่านก็นำไปขายอีก ไปขายไปแปลงมูลค่าต่อไป ท่านก็รุกต่อใหม่ เราก็ต้องไปตามจับอันใหม่ เพราะฉะนั้นวันนี้ตีเส้นว่าหยุดแค่นี้ต้องไม่เกิดขึ้นอีก ได้สั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปแล้วแต่จะดูแลคนเหล่านี้อย่างไร ทั้งกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงทรัพย์ฯ ต้องมาดูแลกันหลาย ๆ หน่วยงาน
 
การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ต้องมีแผนงานระยะยาวมียุทธศาสตร์ว่าเราจะเดินหน้าประเทศอย่างไร เรื่องเศรษฐกิจ ทั้งในประเทศต่างประเทศ อาเซียน เขตเศรษฐกิจพิเศษ เพราะฉะนั้นก็ต้องวางแผนเส้นทางคมนาคมเหล่านี้ให้สอดคล้องกันว่า จะเชื่อมโยงอย่างไรในประเทศและก็ไปพื้นที่ชายแดน ไปอาเซียน อย่างเช่นวันนี้เราได้วางราง การเพิ่มรถไฟรางคู่ในเส้นทางที่จำเป็นหลัก ๆ ที่จะไปด่านชายแดนเป็นการขนส่งสินค้าและก็เตรียมเชื่อมต่อกับประชาคมโลกอีกต่อไป ที่ไกลออกไปจากรอบบ้านเรา ต้องเตรียมแผนอนาคตไว้ด้วย แต่ในขณะเดียวกัน ในประเทศก็ต้องเพิ่มเส้นทางการกำหนดสินค้า ต่อไปก็ต้องแยกสินค้ากับขนส่งโดยสาร และโดยสารก็ต้องเร็วกว่า เร็วกว่าอาจจะต้องใช้รางแบบ 1.435 ใช้รถรุ่นใหม่ก็ต้องเดินแบบนี้ ก็ต้องวางไว้ปีไหนจะทำอะไร ๆ เดี๋ยวไม่เกินสิ้นปีนี้ เร็ว ๆ นี้ คงจะทราบแล้ว
 
ขณะนี้ฝ่ายเศรษฐกิจ ท่านรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจก็ไปประชุมกันมาตามที่มอบไปแล้วว่าเดี๋ยวปีนี้ 2557 - 2558 จะสร้างทางคู่ที่ไหน จะสร้าง 1.435 ที่ไหนที่ชัดเจนไหนเรื่องอื่น ๆ รถไฟความเร็วสูงอะไรก็แล้วแต่ไป รอ ๆ เพราะต้องใช้เงินในปีหน้าไปหรือจะไปกู้มาอะไรมา ถ้าพูดทั้งหมดก็ดูน่ากลัวว่าจะสร้าง 4 - 5 แสนล้านบาททีเดียวนั่นเป็นอนาคต อยากจะมีรถไฟทางคู่ อยากจะมีรถใหม่ อยากจะมีรถความเร็วสูงเหมือนต่างประเทศ หาเงินมาครับหาเงินมา จะหาที่ไหนก็ต้องไปเพิ่มการเศรษฐกิจการค้าขาย ถ้าไปเพิ่มเศรษฐกิจก็ต้องมีการลงทุน เม็ดเงินลงทุนลดลง เพราะต้องมาช่วยเหลือคนยากจนเข้าไปอีก นี่ล่ะปัญหาติดพันหัวพันหางกันอยู่นี่ ประเทศไทยไปไหนไม่ได้ เขาเรียกว่าติดกับดัก ติดกับดักประเทศที่มีรายได้น้อยไปถึงรายได้ปานกลาง ไม่ข้ามเส้นนี้สักที เราต้องสร้างทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม ความเข้าใจ ไม่ขัดแย้งถึงจะแก้ได้ ถ้าขัดแย้งกันอยู่ทุกวันแบบนี้ไปไม่ได้หมดทุกเรื่อง และจะเรียกร้องอะไรได้ ไม่มีรัฐบาลไหนทำให้ได้อีกแล้ว ผมพูดได้เลย
 
ในเรื่องของมลภาวะในเรื่องของที่อยู่อาศัย อากาศ ความแออัดหรือว่ามลพิษทางอากาศ ได้สั่งการให้หน่วยงานของรัฐได้ไปสร้างความเข้าใจในชุมชนอย่างต่อเนื่อง โรงงานต่าง ๆ มีมลพิษอะไรเหล่านี้ ก็ต้องไปแก้ไข การอนุญาตก็ต้องให้เขามารับผิดชอบด้วย จะสร้างอะไรก็ต้องรับผิดชอบชุมชนรอบนั้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นเหมือง ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน ต้องรับผิดชอบประชาชนอยู่โดยรอบพื้นที่นั้นด้วย เขาเดือดร้อน อาจต้องมีการประกันภัยให้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ หรือดูแลเรื่องการศึกษาเรื่องสาธารณสุขเรื่องอะไรให้คนรอบ ๆ เขาได้พอใจ ไม่อย่างนั้นก็สร้างกันไม่ได้สักที ทำขยะก็ไม่ให้ ปรับเสาไฟฟ้าผ่านก็ไม่ได้แต่อีกพวกหนึ่งขาดไฟฟ้าแล้วเสาไม่ไปจะไปอย่างไร ผมก็ไม่เข้าใจ ก็ต้องผ่านตรงนี้ อาจจะชดเชยไหม จะขอให้รัฐดูแลก็พูดมา ไม่ใช่ค้านทุกอย่าง ปักเสาไม่ได้แต่ข้างล่างขาดไฟฟ้าให้เขาทำอย่างไรหรือปักไปโดยไม่ต้องมีเสาก็ไม่รู้เหมือนกันช่วยกันด้วย
 
เรื่องสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) วันนี้ตั้งมาแล้วก็มีข้อเสนอแนะมากมายและเราก็ต้องยินดีกับผู้ที่ได้รับการคัดสรร ใครที่ไม่รับการคัดสรร ก็จะพยายามหาหนทางให้เข้ามาร่วมในการปฏิรูป เราคัดเหลือ 250 คน สมัครมาทั้งหมด 7,000 กว่า 7,370 คน มีทั้งหลายระดับ ทั้งการศึกษา ทั้งเพศ และวัยมี 11 ด้าน สมัคร 4,500 คน เหลือ 173 คน จังหวัดและกรุงเทพมหานคร (กทม.) คสช. คัดสรรจาก 2,785 คน เหลือ 77  คน ผู้ไม่ได้รับการคัดเลือกผมสั่งการแล้ว เดี๋ยวให้ฝ่ายกฎหมายท่าน รองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม กำลังไปดูว่าจะทำอย่างไรให้มีส่วนร่วม จะได้ไม่มีคำกล่าวว่านำเฉพาะข้าราชการมา นำเฉพาะทหารมา เฉพาะพวกมาผม ไม่มีพวกใครทั้งนั้น ผมมองประเทศชาติเป็นหลักแต่การคัดสรรก็เป็นขั้นตอนของเขามาอยู่แล้ว ใครไม่มาแต่พูดข้างนอก นี่ไม่เป็นธรรมกับผมสมัครสิครับท่านไม่สมัคร เพราะฉะนั้นท่านไม่สมัครก็อย่าพูดตอนนี้อย่าเพิ่งพูด แต่ถ้าท่านอยากจะช่วยเราไปช่วยข้างนอกผ่านมา เดี๋ยวผมตั้งอีกประมาณสัก 3 - 4 เวที ทั้งหมดรวมกันประมาณ 5 เวที คิดขณะนี้เดี๋ยวให้คนทั้ง 6 - 7 พันทำอย่างไรมีส่วนร่วมทั้ง 5 เวทีนี้
 
บางคนก็อยากจะเป็น สปช.ได้รับเกียรติ ผมถือว่าท่านอยู่ใน 7,000 กว่าท่าน ได้รับเกียรติจากผมอยู่แล้ว จากคนในชาติอยู่แล้วเพราะท่านสมัครเข้ามา ไม่สมัครแล้วพูดนี้ อย่าพูดอย่างเดียว ขอร้อง ประเทศวันนี้ต้องการความรู้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคประชาชน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เดี๋ยวจะกลายเป็นว่ารัฐคิดเอง ประชาชนไม่รู้เรื่องประชาชนไม่เห็นชอบไม่ได้ เพราะฉะนั้น สปช. เขาต้องไปตั้งหลักในการดำเนินการ เขาเตรียมการมาแล้วระยะที่ 1 ของสำนักงานปลัดฯ ผมก็ให้ทำมา คสช. เพราะฉะนั้นข้อมูลแต่ละเรื่อง 11 เรื่องนี้เขาย่อยไว้หมดแล้วฟังทุกภาคส่วนจากทุกกลุ่มทุกฝ่าย ประชุมตั้ง 700 - 800 ครั้งมาแล้วที่ผ่านมาแล้วสรุปไว้แล้ว เป็นเล่ม ๆ 11 เล่ม 11 เรื่อง ใน 11 เรื่องแต่ละเรื่องเขาก็จะมีหัวข้อเขาแล้วเลือกตั้งมีวิธีการ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า การเข้าสู่กระบวนการจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร การใช้งบประมาณอย่างไร การควบคุมทุจริตเขาเขียนไว้แบบนี้แต่มีวิธีการหลายวิธีการ นำเรื่องนี้ไปพิจารณา เป็นแนวทางมาแล้ว ท่านจะเพิ่มเติมตรงไหน จะแก้ไขตรงไหนไม่เห็นด้วยก็ไปสู้กันในปฏิรูปนั้น ไม่ใช่คนเหล่านี้จะมีความรู้หรือเปล่าเข้ามาทำได้ไหม ยังไม่เริ่มทำเลยและไม่เคยฟังว่าเขาเตรียมอะไรกันไปอย่างไร ผมคิดมาหมดแล้วถูกผิดก็ไม่รู้ไปลองดูก่อน
 
ผมว่าไม่น่าจะมีอะไรที่ใช้ความรู้พิเศษไปมากกว่านี้ เราจัดระเบียบให้ เราเตรียมข้อมูลไว้ให้ไม่มีคำชี้นำ ไม่มีคำตอบ มีแต่โจทย์มาให้ แล้วไปแปรญัตติมาเอง แล้วก็ข้างนอกก็ใส่ไปที่พูดตามสื่อไม่เกิดประโยชน์ ไม่ฟัง ไปเข้าช่องทางของเขา เดี๋ยวเขามีกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) มีสำนักงานปลัด มีสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีเลขาฯ รัฐสภา เขามีหลายช่องทางไม่เคยฟังเลยชอบพูดดีนักไปแก้ไขตัวเองด้วย ผมก็เหนื่อยหน่ายกับคนเหล่านี้ คณะรัฐมนตรีจะเน้นเรื่องความโปร่งใสแล้วก็ธรรมาภิบาล
 
ในเรื่องของการรับตำแหน่งข้าราชการการเมือง วันนี้ก็ได้ออกคำสั่งไปแล้วว่าไม่ให้มีผลประโยชน์ทับซ้อนในการทำหน้าที่ ถ้าเป็นตำแหน่งการเมือง ที่ปรึกษารัฐมนตรี เลขารัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีหรือกรรมการรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ จะต้องไม่มีความทับซ้อนในเชิงผลประโยชน์ สิ่งนี้ได้ไปแก้ไขหลักเกณฑ์ไปเรียบร้อยแล้ว เพื่อป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น สร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน คือวันนี้รัฐมนตรีถ้าหมดทุกคนเขาลาออกหมดทุกอย่างแล้ว และเตรียมชี้แจงทรัพย์สินไม่ใช่ทรัพย์สินก็พร้อมทุกคนก็พร้อมชี้แจง มีที่มาที่ไปกันหมด ทุกคนจะมีมากมีน้อยก็ไปว่ากันเอาเอง สงสัยก็ไปตรวจสอบมา ผมว่าอย่าพูดด้วยอารมณ์อย่าตัดสินคนด้วยความรู้สึก ให้ความเป็นธรรมกับคนเขาบ้าง ติทุกเรื่องทุกอย่างคงจะไม่ได้ คนทุกคนจนเท่าเทียมกันก็ไม่ได้ จะรวยเท่าเทียมก็ไม่ได้ บางคนบอกว่าข้าราชการทำไมรวย ก็เขาชาติตระกูลไม่เหมือนกันมาก็ไปดูว่าเขามีมรดกพกห่อกันมาหรือเปล่า เขาโกงใครมาหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าพอเป็นทหารต้องจนเหมือนกันหมด หรือเป็นข้าราชการต้องจนเท่ากันหมดนำเงินเดือนมาคูณ 12 เดือนเท่านี้ เพราะฉะนั้นเกษียณแล้วมีเงินเท่านี้ ผมว่าไม่เป็นธรรม
 
