Skip to main content
sharethis

สมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ร่วมด้วยผู้ประกอบการดิจิตอลทีวี ขู่ ‘กสทช.’ อีก 2 เดือนหากเรตติ้งยังไม่มา พร้อมใจไม่จ่ายค่าโครงข่าย ค่าสัมปทาน และเลิกผลิตรายการทันที

6 ส.ค.2557 ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า จากกรณีที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ดำเนินการจัดการประมูลเพื่อออกใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ (โทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล) จำนวน 24 ช่อง ซึ่งแนวทางของ กสทช. ที่เคาะราคาคูปองแลกกล่องทีวีดิจิตอล ราคา 690 บาท ไม่สะท้อนข้อเท็จจริงของราคาในการผลิตเทคโนโลยีกล่องที่รองรับความคมชัดแบบ HD คอนเฟิร์มราคากลางของคูปองควรจะอยู่ที่ 1 พันบาท และควรออกคูปองให้เร็วที่สุด เพราะส่งผลแผนดิจิตอลทีวีทั้งประเทศล่าช้า

กระทั่งล่าสุดสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ร่วมด้วยผู้ประกอบการดิจิตอลทีวี สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย และสมาคมมีเดียเอเยนซี่ อาทิ ช่อง 3 HD, ช่อง PPTV, ช่อง ONE, ช่อง GMM CHANNEL, ช่อง 7 HD, ช่องไทยรัฐทีวี, ช่อง ทรู โฟร์ยู, ช่อง 8 ก็ได้รวมตัวออกมาเคลื่อนไหว โดยได้นัดสื่อมวลชนแถลงข่าวเพื่อยื่นคัดค้านราคาคูปอง 690 บาท ณ ห้องเทวกรรมรังรักษ์ ชั้น 2 สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต ระบุ กสทช. มีเงินอยู่ในมือถึง 5 หมื่นกว่าล้านบาท แต่ทำไมผลักภาระให้ประชาชน อีกทั้งยังทำงานล่าช้า ไร้ความจริงใจ จนผู้ประกอบการต่างได้รับผลกระทบขาดทุนยับ เตรียมยื่นเรื่องร้อง คสช. ต่อไป แนะหาทางแก้วิกฤตด้วยแผนประชาสัมพันธ์ และให้เป็นวาระแห่งชาติ ขู่อีก 2 เดือนหากเรตติ้งยังไม่มา พร้อมใจไม่จ่ายค่าโครงข่าย ค่าสัมปทาน และเลิกผลิตรายการทันที

จำนรรค์ ศิริตัน นายกสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ได้เผยว่า “ตอนนี้คูปองยังเงียบ เพราะความคิดเห็นของ กสทช. ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กสทช. ปัญหาที่แตกแยกออกไป แต่ผู้รับเคราะห์คือผู้ประกอบการอย่างเราๆ ก็อยากจะวิงวอนที่จะให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อที่จะช่วยกันผลักดันให้เราประกอบกิจการกันไปได้ ไม่ล้มหายตายจากกันไปเสียก่อน เพราะงานชิ้นนี้เป็นงานเปลี่ยนถ่าย ซึ่งถือเป็นมาสเตอร์พีซของเทคโนโลยีในประเทศนี้ โดยคณะนี้ ถ้าคุณผลักดันให้มันเกิดความสำเร็จได้เราก็มีความสำเร็จร่วมกันหมด นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะออกมาเคลื่อนไหว เพื่อทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับประชาชนให้มากที่สุดเราจำเป็นต้องทำ คนอาจจะพูดว่าจะออกมาทำไม ยิ่งทำนี้ยิ่งได้แจกช้า ช้าดีกว่าไม่ถึง ช้าดีกว่าไม่ใช่ ถามว่าเงินห้าหมื่นกว่าล้านเป็นงบประมาณไม่ใช่น้อยๆ แต่ที่ทำออกไปแล้วเกิดการทุจริต คดโกง เกิดการไม่ถึงมือประชาชน หรือถึงมือประชาชนแล้วมันไม่มีค่า เป็นภาระให้เขาอีก เราจึงจำเป็นต้องเคลื่อนไหวครั้งสุดท้าย จะไปอยู่ที่ คสช. ซึ่งจะเป็นผู้พิจารณา หันมาฟังบ้างว่าพวกเรามีปัญหาอะไร”

“ตอนนี้มีผู้ซื้อกล่องจริง 7 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเขาก็จะรอคูปอง แต่คูปอง 690 ได้กล่องแต่ต้องเสียเงินเพิ่มซื้อเสาซื้ออะไร ก็จะมีคำถามตัวใหญ่ๆ เลยว่าเขาจะยอมลงทุนตรงนั้นไหม โดยเฉพาะต่างจังหวัด เขาหวังว่าเขาจะได้รับการสนับสนุนโดยที่ไม่ต้องเสียเงินมาก เมื่อไม่มีผู้ชมไม่มี สปอนเซอร์ก็ไม่เข้า เราก็ไม่มีรายได้ รายจ่ายวันละหลักล้าน แต่รายได้หลักหมื่น มันก็อยู่ได้อีกนานเท่าไหร่ล่ะค่ะ ตอนนี้ยังอยู่ได้เพราะมีธนาคารให้กู้ แต่ถ้าอีก 2 เดือนธนาคารคงไม่ให้กู้แล้ว ผู้ประกอบการจะทำเช่นไร เราไม่อยากให้เกิดการล้มหายตายจากกันไป ฉะนั้นเราอยากจะออกมาเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค เราได้เสนอไปแล้วว่าทุกอย่างสมบูรณ์ที่หนึ่งพันบาท ทั้งที่ค่าใช้จ่ายจริงคือหนึ่งพันเก้าสิบเอ็ดบาท ราคานี้ผู้บริโภคไม่ต้องเดือดร้อนควักกระเป๋าสตางค์เอง”

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net