Skip to main content
sharethis
รอง ผบ.ตร.เผยให้ อสส.-กต.ประสานฮ่องกงส่งตัว “จักรภพ เพ็ญแข” ผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดี หลังถูกซัดทอดเกี่ยวข้องคดีอาวุธสงคราม แต่ยังไม่พบความเกี่ยวข้องกับ "ขอนแก่นโมเดล" พร้อมตั้ง “พล.ต.ท.จักรทิพย์-พล.ต.ต.อำนวย” ติดตาม “อั้ม เนโกะ” 
 
29 มิ.ย. 2557 สำนักข่าวไทยรายงานว่าพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลทหารออกหมายจับนายจักรภพ เพ็ญแข กับพวกรวม 8 คน ว่า เป็นผลสืบเนื่องจากการที่ทหารและตำรวจจับกุมอาวุธสงครามได้จำนวนมาก และจากการสืบสวนขยายผลผู้ต้องหาพาดพิงถึงนายจักรภพ ว่ามีส่วนรู้เห็นและเชื่อมโยงกับอาวุธสงครามกว่า 10 คดี จึงนำไปสู่การออกหมายจับดังกล่าว และหากพาดพิงถึงใครอีก เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนขอหมายจับต่อไป
 
ส่วนสถานที่พำนักของนายนายจักรภพยังอยู่ที่ฮ่องกงหรือไม่ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า พบการเคลื่อนไหวล่าสุดอยู่ที่เกาะฮ่องกง หลังจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะประสานงานไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดและกระทรวงการต่างประเทศเพื่อประสานขอตัวนายจักรภพ เพราะไทยและฮ่องกงมีสนธิสัญญาการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน คาดว่าสามารถดำเนินการได้ภายในสัปดาห์หน้า
 
“ขณะนี้มอบหมายให้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการศึกษา ช่วยราชการรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เร่งติดตามผู้ที่ขัดขืน ไม่รายงานตัวตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อาทิ นายศรัณย์ ฉุยฉาย หรืออั้ม เนโกะ โดยจะจัดตั้งชุดพิเศษเพื่อดำเนินการจับกุมบุคคลดังกล่าว ส่วนนายศรัณย์ยังอยู่ในประเทศไทยหรือไม่นั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามการเคลื่อนไหวผ่านทางไลน์และเฟซบุ๊ก” พล.ต.อ.สมยศ กล่าว
 
“พล.ต.ประวิทย์” ระบุยังไม่พบ “จักรภพ” เชื่อมโยงขอนแก่นโมเดล
 
สำนักข่าวไทยยังรายงานอีกว่า พล.ต.ประวิทย์ หูแก้ว เสนาธิการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) กองทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการจับกุมผู้ต้องหาและอาวุธในขบวนการ “ขอนแก่นโมเดล” ว่า ก่อนหน้าการจับกุมฝ่ายการข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีหลายจังหวัดที่อาจมีการก่อการร้ายหรือต่อต้านคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดย จ.ขอนแก่น เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เพ่งเล็ง จากนั้นในวันที่ 23 พ.ค. กองกำลังของกองทัพภาคที่ 2 ได้บุกตรวจค้นอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในตัวเมืองขอนแก่น ทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาซึ่งกำลังวางแผนเตรียมก่อเหตุรุนแรงได้จำนวน 22 คน พร้อมอาวุธและยุทโธปกรณ์จำนวนมาก
 
“จากนั้นก็ขยายผลจาก 22 คน ไปตรวจค้นที่ จ.ร้อยเอ็ด และจ.สุรินทร์ แต่ 2 จังหวัดดังกล่าวไม่พบอาวุธ พบแต่เอกสารที่มีความเชื่อมโยงไปยัง จ.ชัยภูมิ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นต่อที่ชัยภูมิพบอาวุธ ปืนเล็ก ปืนสั้น จากนั้นขยายผลไปยัง จ.กาฬสินธุ์ อีกทีหนึ่ง โดยที่กาฬสินธุ์จับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 3 คน ยึดอาวุธสงครามได้มากพอสมควร ล่าสุดเมื่อ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา จับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่ม 1 คน ในตัวเมืองนครราชสีมา สืบทราบว่าเป็นพ่อค้าอาวุธเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่หลายภาค สรุปว่าขณะนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งหมด 26 คน ส่วนอาวุธที่นำมาแสดงวันนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีขบวนการต่อต้าน และเตรียมการทำร้ายประชาชน” พล.ต.ประวิทย์ หูแก้ว กล่าว
 
พล.ต.ประวิทย์ หูแก้ว กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ คสช.มีโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ทุกพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจตั้งแต่ระดับแกนนำไปจนถึงประชาชนทุกภาคส่วน ได้รับผลตอบรับอย่างดี มั่นใจขอนแก่นโมเดลจะไม่ขยายตัว เพราะภาพรวมสถานการณ์ใน 20 จังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่กองทัพภาคที่ 2 รับผิดชอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนให้ความร่วมมือและพร้อมจะไปสู่ขั้นสภาปฏิรูป ส่วนกรณีที่นายจักรภพจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับขอนแก่นโมเดลหรือไม่ กำลังสืบสวนอยู่ แต่เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหา 26 คน ยังเชื่อมโยงไปไม่ถึงนายจักรภพ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net