แกนนำผู้ปลูกลำไยเผยแม่ทัพภาค 3 เรียกประชุมอีก 23 ส.ค.นี้ เตรียมใช้ พ.ร.บ.ราคาสินค้า

แกนนำเครือข่ายผู้ปลูกและผลิตลำไยพอใจผลการหารือที่กรุงเทพฯ เผยแม่ทัพภาคที่ 3 เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีก 23 ส.ค.นี้ อีกครั้ง เตรียมใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ กับผู้ประกอบการที่กดราคาลำไย สำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเตรียมแก้ปัญหาปีหน้า ชดเชยให้เกษตรกรโค่นลำไยอายุเกิน 20 ปี แก้ปัญหาล้นตลาด
 
21 ส.ค. 2557 แกนนำเครือข่ายผู้ปลูกและผลิตลำไยภาคเหนือรายหนึ่งที่ได้เข้ากรุงเทพไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมานั้น ได้เปิดเผยว่าหลังการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้วนั้น ได้ข้อสรุปร่วมกันว่าจะมีการนัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 23 ส.ค. นี้ โดยให้แม่ทัพภาคที่ 3 สั่งการให้กับจังหวัดเชียงใหม่นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมหารือกำหนดทิศทางราคาลำไยให้ได้ราคาตามที่เคยทำข้อตกลงกันไว้  และหาก "ล้ง" หรือผู้ประกอบการรับซื้อลำไยรายใหญ่ไม่ปฎิบัติตามอีกก็จะใช้มาตรการทางกฎหมาย โดยใช้จะบังคับใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 อย่างเข้มงวด
 
แกนนำเครือข่ายผู้ปลูกและผลิตลำไยภาคเหนือรายนี้ยังระบุว่ามั่นใจกับการใช้มาตรการทางกฎหมาย และในขณะนี้ได้แจ้งให้กับสมาชิกงดเก็บลำไย 2 วันเพื่อรอการประชุมในวันที่ 23 ส.ค. นี้ก่อน ซึ่งประมาณการว่าลำไยที่เหลือของเกษตรกรน่าจะเหลือประมาณร้อยละ 30 และยังติงว่าที่ผ่านมาหน่วยงานรัฐประเมินตัวเลขกันเองเป็นข้อมูลที่ไม่แน่นอน
 
ด้านสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 6 ระบุถึงสถานการณ์ผลผลิตลำไยปี 2557 ว่าจากการติดตามสถานการณ์ การเก็บเกี่ยวผลผลิตลำไยในฤดูของ 8 จังหวัดภาคเหนือ โดยศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจผลไม้ภาคเหนือ ของสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 6 จังหวัดเชียงใหม่ ล่าสุดมีการเก็บเกี่ยวผลผลิตและออกสู่ตลาดไปแล้ว จำนวน 407,672 ตัน คิดเป็นร้อยละ 76.80 ของผลผลิตทั้งหมด 530,802 ตัน
 
ในส่วนของสถานการณ์ราคาลำไยที่ตกต่ำในปีนี้ ขณะนี้กำลังเตรียมมาตรการไว้รองรับในปีหน้า ได้แก่ ให้เกษตรกรเข้าร่วมลดพื้นที่การผลิต โดยให้ตัดต้นลำไยที่มีอายุมากกว่า 20 ปี และจะมีการชดเชยให้บางส่วน นอกจากนี้ จะมีการทำสวนต้นลำไยใหม่ ใช้เวลา 2 ปี ถึงจะเก็บผลผลิตได้ จะแบ่งสัดส่วนออกนอกฤดูออกเป็นร้อยละ 40 ส่วนร้อยละ 60 ในฤดูนั้น จะรับสมัครเกษตรกรทำลำไยคุณภาพ เกรดเอเอ และ เกรดเอปริมาณไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ให้สหกรณ์ดูความเข้มแข็งของกลุ่ม ให้มีฝ่ายการตลาด ให้สหกรณ์ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน มีทุนดำเนินการสร้างโรงอบเอง โดยจะมีการเสนอไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถ้าเป็นไปได้จะขอห้องเย็น เพื่อสำรองเก็บผลผลิตลำไย ขอให้กระทรวงพาณิชย์เปิดตลาดใหม่ เพื่อหาการซื้อขายล่วงหน้ามาให้วิสาหกิจชุมชน
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท