คำถามหนึ่งที่หลายคนสงสัยคือ การทรมานโดยไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ทำได้ไหม?

ทำได้ครับ

การทรมานที่ไม่ทิ้งร่องรอยบนร่างกายเริ่มต้นตั้งแต่ทางร่างกาย เช่น การทำ Waterboarding ที่เหยื่อถูกบังคับให้อยู่นิ่งด้วยวิธีใดก็ตาม แล้วเอาผ้าปิดปากกับจมูก แล้วหยดหรือราดน้ำไปบนผ้านั้น ซึ่งจะสร้างความรู้สึกเหมือนจมน้ำ บางคนอาจขาดอากาศหายใจจริงๆได้ โดยไม่มีร่องรอยของการถูกกดน้ำเลย ดังรูปที่อยู่ข้างล่างนี้

หรือแม้กระทั่งการทุบ ซึ่งหากทราบวิธีทุบที่ถูกต้อง เช่น เลือกทุบในจุดที่ไม่ต้องใช้แรงมากก็เจ็บ ก็สามารถทำให้ไม่เกิดร่องรอย เช่นที่หน้าท้องซึ่งมีไขมันกับกล้ามเนื้อรับแรงจึงเกิดรอยฟกช้ำน้อยกว่าจุดที่เป็นกระดูก แต่เกิดการบาดเจ็บของอวัยวะภายใน เช่น กล้ามเนื้อ ไตได้เช่นกัน หรือการใช้ฝ่ามือแทนที่จะใช้หมัดทุบ ก็สามารถกระจายแรงไปได้ในพื้นที่ที่กว้างกว่า ทำให้เกิดรอยน้อยกว่า แต่ยังเจ็บปวดได้

ทางอื่นทางร่างกาย เช่น การเปิดเสียงดังมากๆตลอดเวลา การกระตุ้นไม่ให้ได้นอนหลับ ไม่ให้ได้กินอาหารเต็มมื้อ อยู่ในที่ร้อนเกินไปและ/หรือเย็นเกินไป การล่วงละเมิดทางเพศทั้งจากต่างเพศ เพศเดียวกัน หรือสัตว์

นอกจากทางร่างกายแล้วยังมีการทรมานทางจิตใจซึ่งทำให้เกิดบาดแผลลึกในใจที่เจ็บปวดไม่แพ้บาดแผลทางกาย เช่น การข่มขู่คุกคาม การไม่ให้ทราบว่าอยู่ที่ไหน เวลาใด เพื่อสร้างความรู้สึกไม่มีความหวัง การขังเดี่ยว ซึ่งถือเป็นการทรมานโดยไม่มีร่องรอยบนร่างกาย การขังเดี่ยวนั้นสามารถทำให้คนเป็นบ้าได้ง่ายๆ แม้กระทั่งคลื่นสมองยังเปลี่ยนแปลง ยังไม่รวมถึงโรคความเครียดภายหลังภาวะการทรมานอย่างรุนแรง (PTSD) จากการทรมานทางร่างกาย

นี่เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้นครับ ฉะนั้นการทรมานไม่จำเป็นต้องทิ้งร่องรอยบนร่างกาย แต่ก็สร้างความเจ็บปวดอย่างรุนแรง บางครั้งบางวิธีทำให้เสียชีวิตได้โดยไม่ต้องมีร่องรอยการทรมานได้เช่นกันครับ

แนะนำให้ผู้สนใจอ่านรายงานของกลุ่ม Physicians for Human Rights and Human Rights First ได้ที่ http://www.humanrightsfirst.org/wp-content/uploads/pdf/07801-etn-leave-no-marks.pdf