Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis


สืบเนื่องจากบทความชื่อ “ประสบการณ์กักตัวแบบบิ๊กบราเธอร์ทหารยุค 2014” ของประวิตร โรจนพฤกษ์ ที่เผยแพร่ในประชาไท (4 มิ.ย.57) มีข้อความตอนท้ายว่า

" เช้าวันรุ่งขึ้น อาจารย์ท่านหนึ่งที่ถูกกักตัวในค่ายเดียวกับผมโทรมาหาผม ถามว่าผมสบายดีไหม เสร็จแล้วแกก็บอกว่าวานนี้แกให้เบอร์โทรศัพท์มือถือผมแก่ทหารไป

ผู้เขียนรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง แต่มานึกอีกทีก็ตระหนักดีว่าทหารที่ค่ายละที่สโมสรกองทัพบกก็มีเบอร์ผมอยู่แล้ว จึงบอกอาจารย์ท่านนั้นไปว่าไม่เป็นไร และย้ำว่าหลักการยังคงเหมือนเดิมแม้สภาพจะเปลี่ยนไป แล้วจึงวางหู ”

ผมอ่านแล้ว รู้สึกไม่สบายใจ เพราะเราอยู่ด้วยกันนานที่สุดและตกเป็นข่าวด้วยกันในตอนปล่อยตัว คือ ผม ธนาพล อิ๋วสกุล บก.บห.ฟ้าเดียวกัน และประวิตร ฉะนั้น “อาจารย์ท่านหนึ่ง” คนอ่านก็เดาได้ไม่ยากว่าเป็นผม เพราะในเรา 3 คน มีผมเท่านั้นที่เป็นอาจารย์ ผมจึงโทรไปถามคุณประวิตรว่าทำไมถึงไปเขียนว่าผม “หักหลัง” เช่นนั้น ผมไม่สบายใจมากนะ” คุณประวิตรตอบว่า “ผมไม่ได้เอ่ยชื่ออาจารย์นี่” แล้วตัดสายทิ้งไป

ต่อมาในช่วงเย็นคุณประวิตรได้แก้ไขข้อความในบทความใหม่ว่า

“เช้าวันรุ่งขึ้น บุคคลท่านหนึ่งที่ถูกกักตัวในค่ายเดียวกับผมโทรมาหาผม ถามว่าผมสบายดีไหม เสร็จแล้วแกก็บอกด้วยน้ำเสียงเฝื่อนๆ ว่าวานนี้แกให้เบอร์โทรศัพท์มือถือผมแก่ทหารไป

ผู้เขียนรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง แต่มานึกอีกทีก็ตระหนักดีว่าทหารที่ค่ายและที่สโมสรกองทัพบกก็มีเบอร์ผมอยู่แล้ว จึงบอกท่านนั้นไปว่าไม่เป็นไร และย้ำว่าหลักการยังคงเหมือนเดิมแม้สภาพจะเปลี่ยนไป แล้วจึงวางหู”

คือแก้จาก “อาจารย์ท่านหนึ่ง” เป็น “บุคคลท่านหนึ่ง” และเพิ่มข้อความเข้ามาอีกว่า “แกก็บอกด้วยน้ำเสียงเฝื่อนๆ”

เอาล่ะ ผมจะไม่ต่อล้อต่อเถียงเรื่องสำนวนภาษาอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่ขอใช้สิทธิที่ถูกพาดพิงชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ช่วงเย็นของวันที่คุณประวิตรถูกปล่อยตัวนั้น ทหารผู้ที่ดูแลเรื่องเอกาสารการปล่อยตัวโทรเข้ามือถือผมและขอเบอร์โทรคุณประวิตร ผมยังไม่ได้ให้ทันทีเนื่องจากกำลังขับรถ จึงบอกไปว่าขอขับรถถึงที่หมายก่อน ระหว่างนั้นก็คิดอยู่ว่าจะให้ดีหรือไม่ เพราะที่จริงทหารมีเบอร์โทรของทุกคนอยู่แล้ว แต่ครั้นจะบอกว่าผมไม่ทราบเบอร์คุณประวิตรก็ไม่ได้อีก เพราะว่าเราทุกคนที่อยู่ด้วยกันและถูกปล่อยช่วงท้ายๆ ทุกคนต่างเขียนชื่อและเบอร์โทรลงในกระดาษ A4 และให้ทหารไปถ่ายเอกสารแจกกันครบทุกคน ซึ่งทหารคนที่ถามก็ทราบข้อเท็จจริงนี้ อีกอย่างผมคิดว่าคุณประวิตรไม่ใช่ผู้หลบหนี แต่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของทหารตั้งแต่แรกเหมือนคนอื่นๆ (แม้จะมีข้อแม้ส่วนตัวอยู่ก็ตาม ซึ่งผมก็เคารพ) ฉะนั้น ถ้าผมให้เบอร์โทรไปก็ไม่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอะไรแก่คุณประวิตร ผมจึงตัดสินใจให้ไป