การจัดซื้อจัดจ้าง โครงการต่าง ๆ รีบตรวจสอบให้ได้ข้อยุติ หลายโครงการที่คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) เข้าไปตรวจสอบ 28 โครงการไม่ใช่หมายความว่าตรวจสอบแล้วไม่เจอความผิดทุกอันไม่ใช่ไปอยู่ขั้นตอนดำเนินการเขาทำถูกหมด เขาทำถูกตามกฎหมายตามระเบียบข้อบังคับทุกอย่าง บางอันก็ราคาสูงเกินไปก็ไปต่อรองราคา ลดราคาทำ TOR ใหม่ จัดหาใหม่ไม่ใช่ทุจริต ๆ ก็ต้องฟ้องกันเละไปหมด ไม่ใช่ อันไหนที่ทุจริตชัดเจนก็เดี๋ยวส่งฟ้อง ต้องมีหลักฐานอะไรต่าง ๆ ยืนยันชัดเจน อันไหนไม่ได้ทุจริตไม่ได้เจตนาก็ตักเตือนกันไป ลดราคาลงให้ได้ เพราะถ้าทางกฎหมายไม่ผิด ส่งไปก็รกศาลอีก เพราะฉะนั้นใจเย็น ๆ บางเรื่องต้องทำต่อเนื่อง ในส่วนของการตรวจสอบนั้นเป็นเรื่องของคณะกรรมการ คณะทำงาน แล้วก็ให้กระบวนยุติธรรมเขาไปว่ามาจะถูกจะผิด คนเราต้องเคารพกระบวนการยุติธรรม
 
เรื่องข่าวลืออะไรต่าง ๆ เหล่านี้ ในสื่อในหนังสือพิมพ์ ในอะไรต่าง ๆ อย่าไปเชื่อมากนักผมไม่ได้ เดี๋ยวทะเลาะกับสื่ออีก
 
การยุบองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) มีที่ไหนใครไปยุบ ผมยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ เพราะฉะนั้นไปลงว่า คสช. จะยุบจะไปหาเรื่องทำไม อะไรทำได้ก็ทำไปเรื่องปฏิรูปก็ไปปฏิรูปมาเขาเรียกว่าการปฏิรูปในเรื่องของระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่นก็ไปว่ากันมาจะเอาแบบไหน อย่าเพิ่งไปลือกันเสียหาย มีแต่โจทย์ยังไม่มีวิธีการเลย ข้อยุติก็ยังไม่มีจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ยุติตัวเองไว้ก่อน อย่ามีอัตตา
 
การเดินทางเยือนต่างประเทศ สำหรับที่ในโอกาสอันใกล้นี้ของนายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องไป ไปสร้างความเข้าใจเขา แนะนำตัวเขา กระชับความสัมพันธ์ในทุกระดับในทุกมิติให้เกิดผลประโยชน์ต่อสองชาติด้วยความเท่าเทียมกัน ลดความหวาดระแวงบนพื้นฐานความไว้วางใจ อย่าไปขยายความขัดแย้งกันอีกเลย ทะเลาะกันในประเทศยังไม่พอทะเลาะกับต่างประเทศเขาอีก แล้วจะอยู่อย่างไรในโลกนี้ วันนี้อยู่คนเดียวไม่ได้อยู่แล้ว รัฐบาลพยายามทุกอย่างที่จะสร้างความเข้าใจนี่ก็ขยันที่จะนำเรื่องในประเทศไปต่างประเทศ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง ก็ไปพูดจาไม่ดีเสียหายกับประเทศ แล้วบอกการท่องเที่ยวเสียหาย แล้วบอกการท่องเที่ยวเสียหาย การเศรษฐกิจ การค้าผิดไปหมดเพราะเราเข้ามา คนละเรื่องผมว่าต้องช่วยกันสร้างสภาวะแวดล้อม ให้สงบ ให้ปลอดภัย ปฏิรูปให้ได้ ตั้งใจปฏิรูปมากี่ชาติแล้วไม่เคยทำได้สักที วันนี้จะเกิดขึ้นมาได้เพราะว่าตั้งสภา เดี๋ยวต้องออกเป็นกฎหมาย บางอย่างต้องอยู่ในรัฐธรรมนูญ ถึงจะทำได้ นี่เขาเรียกว่าปฏิรูปให้เกิดผล เป็นรูปธรรม อย่ามาบอกว่าเดี๋ยวก็เหมือนกับครั้งที่ผ่านมา ๆ ก็ไม่มีกฎหมาย รัฐบาลก็ไม่ได้อำนวยความสะดวกอย่างนี้ วันนี้รัฐบาลดำเนินการทุกอย่าง งบประมาณ ค่าใช้จ่าย การดูแล ทุกอย่างมีให้หมด เขาทำงานมาอย่างเดียวเท่านั้นเอง นำผลประโยชน์ออกมาให้ได้ แล้วจะเดินหน้าประเทศไปอย่างไร อนาคตประเทศจะเป็นอย่างไร นี้แหละสิ่งที่ผมทำกันวันนี้ อย่าพึ่งติเรือนทั้งโกลน ติโขนยังไม่ได้ทรงเครื่อง
 
สัปดาห์นี้ผมต้องไปเยือนสหภาพเมียนมาร์ เป็นประเทศเพื่อนบ้านของเรา เป็นประเทศแรกในรอบบ้าน เรามีรอบบ้านอยู่ 3 – 4 ประเทศ ที่ต้องไปพม่า เพราะว่าท่านเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ต้องให้เกียรติ แล้วก็จะไปขยายความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้อง แนะนำตัว แล้วหารือกันในทุก ๆ ประเด็น ทั้งเรื่องของความมั่นคง เรื่องของการพัฒนาเศรษฐกิจ เศรษฐกิจพิเศษ ความร่วมมือในพื้นที่ประเทศไทย ในพื้นที่ประเทศเมียนมาร์ การเชื่อมโยงระบบคมนาคม การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ร่วมมือซึ่งกันและกัน และการชักจูงประเทศอื่น ๆ มาร่วมมือด้วยในการพัฒนาอาเซียน อาเซียนมีหลายประเทศ ถ้าประเทศใดประเทศหนึ่งแข็งแรง อีกประเทศก็ต้องแข็งแรงไปด้วย ถ้า 10 ประเทศแข็งแรงร่วมกัน ก็เป็น Mass มหาศาล เราแข็งแรงประเทศเดียวไม่ได้ ต้องให้ประเทศอื่นแข็งแรงด้วย
 
เรื่องกีฬา ขอบคุณนักกีฬาที่ได้สร้างชื่อเสียงเป็นที่น่าพอใจ เป็นความสุขสู่ประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาเอเชียนเกมส์ที่ยุติไปแล้ว แล้วนักกีฬาฟุตบอลหญิงได้สิทธิ์ในการเข้าร่วมฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกในปีหน้า น่าดีใจ ก็คงต้องปรับปรุงอะไรอีกเล็กน้อย เพื่อให้ไปสู่การชนะเลิศให้ได้ นักกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งจะเข้าร่วมการแข่งขันที่ประเทศจีน ที่เข้าไปแข่งขันแล้ว ยูธโอลิมปิกได้สร้างชื่อเสียง โดยได้ 3 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 3 เหรียญทองแดง และเอเชียนเกมส์ได้ 12 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน และ 28 เหรียญทองแดง ผมรู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีที่จะมีโอกาสเลี้ยงต้อนรับนักกีฬา เรื่องรางวัลต่าง ๆ มีกฎกติกาอยู่แล้ว รัฐบาลดูแล การกีฬาเขาดูแล ในปลายเดือนนี้กำหนดเวลาไว้แล้ว แต่คงต้องรอนักกีฬาที่จะกลับมาจากการแข่งขันกีฬาคนพิการ ผมต้องการจะเรียกว่าเป็นกีฬาของคนมีความสามารถพิเศษ เพราะเขาพิการแต่เขาแข็งแรง เขาแข่งกีฬาได้ สิ่งนี้ผมไม่ต้องการเรียกเขาว่าพิการ ก็จะมีการแข่งขันที่เกาหลีใต้อีก วันที่ 18 – 24 ตุลาคม ขอให้ทุกคนได้ให้กำลังใจช่วยกัน ให้เขาแข่งขันเต็มที่ ขอให้ไม่ต้องห่วงทางนี้ กลับมามีเหรียญมามาก ๆ ได้น้อยไม่เป็นอะไร ตั้งไว้เหรียญมาก ๆ ก่อน
 
สำหรับการทำงานในปัจจุบันของรัฐบาล ย้ำอีกครั้ง 3 ลักษณะ 1. เร่งด่วน แก้ไขทันที ทั้ง คสช. และรัฐบาลจะแก้เลย สั่งวันนี้เกิดพรุ่งนี้ สั่งมะรืนนี้เกิดมะเรื่องนี้ อะไรก็แล้วแต่ ทันที 2. ปฏิบัติราชการบริหารราชการแผ่นดินตามภารกิจ พันธกิจ ทุกหน่วยงาน ในเชิงรุก ผมเน้นทุกกระทรวง ทบวง กรม ทุกส่วนราชการ ต้องไปทำเชิงรุก อย่าให้เกิดปัญหา ถ้าปัญหามากต้องได้รับการพิจารณา ในการบริหารในแต่ละพื้นที่แต่ละหน่วยงาน มากกว่ารับ แก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนให้เร็วที่สุดตรงภารกิจของกระทรวง แต่อะไรที่ต้องใช้เวลา ทำแผนงานให้ต่อเนื่อง มีโครงการ แผนงาน ผูกพันงบประมาณ สิ่งนี้ต้องทำคู่ขนาน ไปกับการช่วยเหลือเร่งด่วน สิ่งนี้จะได้ยั่งยืนต่อไปในอนาคต สำหรับในด้านงานที่ 3 คืองานด้านความมั่นคง เราจำเป็นต้องสร้างสภาวะแวดล้อมที่ปลอดภัย ให้เอื้อต่อการปฏิรูป ตามที่ผมกล่าวไปแล้วเมื่อสักครู่ สร้างความเข้าใจกับต่างประเทศ รักษาความสงบ รักษาความปลอดภัย ไม่งั้นก็ทะเลาะ ขัดแย้ง มีการใช้อาวุธสงคราม อะไรก็แล้วแต่ ทำให้บ้านเมืองเสียหาย เราจะปฏิรูปกันก็ต้องหยุด ๆ ขัดแย้งกันสักที
 
สำหรับในเรื่องของการจัดระเบียบงาน 1. เร่งด่วน ทันที ทันจริง เร็ว มีผลสัมฤทธิ์ อันที่ 2. งานที่ต้องทำให้เสร็จภายใน 1 ปี ทั้งเรื่องปฏิรูป ทั้งเรื่องอะไรที่ต้องใช้เวลาในการแก้ 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือน 12 เดือน หลักการที่ 3. คือเราต้องวางยุทธศาสตร์ระยะยาวให้ได้ให้ครบระบบว่า ใน 5 ปีข้างหน้า อีก 5 ปี ข้างหน้า 10 ปี 2 แผนพัฒนาฯ จะเกิดอะไร รถไฟกี่ราง ที่ไหนบ้างอะไร อย่างไร ต้องเขียนไว้อย่างนี้ แต่เราจะค่อย ๆ สร้างการปฏิรูปไปทีละอัน ๆ ไม่อย่างนั้นดูตัวเลขแล้วน่าตกใจ ไม่ได้ทำทีเดียว ทำไม่ได้ ทุกคนอยากได้ทุกอย่างพร้อมกัน แต่เราไม่มีสตางค์ ถ้าเราเข้มแข็งเศรษฐกิจเราดี ค้าขายข้าวได้ เพิ่มมูลค่าการผลิตได้ ทุกอย่างไม่ต้องมา Subsidize กัน เงินลงทุนก็จะมีมากขึ้น ลงทุนก็ไปต่อยอด ได้กำไรกลับมาก็บริหารประเทศ ก็จะสร้างอะไรก็ได้ วันนี้ไม่มี ลงทุนได้ 10 เปอร์เซ็นต์ นอกนั้นเป็นงบบุคคลากร เป็นงบชดเชย งบใช้หนี้ เงินกู้ พันกันไปหมด วันนี้พยายามจะแกะ ๆ ออกมา ขอให้ท่านเข้าใจด้วย เพราะฉะนั้นอย่ามามองว่าจะมามีผลประโยชน์อะไร
 
เรื่องปัญหาแทรกซ้อนที่มีผู้พยายามก่อความวุ่นวาย พูดจาสร้างความขัดแย้ง ไม่เข้าใจ หรือแสร้งไม่เข้าใจให้กับประชาชน ขอให้ทุกคนมีสติ ฟังแล้วก็มีเหตุมีผลด้วย ที่ผ่านมา มักจะฟังแล้วก็เห็นดีเห็นงาม พวกนี้เชื่อทางนี้ นี่เชื่อทางนี้ แล้วประเทศชาติอยู่ตรงไหน จะเชื่ออย่างไรก็ได้ ประเทศชาติอยู่ตรงไหน เอาตรงนี้ก่อน วันนี้เราจะเดินประเทศไปก่อน
 
เรื่องการละเมิด มาตรา 112 อย่าไปนำสถาบันลงมา ท่านอยู่ของท่าน อยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง เมื่อมี 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งก็เอาชนะอีกฝ่ายหนึ่ง ต่างฝ่ายต่างก็ต้องหาเครื่องมือที่จะมาต่อสู้กัน ฝ่ายหนึ่งก็อาจจะใช้เงิน ใช้งบประมาณ หรือใช้การโฆษณาชวนเชื่อหรืออะไรก็แล้วแต่ อีกฝ่ายก็นำสถาบันมาสู้ ก็เลยทำให้ท่านต้องลงมา ดึงท่านลงมา และก็ผิดกฎหมาย วันนี้มีการยุยงปลุกปลั่น ทางโซเชียลมีเดีย ทางสื่ออะไรก็แล้ว ให้ลุกมาต่อต้าน คสช. ต่อต้านรัฐบาล ผมไม่ได้เกรงตรงนี้ แต่ผมเกรงประชาชนจะเดือดร้อน อย่าไปเชื่อเขา คนยุอยู่หรือเปล่า อยู่ในประเทศหรือเปล่า อยู่ที่ไหน อยู่ต่างประเทศหมด ถึงเวลามาก็ถูกจับถูกดำเนินคดี แล้วใครมาดูแลท่าน ถ้าเกิดมีเจ็บ มีตาย ถูกจับกุม มีการต่อสู้กัน ก็กลับมาวงจรเดิม เริ่มต้นใหม่ ไม่มีใครทำให้แล้ว
 
เรื่องยาเสพติด วันนี้เราอาจจะดีใจว่า เราจับกุมได้มากมีความเอาจริงเอาจังทุกหน่วยงาน ผมเป็นห่วง ผมไม่อยากจับแล้วภูมิใจ ผมต้องการให้ลด Demand ลดผู้เสพให้ได้ คนไทยทำไมจะเสพยาลดลง วันนี้คิดดูจับทีละ 10 ล้านเม็ด ๆ ทำหน้าดีใจ เสร็จกลับมา แล้วคนที่รอดมาจับไม่ได้อีกเท่าไหร่ มีไหม ไม่รู้ ถ้ารอดมาไม่ถูกจับอีกหละ แค่หลุดมาอีก 10 ล้าน จับได้ 30 หลุดมา 10 10 นี้ก็แย่แล้ว แล้วมากินของเขา เสพแล้วไม่กลัวหรอ ติดเชื้อเอดส์บ้าง อะไรบ้าง วันหน้า ไม่ได้หน้ากลัวหรอ หยุด Demand ลด Demand เทียมด้วย ล่อซื้อล่ออะไรมา ยิ่งล่อซื้อจับได้บ้าง จับไม่ได้บ้าง ตามไปอีกก็มากขึ้น นี้เขาเรียก Demand เทียม ทำ แก้ หา Demand ลด Demand ให้ได้ แล้วก็ทำทั้ง 3 ระบบ ป้องกัน ปราบปราม ฟื้นฟู ให้เป็นรูปธรรมอย่าให้กลับมาอีก วันนี้คนติดคุกอยู่มากที่สุดเลยยาเสพติด รกคุกด้วย สิ้นเปลือง ทำอย่างไรจะนำคนเหล่านี้มาอาชีพ และไม่ไปยุ่งเกี่ยวอีก ไม่อย่างนั้นก็วนกลับมา กลับมานี้ ติด เสียเวลา เสียเงิน เสียทองดูแล ปล่อยไปสักพัก เดี๋ยวก็กลับมาอีก จับคนเดิม แล้วก็วนกันอยู่อย่างนี้ ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย คนขายก็รวยขึ้นทุกวัน ๆ ให้เขาดูถูกเปล่า ๆ
 
เรื่องพลังงานต้องการให้ลงไปกระจายทุกภูมิภาค กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การไฟฟ้า หน่วยงานกำกับดูแล Regulator กำกับดูแลพลังงาน คิดให้เป็นระบบให้ได้ ผมไม่ต้องการให้มีโรงไฟฟ้าอยู่ที่โน้นที่นี่เป็นแห่ง ๆ อยู่ที่ภาคกลางเป็นหลักแล้วเดินสายส่งไปภาคใต้ ไปภาคเหนือ ภาคตะวันออก ผมไม่ต้องการอย่างนั้น ความมั่นคงพลังงานไม่มีเลย ถ้าไม่มีเหตุการณ์ความไม่สงบเรียบร้อย มีความขัดแย้งกันตามแนวชายแดน แล้วจะทำอย่างไร ต้องปิดไฟกันหมดหรืออย่างไร วันนี้เราก็ต้องซื้อพลังงานจากเพื่อนบ้านอยู่แล้ว ถ้าเรากระจายโรงไฟฟ้าไปได้ในทุกพื้นที่ ทุกภาคให้เพียงพอในแต่ละภาค ๆ ส่วนกลางก็เตรียมไว้เป็นกองหนุน คิดได้ไหม ไปสร้างโรงงานขนาดเล็กได้อย่างไร โรงงานที่ ไม่มีมลพิษได้อย่างไร ไปคิดตรงโน้นให้เป็นแผนผังออกมา ความต้องการเท่าไหร่ วันนี้ใครขอไปแล้ว แล้วไม่ผลิตไม่สร้าง สร้างไม่ได้ ก็ต้องยกเลิก เกิน 2 – 3  ปีมาแล้ว ควรจะสร้างได้แล้ว ก็ไม่ได้สร้าง คนใหม่จะเสนอมาแทนก็ไม่ได้ เพราะปริมาณการขอ หรือการใช้ไฟฟ้ามีเท่านี้ ของเก่าคุมไว้อยู่ ยอดคงไว้ แต่ไม่ได้สร้าง นี้รายได้ตัวใหม่ทั้งหมด เพราะฉะนั้นภายในปีนี้ต้องชัดเจน อย่ามาใต้โต๊ะ ผมไม่ต้องการ ต้องการให้เกิดโรงไฟฟ้าโดยเร็ว โรงไฟฟ้าขนาดเล็ก โรงไฟฟ้าที่ประจำพื้นที่ ประจำท้องถิ่น ไม่อย่างนั้นเราต้องไปลงทุนสายไฟฟ้าแรงสูงเท่าไหร่ วันนี้ก็ปักเสาไฟเข้าผ่านไร่นา ชาวบ้านก็ประท้วงกันไปหมด แล้วจะทำอย่างไร แล้วท่านจะสร้างจากตรงกลางไปทางใต้อีกหรือ ไปสร้างในพื้นที่โน้น ก็ต้องร่วมมือต้องเข้าใจ วันนี้อาจจำเป็นต้องใช้ถ่านหินหรือเปล่า จะดีหรือไม่ดี ถ่านหินสะอาดไหม ก็จะอยู่ที่คุณภาพของถ่านหินที่จะนำมาใช้ด้วย ถ่านหินบางอัน Pollution น้อย วันนี้เขานำถ่านหินที่มีคุณภาพ ไม่ใช่ไปเอาถ่านหินไม่มีคุณภาพมา ผมไม่ได้ว่าดีหรือไม่ดี สองคือขั้นตอนการผลิต เขาก็มีการขจัดมลพิษเหล่านี้แล้วก่อนที่จะปล่อยออกมาข้างนอก ท่านต้องไปดู ท่านจะค้านไปทุกเรื่องก็ไม่ได้ แต่พอไม่มีไฟท่านก็บอก ไม่มีไฟ ก็รัฐบาล ผมจะนำไฟมาจากไหน ถ้าไม่สร้างโรงไฟฟ้า ก็ไม่มีไฟ โรงไฟฟ้า ไม่ให้ แต่จะเอาไฟ ขัดกันไปหมด คือต้องการน้ำแต่ไม่ให้ขุด ไม่ให้ขุดบ่อ ขุดคลอง ทำอ่างเก็บน้ำ แล้วแต่ ไม่มีน้ำก็ร้องรัฐบาล แล้วอย่างนี้คือเรียกว่าไม่รับรู้ไปด้วยกัน ไม่ขับเคลื่อนไปด้วยกัน ทั้งรัฐบาล ภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน ถ้าคิดแล้ววางแผนล่วงหน้ากันไว้ให้ได้ ผมว่านี่คือความยั่งยืน ประชาชนเดือดร้อน เป็นห่วงที่ทำกินจัดระเบียบ ค้าขาย ถึงแม้ว่าจะดูดีท่องเที่ยว แต่เขาจะไปกินที่ไหนให้ดูด้วย ก็ดีบ้านเมืองสวยงาม แต่สงสารเขาด้วยจะทำอย่างไร
 
อีกเรื่องเป็นที่น่ายินดี นักวิจัยมหาวิทยาลัยมหิดล ได้รายงานผลวิจัยข้าวไทย มีประโยชน์มาก มีน้ำตาลน้อย เหมาะสมกับการให้คนไข้โรคเบาหวานรับประทาน หรือคนที่เป็นโรคอ้วน จะได้ไม่อ้วนมากขึ้น รับประทานได้ดี เหมาะสมกับคนไข้ บางสายพันธุ์เหมาะสม ในเรื่องของการช่วยดูแลผิวพรรณ ชะลอเหี่ยวย่น ต้องเร่งศึกษา หาพันธุ์ข้าว ที่เราเคยมีเป็นร้อย ๆ ชนิด ในประเทศไทยบางอย่างสูญหายไปแล้ว ต้องส่งเสริมขึ้นมา แล้วหาพื้นที่เพาะปลูก หาตลาดให้เขา เพิ่มมูลค่าให้เขา เป็นข้าวสุขภาพ ขอให้กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ได้ช่วยติดตามเรื่องนี้ พัฒนาข้าว มีข้าวสี ๆ ข้าวก่ำ ข้าวอะไรเหล่านี้มีตั้งหลายอย่าง ภาคใต้ก็มีหลายชนิด ข้าวที่ใช้ทำขนมจีนบ้าง ข้าวที่ทำขนมบ้าง มีความเหนียว ความอ่อนบาง ทำนองนี้ ผมต้องการให้คนไทยหรือประเทศไทยคิดใหม่ว่า ต้องการให้ไทยเป็นเมืองอาหารสุขภาพของโลก เพราะเรามีข้าว มีสมุนไพร มีธัญพืช พืชต่าง ๆ มากมายในประเทศไทย มีความหลากหลาย ถ้าเราโปรโมท เราสนับสนุนให้มีราคา ชักชวนชาวไร่ชาวนามาผลิต มีตลาดโลกน่าจะขายดี ขายดีกว่าขายข้าวอย่างเดียว ขายปริมาณอย่างเดียวราคาก็ตก ถ้าขายคุณภาพด้วย มีความแตกต่างด้วย มีการโปรโมทให้เขาเข้าใจว่า สิ่งนี้กินอย่างนี้ จะดีสำหรับโรคนี้ ข้าวนี้จะบำรุงอย่างนี้ บำรุงสมอง ต่างชาติเขาทำมาขายเราหมด เราก็ไปซื้อเขาหมดวิตามิน วันนี้ข้าวครบอยู่ในนี้ จมูกข้าว เราทำไมไม่ทำให้คนอื่นเขาไปทำหมด เรื่องยางยากหน่อยมีอย่างเดียวคือ จะทำอย่างไรให้เกิดความยั่งยืน การควบคุม Demand - Supplyและเรื่องของการใช้เป็นผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ เช่น ทำยางรถยนต์ แม้กระทั่งยางเครื่องบินอะไรต่าง ๆ มากมาย ยางรถ แต่เราต้องไปพึ่งโรงงานอื่น ๆ โรงงานเอกชนอะไรต่าง ๆ ที่มาลงทุนจากต่างประเทศ แต่เขาก็ใช้วัตถุดิบ วันนี้ยางจะไปทำยางอย่างเดียวก็ไม่ได้อีก ต้องไปทำหลาย ๆ ที่นอนยาง แม้กระทั่งที่ปูสนามกีฬาแข่งขันที่มีปัญหาอยู่ขณะนี้ ถ้านำยางเรามาทำ ตั้งโรงงานทำ ให้ถูกต้อง ให้ดี ในประเทศราคาก็ถูก ใช้วัสดุเราเอง ผลิตเองขายเอง รัฐก็ต้องวางแผนให้ถูก ทุกกระทรวง ทบวง กรม ไปคิดแบบนี้ ถ้าคิดไม่ได้เดี๋ยวหาคนมาคิดให้ใหม่
 
เรื่องมันสำปะหลัง อ้อย ปาล์ม ไปดู ผมพูดไปแล้วเรื่องของการไปเป็นพืชพลังงาน เป็นพลังงานในการกลั่น ในการอะไรก็แล้วแต่ ทั้งกากอ้อย ทั้งมันสำปะหลัง ทั้งปาล์มน้ำมัน วันนี้เราใช้ B5 ถ้าเราเพิ่มเป็น B20 เพิ่มปริมาณของน้ำมันปาล์มไปอีกสัก 15 เปอร์เซ็นต์ ก็เป็น B20 วันนี้ใช้แค่ 5 เดียว ถ้าใช้ถึง 15 ก็อีกสองเท่าที่ยังขาดอยู่ ถ้าเราปลูกปาล์มในขณะนี้ แล้วยังขาดอยู่ เท่าที่ดูตัวเลขในสื่อ ผมฟังวันนี้เขาพูดในทีวี เขาบอกว่ายังขาดอยู่ 2 แสนกว่าไร่ จะได้มาทดแทนข้าวที่เกินอยู่ หรืออะไรที่เกินอยู่ ยางก็เกิน ถ้านำมาเติมตรงนี้จะได้ไหม เหมาะสมไหม จะเป็นปัญหาต่อไปหรือเปล่า แต่ถ้าเราหวังปลูก เพื่อจะขายอย่างเดียว เป็นอย่างนี้หมด ครบระบบ ทั้งน้ำมันไบโอดีเซล B5 เป็น B20 ต่อไปก็เรื่องปั้มน้ำมันทั่วประเทศ ต่อไปก็เป็นเรื่องของการขนส่ง จะได้ครบระบบ พอทำที แต่ไม่รู้จะไปขายที่ไหน ให้รถใช้ รถไม่รู้จะไปเติมที่ไหน เป็นอย่างนี้มาตลอด วันนี้แก้ให้หมด ตอนนี้ส่งเสริมให้ใช้แก๊ส ใช้อะไร ก็ไม่มีที่เติมแก๊สในต่างจังหวัด ผมว่าไม่ใช่ ก็ทะเลาะกันอยู่แบบนี้
 
เรื่องน้ำท่วมน้ำแล้งซ้ำซากอยู่เหมือนเดิม รัฐบาลให้ความสำคัญแก้ปัญหาให้ยั่งยืน ต้องจัดการทั้งระบบ วันนี้เร่งไปแล้ว ทั้งกระทรวงมหาดไทย ทั้งกระทรวงทรัพยากรฯ ทั้งใครที่มีงบประมาณ กระทรวงเกษตรฯ ไปเร่งขุดบ่อบาดาล ขุดคลอง ลอกแหล่งน้ำธรรมชาติ สาธารณะ บางพื้นที่ทำได้เลย เพราะแห้งแล้ง ไปขุดบ่อไว้ ไม่มีน้ำก็รอฝนหน้า หรืออย่างไร หาทางนำน้ำมาจากไหนผมไม่รู้ วันนี้ก็สั่งการให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งทำฝนเทียมในบางพื้นที่ จริง ๆ แล้ว เลยเวลามาแล้ว แต่วันนี้ผมเห็นแล้ว บางทีมีมรสุม มีอะไรเข้ามา ดูกรมอุตุนิยมวิทยาเขาชี้มา ตรงไหนมีความชื้นไปลองทำดู อาจจะได้ฝนตกมาอีก ต้องเก็บน้ำให้มากที่สุดในขณะนี้ และน้ำไหนที่ท่วมอยู่ วันนี้ภาคใต้กำลังไหลลงไป ก็ช่วยเหลือไป พอถึงเวลาน้ำท่วมก็ระบายทิ้งกันหมด พอถึงคราวหน้า ที่ท่วมตรงนี้ก็แล้งอีกแล้ว เพราะน้ำทิ้งไปหมดแล้ว ทำไมไม่เก็บกักให้เป็นเรื่องเป็นราว อบต. อบจ. ท้องถิ่นช่วยกัน ขุดเล็กขุดน้อย จ้างแรงงานขุด ใช้แรงคนขุดบ้างก็ได้ ไปจ้างแม็คโครตัวเดียวก็ขุดได้แล้ว ไม่เห็นต้องไปจ้างใครให้เป็นเรื่องเป็นราว จ้างบริษัทมาทำ เสียเวลา เสียเงินมาก ๆ ผมว่าต่อไปองค์กรส่วนท้องถิ่น มีเครื่องไม้เครื่องมืออะไรบ้างหรือเปล่า เงินทองมีก็ไปดู ดีกว่านำเงินไปจ้างคน ไปจ้างบริษัท แล้วก็มีปัญหาความโปร่งใส ถ้ามีเครื่องมือพวกนี้ มีแม็กโคร มีรถเกรด เกรดได้นิดหน่อยตัวเล็ก ๆ ก็พอแล้ว ทุกที่ไปทำเอง สิ่งไหนต้องจ้างก็ต้องจ้าง อันไหนทำเองก็ทำเอง ช่วยประชาชน ผมว่ายั่งยืนกว่า ลองคิดดู
 
ในปีหน้าเตือนอีกครั้งหนึ่งว่า น้ำธรรมชาติมีน้อยมาก เพราะว่าฝนปีนี้ ไม่มากนักมรสุมก็น้อย น้ำในเขื่อนมีจำนวนน้อยมาก ๆ ใช้ได้ประมาณสัก 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง นอกนั้นจากที่เหลือประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ต้องเก็บไว้ดันน้ำเค็มที่จะเข้ามาในฝั่ง ผมพูดไปแล้ว ครั้งที่แล้ว ช่วยกัน หันมาปลูกพืช ใช้น้ำน้อย โดยเฉพาะลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ผ่านมาดูปลูกกันได้หลายรอบ เดี๋ยวข้าวนาปี ข้าวนาปรัง ปลูกเข้าไป 3 – 4 รอบ และน้ำก็ต้องทุ่มเรื่องน้ำลงไป พอปลูกแล้วเสียหาย รัฐต้องมาชดเชย ผมว่าไม่ได้ต้องควบคุมกันให้ดี ชาวนาจะทำอย่างไร ถ้าเขาปลูกข้าวไม่ได้ เขาขายข้าวไม่ได้จะเป็นอย่างไร วันนี้ผมบอกให้ไปจ้างชาวนาชาวไร่ที่ไม่มีงานทำ บอกแล้วผมไม่ทรมานคนแก่ ชาวนาแก่ ๆ จะมารับจ้างได้อย่างไร ทำไมคิดอย่างนั้น ไม่เข้าใจ ลูกหลานก็มาทำ ก็ให้พ่อแม่อยู่บ้านเฝ้าบ้านไป ลูกหลานก็มาทำ รับจ้างนำเงินมาเลี้ยงพ่อแม่ คือคิดทุกอย่างมีปัญหาหมด ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว กระทรวงศึกษาฯ ผมพูดไปแล้ว เป็นด็อกเตอร์ ด็อกเตอร์การเกษตร เลี้ยงสัตว์อะไรก็แล้วแต่ รู้ทั้งระบบ ไม่ใช่หวังพึ่งรัฐบาลอย่างเดียว รัฐบาลก็พอดีตายพอดี ทำอะไรไม่ได้
 
วันนี้ใช้เวลามากพอสมควร ก็ขอโทษ รบกวนเวลาพอสมควร แต่ให้รู้ถึงเจตนาของพวกเรา ทั้งรัฐบาล และส่วนราชการต่าง ๆ ก็เต็มที่ ทุ่มเทเต็มที่ ที่ผ่านมาได้มีการประชุมร่วมกันไปแล้ว ทั้งหมดทั้ง คสช. ทั้งรัฐบาล ทั้งกระทรวง ทบวง กรม ต่อไปนี้ทุก 3 เดือน ต้องมีผลงานปรากฎ ต้องแถลงมา ต้องมีภาพ มีอะไรให้ดู แลกเปลี่ยนการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และบูรณาการนี่สำคัญที่สุด แยกกันทำก็ไม่เกิดผล วันหน้าก็กลับมาเหมือนเดิม วันนี้ต้องขอร้องอีกครั้งหนึ่งความขัดแย้ง เลิกสักที ๆ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชชินีนาถ ทรงแข็งแรงมากขึ้น อย่าให้ท่านต้องไม่สบายพระทัยอีกเลย ถนอมพระองค์ไว้บ้าง พวกเราก็เป็นคนในแผ่นดินนี้ แผ่นดินที่เป็นไทย เพราะฉะนั้นผมไม่ต้องการความชื่นชม ไม่ต้องการคำชมเชย จากใครก็แล้วแต่ ผมถือว่าผมได้ภูมิใจที่ผมมีส่วนในการทำให้ชาติบ้านเมืองปลอดภัย ให้ประชาชนคนไทยทุกคนปลอดภัย ผมต้องการแค่นั้นเอง และมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต ไม่สร้างความขัดแย้ง ได้รับความเชื่อถือ ได้รับเกียรติยศจากคนต่างชาติ เขาต้องการมาเที่ยวบ้านเรา อย่าทำให้บ้านเราเป็นสนามรบอีกเลย เหมือนกับประเทศอื่น ๆ เขาเป็นอยู่วันนี้ พอได้แล้ว ขอร้องกัน ช่วยกันปฏิรูป แล้วรอดูว่าใครจะมาเป็นอยู่ในคณะไหน ๆ ค่อยว่ากันอีกที กำลังทำอยู่ เป็นเกียรติที่ทุกท่านได้กรุณาสมัครมา ถ้าไม่ได้ก็เสียใจ ผมเข้าใจ ตั้งใจแล้วไม่ได้ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน แต่นำมาช่วย ก็อาจจะเป็นสภาฯ รอง ผมให้เกียรติทุกท่านอยู่แล้ว อย่าไปกังวล ท่านจะได้คิดกันช่วยกันเข้ามา อย่าไปตีอยู่ข้างนอก แล้วก็ไม่รวมมือ ไปตั้งเวทีคู่ขนาน เขามีช่องทางเข้ามาให้ถูกต้อง มีอะไรไหม ถ้ามีอะไรถามมา คราวหน้าผมจะได้ตอบท่านได้หมดทุกเรื่อง ขอบคุณ สวัสดี
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net