Skip to main content
sharethis

ศาลฎีกาอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวสนธิ ลิ้มทองกุลกับพวกคดีผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์ ประกันตัว 12 ล้าน "สนธิ" เผย 19 วันในเรือนจำมีความสุขดีแค่เปลี่ยนที่นอน เห็นคนจนติดคุกเยอะมาก เพราะถูกทนายบอกให้รับสารภาพ ชี้กรมราชทัณฑ์คือถังขยะสุดท้ายที่สังคมสร้างปัญหาขึ้นมา และข้าราชการที่ทำงานในเรือนจำถูกละเลย

สนธิ ลิ้มทองกุล ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว หลังได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำคลองเปรม (ที่มา: คลิปจากมติชนทีวี)

26 ส.ค. - เมื่อวานนี้ (25 ส.ค.) ศาลฎีกามีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กับพวก  กรณีถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกฐาน พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เป็นเวลา 20 ปี ทั้งนี้ทนายยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวรายละ 12 ล้านบาท ศาลเห็นว่าระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ไม่ปรากฏว่าจำเลยมีพฤติการณ์หลบหนีมาก่อน จึงเห็นสมควรอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ทั้งนี้ตามรายงานของสำนักข่าวไทย

โดยหลังการปล่อยตัวที่เรือนจำคลองเปรม นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ภรรยานายสนธิ และผู้สนับสนุนนายสนธิไปรอต้อนรับ

โดยในเวลา 22.20 น. นายสนธิ ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ และให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว โดยคำให้สัมภาษณ์ที่ปรากฏใน เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ ระบุว่า "ผมมีความสุขดีอยู่ในเรือนจำ ผมแค่เปลี่ยนที่นอนเฉยๆ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทุกคนดีกับผมหมด ทุกคนเป็นห่วงอยู่อย่างเดียว ว่ามีการว่าจ้างใครมาทำร้ายผมหรือเปล่า เพราะฉะนั้นแล้วผมไม่ได้ไปไหนเลยแม้แต่นิดเดียว ก็พอลงจากตึกแล้วก็ไปที่แดนควบคุมซึ่งเป็นที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นั่งอยู่ในนั้นทั้งวัน มีคนมานั่งด้วยเพราะเกรงว่าจะมีคนวางงานให้มาทำร้ายผม เพราะที่นั่นก็ร้อยพ่อพันธุ์แม่ทุกคน ก็ขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เข้าไปครั้งนี้ก็ได้เห็นข้อเท็จจริงหลายอย่าง ซึ่งผมดีใจที่ผมได้อยู่ 19 วัน"

"ผมเรียนรู้ชีวิตคนเยอะมาก และผมรู้ว่าปัญหาของชาติบ้านเมืองนั้นมันไม่ใช่แก้ที่คุก มันแก้ที่รัฐบาล มันแก้ที่ต้นน้ำคือตำรวจ ถ้าตำรวจไม่จับผู้ต้องหาแบบเหวี่ยงแห ผู้ต้องหาก็จะไม่เยอะขนาดนี้ ผมเห็นคนจนอยู่เยอะเลย ถูกคดีความ แล้วศาลตั้งทนายความมาให้ ทนายความนั้นได้ค่าว่าจ้างแค่พันบาท เพราะฉะนั้นแล้วทนายความต่างๆ ก็จะช่วยว่าความให้กับลูกความซึ่งเป็นจำเลย โดยว่าความว่าสารภาพไปเถอะ เพื่อจะรับเงินพันบาทอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นแล้ว คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วเมื่อฟังเหตุการณ์แล้วเขาไม่น่าจะต้องมาติดคุก ถ้าเขามีทนายความที่ดี นี่คือความยุติธรรมขั้นต้น ซึ่งประชาชนไม่ได้รับเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นแล้วนี่คือสิ่งที่ผมได้เรียนรู้"

"สิ่งที่ผมเรียนรู้ต่อมาก็คือว่า ราชทัณฑ์คือถังขยะสุดท้ายที่สังคมสร้างปัญหาขึ้นมา ตำรวจสร้างปัญหาขึ้นมา รัฐบาลสร้างปัญหาขึ้นมา แล้วเอามาใส่ถังขยะ แล้วก็บอกราชทัณฑ์ให้สร้างคุกเพิ่มขึ้น ผู้ต้องหา 290,000 คน มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์หมื่นกว่าคน ทำงานเป็นทั้งตำรวจ ทำงานเป็นทั้งนักจิตวิทยา นักการศึกษา ทำงานเป็นทุกอย่าง ที่เกี่ยวกับหน้าที่ที่ทำให้ผู้ต้องหาดีขึ้น แต่ว่าเงินเดือนต่ำ เบี้ยเลี้ยงน้อย ชีวิตส่วนตัวไม่มีเลย ต้องเข้าเวรตลอดเวลา ผมสนิทสนมกับพวกเขามาก คุยจนทราบถึงปัญหาส่วนตัวเขาหลายอย่าง ซึ่งแต่ละคนบอกว่า การเป็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คือการตกนรก เพราะฉะนั้นแล้ว จริงๆ แล้วเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คือคนติดคุกเหมือนผม แต่ต่างกว่าที่ว่าสามโมงครึ่งผมต้องขึ้นตึกเข้าห้องนอน ส่วนเขานั้นยังเดินไปเดินมาได้ แต่ก็ออกนอกคุกไม่ได้"

"เพราะฉะนั้นแล้ว ผมอยากจะให้ทุกคนเข้าใจสักนิดหนึ่งว่า กรมราชทัณฑ์และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นั้นเป็นหน่วยงานที่ถูกละเลยมากอย่างมหาศาล ผู้ต้องขังส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผู้ต้องขังซึ่งโดนคดียาเสพติด คดีผิดทางเพศ และก็คดีฉ้อโกง ก็นั่งคุยอยู่ 3-4 คน คนหนึ่งก็บอกว่า ผมโดนคดียาเสพติด ประหารชีวิต ตอนนี้ลดโทษตลอดชีวิต ตอนนี้เหลือ 30 กว่าปี อีกคนก็บอกว่า ผมโดนคดีฆ่าคนตาย ผมยิงคนตาย 3 คนด้วยความแค้นที่เยาวราช โดนประหารชีวิต เหลือตลอดชีวิต อีกคนก็บอกว่า ผมก็โดนคดีปล้นรถขนเงินที่โคราช ถ้าจำได้หลายปีมาแล้ว ปรากฎว่าเขาบอก พี่โดนอะไร บอกผมโดนคดีเอาบริษัทไปค้ำประกันอีกบริษัทหนึ่ง เขาก็บอก โอโหพี่ ของพี่นี่มันเด็กน้อยเหลือเกินเมื่อเทียบกับพวกผม แล้วพี่เข้ามาได้ยังไง คดีแบบนี้ ใช่ไหม ก็มีแค่นั้นเอง ขอบคุณมากครับทุกคน"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net