ผมมีเรื่องหลายอย่างให้ต้องคิดเลยลืมโทรบอกคุณประวิตร ตั้งแต่วันแรก เช้าวันต่อมาจึงได้โทรไปบอกว่าทหารขอเบอร์โทรและผมให้ไป แล้วถามว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า คำตอบก็อย่างที่คุณประวิตรเขียนไป เนื่องจากผมไม่ได้คิดไม่ดีหรือคิด “หักหลัง” เพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกัน ผมจึงไม่ได้เฉลียวใจว่าคุณประวิตรไม่พอใจ และคุณประวิตรก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร ผมจึงไม่ได้ขอโทษ หากรู้ว่าคุณประวิตรไม่พอใจ ผมคงขอโทษไปแล้ว พอได้เห็นข้อความที่เขียนถึงผม จึงรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง และโทรไปเพื่อทำความเข้าใจ แต่ถูกตัดสายทิ้ง วิธีเดียวที่เหลืออยู่คือเขียนขี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าว

เพิ่มเติมอีกนิดว่า ทุกคนที่ถูกปล่อยตัวต่างก็ถูกปล่อยโดยยอมเซ็นชื่อยอมรับเงื่อนไข และรู้อยู่แล้วว่าตนเองถูกติดตาม ทหารก็บอกตรงๆ อยู่แล้วว่าที่นั่งๆ อยู่นี้เจ้าหน้าที่มีแฟ้มข้อมูลหมด เขาตามมาหลายปีแล้ว ทุกคนที่นั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะอาหาร (คืนที่ผมกับธนาพลจะถูกปล่อยตัว) ต่างก็ทราบกันดี

อย่างไรก็ตาม ในวันแรกที่ไปรายงานตัว เราคุยกันและผมเห็นด้วยกับธนาพลว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ เราไม่ควรเรียกร้องอะไรจากใครว่าเขาทำมากทำน้อย เพราะทุกคนต่างมีบริบทของตนเอง เราควรเคารพการตัดสินใจตามเงื่อนไขหรือบริบทของแต่ละคน เช่น ใครจะตัดสินใจรายงานตัว หลบหนี หรือสู้ ก็เป็นสิทธิของเขา เราควรเคารพและให้กำลังใจกัน

หากใครจะกล้าหาญ ยึดมั่นอุดมการณ์ในทุกสถานการณ์ ผมก็เคารพและให้กำลังใจครับ แต่หากใครจะดูจังหวะเวลาผมก็เคารพและให้กำลังใจเช่นกัน ทุกคนมีเงื่อนไขที่ต้องแบกรับ หนักเบา ต่างกันไป ผมจึงไม่คิดตำหนิใคร ไม่มองใครในแง่ไม่ดี เส้นทางการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยยังยาวไกล กาลเวลาเป็นเครื่องทดสอบเราทุกคน

 

 

-----------------------------------------------------------------------

หมายเหตุกองบรรณาธิการ: ในบทความ "ประสบการณ์กักตัวแบบบิ๊กบราเธอร์ทหารยุค 2014" ของประวิตร โรจนพฤกษ์  มีการแก้ไขเนื้อหาจาก "อาจารย์ท่านหนึ่ง" เป็น "บุคคลท่านหนึ่ง" โดยกองบรรณาธิการประชาไท และ มีการเพิ่มเติมเนื้อหา "ด้วยน้ำเสียงเฝื่อนๆ" โดยประวิตร

หมายเหตุกองบรรณาธิการ: มีการแก้ไขเนื้อหาจาก "อาจารย์ท่านหนึ่ง" เป็น "บุคคลท่านหนึ่ง" โดยกองบรรณาธิการประชาไท
                                                 มีการเพิ่มเติมเนื้อหา "ด้วยน้ำเสียงเฝื่อนๆ" โดยประวิตร

- See more at: http://blogazine.in.th/blogs/pravit/post/4815#sthash.qnv0jxQV.dpuf

หมายเหตุกองบรรณาธิการ: มีการแก้ไขเนื้อหาจาก "อาจารย์ท่านหนึ่ง" เป็น "บุคคลท่านหนึ่ง" โดยกองบรรณาธิการประชาไท
                                                 มีการเพิ่มเติมเนื้อหา "ด้วยน้ำเสียงเฝื่อนๆ" โดยประวิตร

- See more at: http://blogazine.in.th/blogs/pravit/post/4815#sthash.qnv0jxQV.dpuf

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net