แดงลำพูนทยอยรายงานตัว หลังบุกสวนลำไยค้นฝึกอาวุธ ทหารขอความร่วมมือวิทยุเชียงใหม่-ลำพูนงดเสนอข่าวแตกแยก

เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2557 นายอุดมศักดิ์ พรหมสิทธิ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นครครหริภุญชัย ลำพูน พร้อมด้วย นายเลิศ ทิศส่า การ์ด นปช.นครหริภุญชัย ลำพูน , นายบุญเลิศ สุวรรณนวล , นายอภิชาติ ข่อยอินดก , นายเกรียงไกร กฤษ์ปรมะวรา , นางพรรณี ทองพฤกษ์ และ นางบุษบา มามะกรมูล สมาชิกกลุ่ม นปช.นครหริภุญชัย ลำพูน ได้ติดต่อขอพบ พ.อ.บุญยืน อินกว่าง เสนาธิการกองพลทหารราบที่ 7 ฐานะ ผบ.กกล.รส.7 สย.1 เพื่อเข้ารายงานตัว และรับฟังการชี้แจงนโยบายของ คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.)
 
ภายหลังจาก พ.อ.บุญยืน ได้รับแจ้งจากทั้ง 7 คนแล้ว จึงได้ประสานไปยัง พ.อ.จิตติวัศร์ ศรสุวรรณ์ รอง ผอ.กอ.รมน.จว.ลำพูน และ นายจำลอง เณรแย้ม ปลัด จ.ลำพูน เข้าร่วมประชุมชี้แจงครั้งนี้ โดยจากเดิมทีเบื้องต้นได้รับแจ้งว่ามีผู้จะเข้ารายงานตัวประมาณ 30 คน แต่ล่าสุดมีเพียงแค่ 7 คนเท่านั้น
 
ทั้งนี้ นอกจากการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจ ถึงข้อปฎิบัติช่วงการควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ (รัฐประหาร) ภายใต้การประกาศใช้กฎอัยการศึกแล้ว ทาง กกล.รส.7 สย.1 ได้ทำบันทึกข้อตกลงระหว่าง นายอุดมศักดิ์ พรหมสิทธิ์ กับ พ.อ.บุญยืน อินกว่าง ว่าห้ามมิให้มีการชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร , ขอให้มวลชนอยู่ในความสงบตามประกาศของ คสช. , หากมีการเดินทางไปต่างจังหวัดให้ยื่นบัตรประจำตัวประชาชนแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ทหารที่ตั้งด่านตรวจความมั่นคงนั้นๆ , การจัดกิจกรรมประชุม อบรม หรือสัมมนา ให้มีการติดต่อแจ้ง กกล.รส.7 สย.1 ทราบล่วงหน้าก่อน , การรายงานข่าวสารต้องไม่รายงานข่าวสารอันเป็นเท็จ หรือเกิดการยุยงปลุกปั่นทำให้เกิดความวุ่นวายทำให้เกิดความเสียหายได้ ท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่น ก่อนที่ทั้ง 7 คน จะแยกย้ายกันกลับในเวลาต่อมา
 
ก่อนหน้านี้ ( 26 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อเวลา 13.45 น. พ.อ.บุญยืน อินกว๋าง ผบ.กกล.รส.ร 7 สย.1 พล.ต.ต.จรัณฐค์วรพัฒนานันท์ ผบ.ภ.จว.ลำพูน พร้อมด้วยกำลังทหารและตำรวจกว่า 30 นาย ได้เข้าตรวจค้นภายในสวนลำไย พื้นที่ประมาณ 40 ไร่ เลขที่ 184 หมู่ที่ 12 บ้านเชตวัน ต.เหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน หลังสืบทราบว่า ที่สวนลำไยแห่งดังกล่าวมีการฝึกการใช้อาวุธในการต่อสู้ ของกลุ่มการ์ดผู้ชุมนุมทางการเมืองในสวนดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบชายฉกรรจ์ 5 คน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปทั้งหมดพากันวิ่งหลบหนี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ 1 คน ทราบชื่อ ว่านายไพรัช สิงห์คำ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 4 ต.ประตูป่า อ.เมือง จ.ลำพูน 
 
นอกจากนี้ยังพบนางเสาวณี อิ่นตะหล่อ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/1 หมู่ที่ 5 ต.ท่าวังพร้าว อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ รับว่าเป็นคนเฝ้าสวนลำไยดังกล่าว ซึ่งเป็นภรรยาของนายสมพงษ์ พันธะจักร อายุ 50 ปี หนึ่งในชายฉกรรจ์ที่วิ่งหลบหนีไปภายหลังเข้าตรวจค้น พบ จยย. รวม 3 คัน อาวุธปืนยาวแบบไทยประดิษฐ์ 3 กระบอก อาวุธปืนสั้นดัดแปลง ขนาด .22 เครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง เสื้อเกราะกันกระสุน 8 ตัว นอกจากนี้ยังพบอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หน้ากากสีแดง สัญลักษณ์เสื้อเชิ้ตสีขาว และสีดำป้ายไวนิล ขนาด 1.5 เมตร ระบุชื่อ อดีต ส.ส.จังหวัดลำพูนคนหนึ่ง และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่าง ๆ 8 ธงสีแดงสัญลักษณ์ ผ้าพันคอสีแดงของกลุ่ม CD วิทยุสื่อสารและรูปภาพที่ถ่ายกับบุคคลสำคัญและแกนนำทางการเมือง สมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงเทพจำนวน 2 เล่ม และเอกสารต่าง ๆ เกี่ยวกับกลุ่ม 1 แฟ้ม และเงินจำนวน 3,700 บาท จึงยึดของกลางทั้งหมดไว้เพื่อตรวจสอบต่อไป
 
พลทหารลำพูนเครียดยิงกรอกปากตัวเองดับคาด่านตรวจ 
 
วันที่ 27 พ.ค. ร.ต.ท.เฉลิม ตาน้อย พงส.เวร สภ.เหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน รับแจ้งเหตุพลทหารยิงตัวตายคาด่านตรวจแยกดอยติ ต.ป่าสัก เมื่อ 22.30 น.คืนที่ผ่านมา (26 พ.ค.) จึงแจ้งผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ และไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชาย แช่มช้อย ผกก.สภ.เหมืองจี้ กู้ภัย อบต.ป่าสัก และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดลำพูน
 
ที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนเอ็ม 16 วางตั้งอยู่หลายกระบอก พร้อมด้วยเครื่องสนามของทหาร พบร่องรอยล้างคราบเลือดไปแล้ว
 
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตคือ พลทหาร จอมพล แก้วมา อายุ 21 ปี สังกัดค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นทหารเกณฑ์ผลัด 1 เพิ่งเข้าประจำการเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา บ้านเดิมอยู่ ต.เหล่ายาว อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน
 
สอบถามเพื่อนทหารที่เข้าเวรด้วยกันทราบว่า เมื่อช่วงเวลา 14.00 น. พลทหาร จอมพลมีอาการซึมเศร้า เพื่อนๆ จึงได้ถามว่ามีปัญหาอะไร คิดถึงครอบครัวทางบ้านหรือไม่ จะเอาโทรศัพท์โทร.หาแม่หรือไม่
 
แต่พลทหาร จอมพลได้แต่ส่ายหน้าแล้วเดินหนีไปนั่งอยู่คนเดียว จนกระทั่งเวลา 22.15 น. พลทหาร จอมพลก็ใช้ปืนเอ็ม 16 ซึ่งเป็นอาวุธประจำกาย โดยเอาปลายกระบอกปืนจ่อเข้าไปในปากแล้วเหนี่ยวไก 1 นัด โดยไม่มีใครคาดคิด จนสมองกระจายล้มลงเสียชีวิตทันที เพื่อนๆ และผู้บังคับบัญชาที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกใจ และรีบนำร่างของพลทหาร จอมพลส่งโรงพยาบาลค่ายกาวิละ หลังจากนั้นจึงแจ้งพนักงานสอบสวนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
 
มทบ.33 เรียกถก สถานีวิทยุคลื่นหลักและวิทยุชุมชนเชียงใหม่-ลำพูน แนะ งดนำเสนอข่าวลือ
 
27 พ.ค. 2557 ที่ มทบ.33 เชียงใหม่ พล.ต.ศรายุธ รังษี ผบ.มทบ.33 ได้เชิญผู้บริหารสถานีวิทยุคลื่นหลักและวิทยุชุมชนเชียงใหม่-ลำพูน เข้าหารือเพื่อแจ้งให้ปฏิบัติตามประกาศของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และให้ความร่วมมือโดยใช้บทบาทสื่อมวลชนในการทำหน้าที่ให้เกิดความเข้าใจกับประชาชนในภารกิจของทหาร ที่กำลังดำเนินการแก้ปัญหาของประเทศอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งการนำเสนอข้อมูลที่มีความเสี่ยงต่อความขัดแย้งและงดนำเสนอข่าวลือต่าง ๆ
 
ส่วนวิทยุชุมชนที่ไม่มีใบอนุญาต ก็ไม่ให้เปิดเด็ดขาด ยอมรับว่ามีผลกระทบ แต่ขอให้อดทนรอ ซึ่งจะใช้เวลาไม่นาน ส่วนเหตุผลความจำเป็นต่าง ๆ ที่ผู้ประกอบการสถานีวิทยุร้องขอให้ผ่อนผัน จะรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาระดับสูงต่อไป
 
สันกำแพงเข้มเคอร์ฟิวส์
 
ส่วนที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ คืนวานนี้ (27 พ.ค.) นักข่าวพลเมืองรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มออกขอความร่วมมือร้านค้าให้ปิดตามเวลา 4 ทุ่ม โดยชาวบ้านระบุก่อนหน้านี้หลังการรัฐประหารยังไม่มีการคุมเข้มเช่นเมื่อวานนี้ 
 
 
ที่มาข่าวบางส่วน: ข่าวสด, แนวหน้า

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท