'พีมูฟ-ทนายสิทธิ-YPD' แถลงคัดค้านรัฐประหาร

23 พ.ค. 2557 ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 45 เรื่องคัดค้านการรัฐประหาร โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
 
แถลงการณ์ฉบับที่ 45
เรื่อง : คัดค้านการรัฐประหาร
 
ตามที่คณะผู้นำเหล่าทัพ รวมถึง ผบ.ตร. ได้กระทำการรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองประเทศ จากรัฐบาลพลเรือน มาเป็นของพวกตน เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เวลา 16.30 น. เป็นต้นมานั้น พร้อมกับได้สถาปนาคณะรัฐประหารเป็น “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” (คสช.) 
 
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ขอแสดงจุดยืน ดังนี้
 
1. เราคัดค้านการรัฐประหาร ของคณะผู้นำเหล่าทัพ และ ผบ.ตร.
2. เราคัดค้าน และไม่ยอมรับ ประกาศ และคำสั่ง ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
3. เราขอให้แต่ละฝ่ายและทุกภาคส่วน ร่วมกันแสดงการอารยะขัดขืนต่อ คสช. ด้วยสันติวิธี 
 
สุดท้ายนี้ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ขอให้ทุกฝ่ายและทุกภาคส่วนในสังคมยึดมั่นในการดำเนินการหาทางออกต่อสถานการณ์นี้ อย่างสันติ
 
ด้วยความเชื่อมั่นในพลังประชาชน
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)
27 พฤษภาคม 2557
 
ในวันเดียวกันนี้ สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.), มูลนิธิผสานวัฒนธรรม, สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) และมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านการรัฐประหาร ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
 
แถลงการณ์
คัดค้านการรัฐประหาร ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
 
ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กระทำการรัฐประหาร ยึดอำนาจการปกครองประเทศโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและวิธีทางประชาธิปไตย โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกได้ออกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 1 เรื่องการควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ ว่ากระทำการยึดอำนาจเพื่อให้สถานการณ์ทางการเมืองกลับเข้าสู่สภาวะปกติให้ประชาชนในชาติเกิดความรัก ความสามัคคีเพื่อเป็นการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ เพื่อให้เกิดความชอบธรรมกับทั่วทุกฝ่าย นั้น
 
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) และองค์กรที่มีรายชื่อแนบท้ายนี้ ขอคัดค้านการใช้อำนาจนอกระบอบประชาธิปไตยดังกล่าว ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
 
1. การรัฐประหารเป็นการทำลายประชาธิปไตย
 
การยึดอำนาจการปกครองประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นการใช้กำลังบังคับโดยทหาร  และมีการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนหลายประการ ทั้งจับกุมควบคุมตัวบุคคลโดยปราศจากข้อกล่าวหา การปิดกั้นและแทรกแซงการนำเสนอของสื่อมวลชน  การประกาศเคอร์ฟิว และการห้ามชุมนุมทางการเมือง อันเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย อีกทั้งการเข้ายึดอำนาจดังกล่าวยังขัดต่อหลักการประชาธิปไตยซึ่งเป็นการปกครองของเสียงส่วนมากโดยที่ยังเคารพเสียงส่วนน้อย เป็นการปกครองโดยกฎหมาย  ทำให้ประชาชนเคยชินกับการใช้อำนาจนอกระบบโดยการรัฐประหาร ส่งผลให้ พัฒนาการประชาธิปไตยในสังคมไทยหยุดชะงักและด้อยพัฒนา  ซึ่งไม่อาจถือได้ว่าเป็นสังคมประชาธิปไตยอีกต่อไป
การยึดอำนาจดังกล่าวจึงเป็นการละเมิดสิทธิ เสรีภาพ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของประชาชน ละเมิดหลักการนิติรัฐ  และเป็นการละเมิดหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตย
 
