Skip to main content
sharethis
องค์กรแม่น้ำนานาชาติระบุคนน้ำโขงเครียดลาวเดินหน้าสร้างเขื่อนดอนสะโฮง หวั่นไทย-กัมพูชา-เวียดนามกระทบถ้วนหน้า ด้านไกรศักดิ์เผย 5 ส.ว.กัมพูชาทำจดหมายค้านถึงรัฐบาล 4 ประเทศ-ธนาคารไทย เตรียมตามติดประชุมเอ็มอาร์ซี 26 มิ.ย.นี้
 
18 มิ.ย. 2557 องค์กรแม่น้ำนานาชาติ (International Rivers) ออกใบแถลงข่าวคัดค้านการเดินหน้าสร้างเขื่อนดอนสะโฮง ในพื้นที่เมืองโขง แขวงจำปาสัก สปป.ลาว โดยระบุว่า การก่อสร้างที่นำไปสู่การพัฒนาเขื่อนดอนสะโฮง ที่ผ่านมาแม้มีเสียงคัดค้านจากรัฐบาลประเทศเพื่อนบ้าน และเสียงเรียกร้องอย่างต่อเนื่องให้มีการปรึกษาหารือระดับภูมิภาค แต่จากการลงพื้นที่พบว่าการก่อสร้างได้เดินหน้าทำให้กังวลว่า เขื่อนดอนสะโฮงกำลังพัฒนาไปในทิศทางที่อันตราย เช่นเดียวกับกรณีเขื่อนไซยะบุรี นั่นคือมีการก่อสร้างโดยยังไม่มีการปรึกษาหารือประเทศเพื่อนบ้าน การศึกษาผลกระทบยังไม่แล้วเสร็จ และยังไม่ได้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนถึงผลกระทบข้ามพรมแดนของโครงการ
 
”การก่อสร้างเพื่อปูทางไปสู่การพัฒนาเขื่อนดอนสะโฮง เป็นการทำผิดซ้ำซากซึ่งไม่น่ายินดีสำหรับทั้งชุมชนและรัฐบาลในประเทศลุ่มแม่น้ำโขง เนื่องจากลาวตัดสินใจเพียงฝ่ายเดียวที่จะเดินหน้าโครงการซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทั้งภูมิภาค ความเสี่ยงนั้นจะเกิดขึ้นนอกเหนือพรมแดนประเทศลาว เขื่อนดอนสะโฮงจะส่งผลกระทบที่ไม่สามารถแก้ไขได้ต่อวิถีชีวิต และความมั่นคงทางอาหารทั่วภูมิภาคลุ่มน้ำโขง แต่ลาวกลับไม่ใส่ใจที่จะเคารพข้อเรียกร้องของประเทศเพื่อนบ้านให้ยุติการก่อสร้าง เพื่อให้มีการศึกษาผลกระทบข้ามพรมแดนและมีการปรึกษาหารือเพิ่มเติมเสียก่อน”
 
ใบแถลงข่าวด้วยระบุว่า การลงพื้นที่เมื่อต้นเดือน มิ.ย.ยืนยันว่า คนงานเริ่มก่อสร้างสะพานเชื่อมต่อจากแผ่นดินใหญ่ไปยังดอนสะดำ สะพานดังกล่าวเป็นเส้นทางสู่การก่อสร้างในบริเวณฮูสะโฮง ทั้งนี้ ชาวบ้านดอนสะโฮงได้รับแจ้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ว่าต้องอพยพออก แต่ยังไม่ทราบว่าต้องย้ายเมื่อไร ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอนาคต ในขณะเดียวกันมีการห้ามหาปลาบริเวณฮูช้างเผือก เพื่อให้บริษัท Mega First Corporation จากมาเลเซียเข้าไปพัฒนา “ช่องทางปลาผ่าน” แต่ไม่มีการชดเชยหรือมาตรการช่วยเหลือแก่ครอบครัวที่ต้องหยุดหาปลา
 
เอมี่ แทรนเดม ผู้อำนวยการแผนกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ International Rivers กล่าวว่าตามกฎหมายระหว่างประเทศแล้ว ประเทศท้ายน้ำมีสิทธิร้องขอให้มีการปรึกษาหารืออย่างเต็มที่ ถึงเวลาที่ลาวต้องเคารพสิทธิของประเทศเพื่อนบ้าน และต้องยอมรับตามข้อเสนอให้ชะลอโครงการ 10 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้มีการตัดสินใจร่วมกันบนพื้นฐานข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์ และการปรึกษาหารือเกี่ยวกับอนาคตของแม่น้ำโขงที่ใช้ร่วมกัน
 
ด้านนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีตสมาชิกวุฒิสภากล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา สมาชิกวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา 5 ราย ได้แสดงท่าทีคัดค้านเขื่อนดอนสะโฮง รวมทั้งเขื่อนไซยะบุรี โดยทำจดหมายยื่นให้กับผู้นำรัฐบาลไทยและรัฐบาลประเทศลุ่มน้ำโขง โดยบรรดาวุฒิสมาชิกเหล่านี้เรียกร้องให้ชะลอเขื่อนไซยะบุรีและเขื่อนดอนสะโฮงทันที พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประเทศไทยยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากเขื่อนไซยะบุรี นอกจากนี้ยังได้สำเนาจดหมายส่งไปยังผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ไทย 4 แห่ง เช่น นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นายบัณฑูร ล่ำซำประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ธนาคารกสิกรไทย เพื่อขอให้ถอนการสนับสนุนด้านการเงินแก่โครงการสร้างเขื่อนไซยะบุรี
 
“พวกเขาระบุไว้ในจดหมายว่าโครงการสร้างเขื่อนไซยะบุรีจะก่อให้เกิดภัยคุกคามข้ามพรมแดนครั้งใหญ่สุดเท่าที่มีมาต่อความมั่นคงด้านอาหาร สิ่งแวดล้อม ความหลากหลายทางชีวภาพ การพัฒนาที่ยั่งยืน และความร่วมมือในภูมิภาคในลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ที่ผ่านมาโครงการเขื่อนไซยะบุรียังไม่ปฏิบัติตามกระบวนการปรึกษาหารือล่วงหน้าของ MRC ซึ่งเป็นข้อกำหนดตามความตกลงแม่น้ำโขง พ.ศ.2538” นายไกรศักดิ์ กล่าว
 
องค์กรแม่น้ำนานาชาติ แจ้งด้วยว่า ในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ จะมีการจัดประชุมคณะมนตรีแม่น้ำโขง ของ 4 ประเทศ สมาชิกลุ่มน้ำโขงหรือ MRC ครั้งที่ 20 ขึ้นที่กรุงเทพฯ โดยมีวาระการประชุมเพื่อพิจารณากรณีกำหนดให้เขื่อนดอนสะโฮงต้องเข้าสู่กระบวนการปรึกษาหารือล่วงหน้าหรือไม่ หากทั้ง 4 ประเทศ ไม่สามารถหาข้อยุติได้ ก็ต้องมีการยกระดับการตัดสินใจไปสู่ระดับของการทูต และทำให้เกิดความเสี่ยงเช่นเดียวกับกรณีเขื่อนไซยะบุรี ซึ่งยังคงเป็นปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไข
 
อีกทั้ง วันที่ 24 มิถุนายน ที่ศาลปกครอง กรุงเทพฯ จะมีการอ่านคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดชี้ขาดกรณีที่ชาวบ้านลุ่มน้ำโขงร้องให้ศาลมีคำสั่งไปยังการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยหรือ กฟผ.และ 4 หน่วยงานรัฐ ยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากเขื่อนไซยะบุรี เนื่องจากเขื่อนดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนไทยและชาวบ้านที่อยู่ท้ายน้ำ ที่สำคัญคือไม่มีการปฏิบัติตามหลักกฎหมายไทย เช่น เรื่องการทำผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้เครือข่ายชาวบ้านลุ่มน้ำโขงราว 30-40 คนจะเดินทางมารับฟังคำตัดสินของศาลในช่วงเช้า และช่วงบ่ายจะมีการแถลงข่าวที่โรงแรมทีเคพาเลซ ถนนแจ้งวัฒนะ เวลา 13.00 น.
 
 
 
ที่มา: transbordernews
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net