เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘คืนความจริง’ โพสต์วิดีโอคลิปชื่อ ‘พันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ : "ข้าพเจ้าขอกล่าวหา" ("I accuse...!")’ เป็นการกล่าวถึงเหตุการณ์สลายการชุมนุม เม.ย.- พ.ค. 53 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่นายพันศักดิ์ ได้สูญเสียลูกชายของตนคือ นายสมาพันธ์ ศรีเทพ หรือ "น้องเฌอ" อายุ 17 ปี ซึ่งถูกยิงบริเวณถนนราชปรารภ ช่วงสายวันที่ 15 พ.ค.53

นอกจากนี้ในวิดีโอคลิปนายพันศักดิ์ ยังกล่าวโต้แย้งข้อกล่าวหาว่าถ้าไม่ออกจากบ้านก็จะไม่มีใครเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ โดยยกกรณีนายธนากร ปิยะผลดิเรก ที่ถูกยิงเสียชีวิต บริเวณ คอนโด เดอะคอมพลีท ชั้น 27 ตรงข้ามจุดที่นายสมาพันธ์ถูกยิง ช่วงเย็นของวันเดียวกัน

นายพันศักดิ์ กล่าวถึงการทำรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ด้วยว่า กองทัพอ้างว่าออกมากระทำการรัฐประหารเพื่อหยุดยั้งการเผชิญหน้าของทุกฝ่าย แต่กองทัพเองกลับระงับยับยั้งกระบวนการยุติธรรม ปิดหู ปิดตา ปิดปาก ประชาชน ไม่ให้วิพากษ์วิจารณ์ จับประชาชนที่ออกมาต่อต้านการรัฐประหารคุมขังคนและ เรียกเข้าไปรายงานตัว แต่กลับยังอ้างว่าทั้งหมดนี้ทำไปเพื่อคืนความสุขให้กลับประชาชน สิ่งเหล่านี้จะทำให้ความขัดแย้งร้าวลึกจนยากที่จะเยียวยา

“มีแต่การคืนความจริงและความยุติธรรมให้กับสังคมเท่านั้น ที่จะยุติความขัดแย้งครั้งนี้ได้ สังคมควรจะจดจำเหตุการณ์ครั้งนี้ไว้ ในฐานะโศกนาฏกรรมของชาติ เราไม่ควรจะลืมเลือนหรือหลงเชื่อไปตามอคติ ที่กองทัพพยายามจะชี้นำ เมื่อความจริงไม่ปรากฏความยุติธรรมไม่บังเกิด แล้วเราจะปรองดองกันได้อย่างไร” นายพันศักดิ์ กล่าว

เฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘คืนความจริง’ โพสต์ด้วยว่า เช้าวันที่ 15 พฤษภาคม 2553 ท่ามกลางปฏิบัติการ ขอคืนพื้นที่ ภาพของความรุนแรง ด้วยการใช้กระสุนจริง ปรากฏออกมาอย่างไม่ขาดสาย หนึ่งในภาพแห่งคามทรงจำ คือภาพมุมสูง บริเวณถนนราชปรารภ หน้าซอยรางน้ำ มีชายผู้หนึ่งนอนหงาย ใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น ข้างกายมีเลือดไหลเป็นทางยาว เราทราบต่อมาว่าชายผู้นี้คือ นายสมาพันธ์ ศรีเทพ หรือ "น้องเฌอ" อายุ 17 ปี บุตรชาย ของนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ

ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ ร่วมกับญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ เมษา-พฤษภา 2553 ร่วมกันทางถามความรับผิดชอบและนำผู้สั่งการมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ให้จงได้

พันศักดิ์ เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนของกลุ่มญาติ เข้าร่วมเวทีอภิปรายวิชาการ การแสดงทางวัฒนธรรม

ตลอดระยะเวลา 4 ปี แม้ว่าความยุติธรรมจะอยู่ห่างไกล และยิ่งห่างไกลเข้าไปทุกทีเมื่อความความพยายามจะนิรโทษกรรมแบบ “เหมาเข่ง” จากพรรคเพื่อไทย

ดูจะเป็นตลกร้ายที่ความผิดพลาดจากความพยายามนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง จะนำมาสู่การเพลี่ยงพล้ำทางการเมืองของรัฐบาลเพื่อไทย และเปิดทางให้คณะทหารที่มีส่วนร่วมในการสังหารประชาชนเมื่อเดือนเมษา – พฤษภา 2553 ช่วงชิงโอกาสเข้ามารัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557

มิถุนายน 2557 พันศักดิ์ ได้กลับมา ณ ที่เกิดเหตุ อีกครั้ง ครั้งนี้มิใช่มาเพื่อรำลึกความสูญเสียที่ของบุตรชาย ดังที่เคยกระทำมา แต่มาครั้งนี้ เขามาเพื่อกล่าวหา

ติดตามบทสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ของ 'คืนความจริง' ได้ที่นี่