Skip to main content
sharethis
เครือข่ายสลัม 4 ภาค ร่วม ขปส. ยื่นหนังสือถึง ‘ประยุทธ์’ ขอจัดงานรณรงค์วันที่อยู่อาศัยโลก 7 ต.ค.นี้ พร้อมเชิญมาแถลงมาตรการสร้างความมั่นคงในที่อยู่อาศัย พัฒนาคุณภาพชีวิตคนจนเมือง ร้องยุติไล่รื้อ-ดำเนินคดีชาวบ้าน
 
 
29 ก.ย. 2557 เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. เครือข่ายสลัม 4 ภาค และขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ นำโดย นายจำนง หนูพันธ์ ประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาค และนายประยงค์ ดอกลำไย ที่ปรึกษา ขปส. ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานรณรงค์วันที่อยู่อาศัยโลก ประจำปี 2557 ในวันที่ 7 ต.ค. ที่บริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล
 
นายจำนง กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติกำหนดให้วันจันทร์แรกในเดือนตุลาคมองทุกปีเป็นวันที่อยู่อาศัยโลก เพื่อรณรงค์ให้นานาประเทศตระหนักถึงปัญหาการไร้ที่อยู่อาศัยและหามาตรการแก้ปัญหาดังกล่าว และอยากจะแจ้งว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองแต่อย่างใด โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากรัฐบาล
 
ประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาค กล่าวด้วยว่า กิจกรรมของกลุ่มฯ เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลกจะมีการยื่นสารจากคนจนเมืองถึงผู้แทนองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และเดินรณรงค์จากยูเอ็นมารับฟังมาตรการของรัฐบาลในการสนับสนุนการสร้างความมั่นคงในที่อยู่อาศัย เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
 
แถลงการณ์ของเครือข่ายสลัม 4 ภาค มีเนื้อหา ดังนี้
 
 
ผู้สื่อข่าวรายงานรายงานด้วยว่า ตัวแทนเครือข่ายสลัม 4 ภาคและ ขปส.ได้เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อย (คสช.) ผ่านนางสุปราณี จันทรรัตน์วงศ์ ผอ.ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เชิญมาแถลงมาตรการในการสนับสนุนการสร้างความมั่นคงในที่อยู่อาศัย และการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนจนเมือง พร้อมทั้งชี้แจงแนวทางการแก้ปัญหา ในวันที่ 7 ต.ค. 2557 เวลา 11.00 น. ณ ข้างทำเนียบรัฐบาล ประตู 5 พร้อมยืนหนังสือร้องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของ ขปส.

 

 
๒๙ กันยายน ๒๕๕๗
 
เรื่อง การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน
กราบเรียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
สิ่งที่ส่งมาด้วย ข้อมูลปัญหาและข้อเสนอการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)
 
เนื่องจากขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมประกอบด้วยประชาชนยากจน ๙ เครือข่าย คือ ๑.สมาพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) ๒.เครือข่ายสลัมสี่ภาค ๓.เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคม การเมือง (คปสม.) ๔.เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด (คปบ.) ๕.สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) ๖.เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.) ๗.สมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูน ๘.เครือข่ายเกษตรพันธสัญญา ๙.เครือข่ายโรงไฟฟ้าชีวมวลและเหมือง เครือข่ายฯ ต่างๆ นี้ได้รวมตัวกันเพื่อแก้ไขปัญหามาอย่างยาวนาน มีการเจรจากับทุกรัฐบาลที่ผ่านมาแต่ไม่ค่อยมีความคืบหน้าเท่าที่ควร ทำให้สมาชิกซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศราว ๕๐,๐๐๐ ครอบครัวซึ่งเกือบทั้งหมดมีวิถีชีวิตอยู่ในภาคการเกษตรกับแรงงานทั้งในเมืองและชนบทประสบกับปัญหาคุณภาพชีวิตอย่างหนักทั้งจากการขาดปัจจัยการผลิต การเข้าไม่ถึงปัจจัยพื้นฐานและการบริการจากภาครัฐ รวมทั้งได้รับผลกระทบจากนโยบายของรัฐเป็นต้น
 
เมื่อคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศและต่อมามีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีและแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี และเมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๗ คณะรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งมีนโยบายที่สำคัญ และจะเป็นคุณูปการต่อคนจนทั้งประเทศทันทีถ้าปฏิบัติได้จริงเช่น หมวดที่ ๙ การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ข้อ ๙.๓. พัฒนาระบบการบริหารจัดการที่ดินและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ..ให้ประชาชนอยู่กับป่ าได้ ปรับปรุงกลไกภาษีเพื่อกระจายการถือครองที่ดิน เร่งรัดจักสรรที่ดินให้ผู้ยากไร้ รับรองสิทธิร่วมในการจัดการที่ดินของชุมชน กำหนดรูปแบบที่เหมาะสมของธนาคารที่ดิน เพื่อให้เป็นกลไกในการนาทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด หมวด ๑๑ การปรับปรุงกระบวนการยุติธรรม ข้อ ๑๑.๕ ปรับปรุงช่วยเหลือทางกฎหมายค่าใช้จ่ายแก่ประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม.. ส่งเสริมกองทุนยุติธรรม.. เยียวยาผู้บริสุทธิ์หรือผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่เป็นธรรม เป็นต้น
 
จากคำสั่ง คสช. ที่ ๖๔ และ ๖๖ / ๒๕๕๗ รวมทั้งนโยบายที่ได้แถลงต่อสภาฯ ที่มุ่งหวังปกป้องทรัพยากรป่าไม้ และมุ่งเน้นการดำเนินการกับนายทุนผู้บุกรุก และคุ้มครองผู้ยากไร้ ไม่ให้ได้รับผลกระทบในทางปฏิบัติเมื่อหน่วยงานในพื้นที่ได้เข้าไปรื้อถอนทำลายทรัพย์สินของราษฎรในหลายพื้นที่แทนการใช้แนวทางตามที่ได้แถลงฯ ซึ่งทำ ให้เห็นช่องว่างระหว่างนโยบายที่สร้างสรรค์กับการปฏิบัติที่ตรงข้าม
 
ดังนั้นขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ซึ่งเป็นประชาชนคนยากจนได้เล็งเห็นเจตนาและความมุ่งมั่นของรัฐบาลและคณะรัฐมนตรีในการมุ่งขจัดแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความขัดแย้ง เพื่อให้เกิดความปรองดองขึ้นในสังคมอย่างแท้จริง จึงเห็นควรสนับสนุนให้มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อให้คำแถลงและนโยบายของรัฐบาลมีความสัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมาย ขอให้ท่านนายกฯ โปรดมีบัญชาไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
 
๑. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยุติการดา เนินการใดๆที่ส่งผลกระทบต่อวิถีการดำเนินชีวิตอันปกติสุขรวมทั้งชะลอการดา เนินคดีกับชาวบ้าน ตามข้อมูลที่แนบมา
 
๒. ให้รัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนา ข้อเสนอทางนโยบาย ข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนและการแก้ไขปัญหารายกรณีไปพิจาณากำหนดแนวทางแก้ไขปัญหา โดยจัดให้มีการประชุมเพื่อหาข้อยุติและกำหนดกลไกการติดตามการแก้ไขปัญหาในระยะยาวร่วมกันระหว่างรัฐมนตรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและตัวแทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในวันอังคารที่ 7 ตุลาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๐๐ น. ทำเนียบรัฐบาล
 
อนึ่งเนื่องจากในวันที่ 7 ตุลาคม ๒๕๕๗ เป็นวันที่อยู่อาศัยโลก ซึ่งเครือข่ายประชาชนได้จัดกิจกรรมการรณรงค์เป็นประจาทุกปี และในโอกาสนี้เครือข่ายประชาชนใคร่ขอความกรุณาจากท่าน เพื่อรับฟังนโยบายและแนวทางแก้ไขปัญหาของประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติด้วย จักเป็นพระคุณยิ่ง
 
จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดพิจาณาดา เนินการ
 
ขอแสดงความนับถืออย่างสูง
 
........................................................ผู้แทน ขปส. ภาคเหนือ
(นายประยงค์ ดอกลาใย)
 
........................................................ผู้แทน ขปส. ภาคอีสาน
(นายเหมราช ลบหนองบัว)
 
........................................................ผู้แทน ขปส. ภาคใต้
(นายบุญ แซ่จุ่ง)
 
........................................................ผู้แทน ขปส. ภาคกลาง
(นายจานง หนูพันธ์)
 
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)
 
 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net