2. การยึดอำนาจการปกครองไม่สามารถนำความสงบคืนสู่สังคมได้อย่างแท้จริง
 
แม้ว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะอ้างเหตุในการกระทำเพื่อให้ประชาชนในชาติเกิดความรัก ความสามัคคีเช่นเดิมก็ตาม  แต่การที่จะนำความสงบกลับคืนมาได้นั้น ต้องใช้วิธีที่สันติและเป็นธรรม และการมีส่วนร่วมของประชาชนตามวิถีประชาธิปไตย การยึดอำนาจโดยทหาร เป็นการบังคับเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ นำไปสู่การคัดค้านตอบโต้ ดังเช่นการรัฐประหารเมื่อ 19 กันยายน 2549 ที่ยิ่งตอกย้ำ ขยายความขัดแย้งในสังคมอย่างกว้างขวาง จนนำไปสู่ความรุนแรงและการสูญเสียของสังคมเมื่อปี พ.ศ. 2551 และปี พ.ศ. 2553 และยังคงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน การยึดอำนาจรัฐจึงไม่สามารถแก้ปัญหาของประเทศได้
 
3. ประชาชนมีศักยภาพในการปกครองตนเองสังคมประชาธิปไตย  
 
ยึดถือการมีส่วนร่วม  การแสดงความคิดเห็น  และการตัดสินใจของประชาชน  อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยวิธีการของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยนั้นอาจใช้เวลา ความพยายาม และความอดทนอย่างมาก เพื่อที่จะสร้างเจตจำนงร่วมเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน  แต่ประชาชนมีศักยภาพในการเรียนรู้ และร่วมกันพัฒนาสังคมประชาธิปไตยที่มั่นคงแข็งแรงในระยะยาวโดยไม่ต้องอาศัยให้อำนาจนอกระบบเข้ามาจัดการ
 
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน และองค์กรที่มีรายชื่อแนบท้ายนี้  จึงขอคัดค้านการยึดอำนาจการปกครองประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมทั้งการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ และขอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติคืนอำนาจปกครองสู่รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งทันที และขอยืนยันว่าประชาชนย่อมมีสิทธิอันชอบธรรมตามวิถีทางประชาธิปไตยที่จะต่อต้านการรัฐประหารโดยสันติวิธี  
 
ด้วยความเชื่อมั่นในอำนาจอธิปไตยของประชาชน
 
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.)
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม
สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.)
มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม
 
รวมทั้งศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย [Young People for Social-Democracy Movement, Thailand (YPD)] ได้ออกแถลงการณ์ “คัดค้านรัฐประหาร ต่อต้านการกระทำอันไม่เป็นประชาธิปไตย” โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
 
“คัดค้านรัฐประหาร ต่อต้านการกระทำอันไม่เป็นประชาธิปไตย”
 
เนื่องด้วยวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เวลา 16.30 น. "คณะรักษาความสงบแห่งชาติ" ได้ทำการยึดอำนาจรัฐบาลรักษาการณ์และในเวลา19:10 น. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ออกประกาศฉบับที่ 5 ให้งดใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ยกเว้นหมวดที่สอง (พระมหากษัตริย์) ให้คณะรัฐมนตรีรักษาการสิ้นสุดลง  ให้วุฒิสภา ศาล และองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ ปฏิบัติหน้าต่อไป ซึ่งเป็นการทำรัฐประหาร ล้มอำนาจประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย 
 
ทางศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย(YPD.)จึงขอแสดงจุดยืน 
 
“คัดค้านรัฐประหาร ต่อต้านการกระทำอันไม่เป็นประชาธิปไตย”
 
โดยขอเรียกร้องให้มีการคืนอำนาจอธิปไตยกลับคืนสู่ประชาชนโดยเร็ว  เพราะการรัฐประหารเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้นที่จะทำลายสังคมประชาธิปไตยในระยะยาว อาจจะยุติความขัดแย้งเฉพาะหน้าได้ แต่บทเรียนในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาได้ก็เป็นบทพิสูจน์ว่า การรัฐประหารจะสร้างความขัดแย้งที่บาดลึกและยาวนาน
 
ทั้งนี้เพื่อการเฝ้าระวังและจับตา ติดตาม ตรวจสอบการใช้อำนาจของ  “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” ทางศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย(YPD.) จึงขอให้ เยาวชน ประชาชน และผู้มีใจเป็นประชาธิปไตยทั้งหลาย ร่วมกันเฝ้าสังเกตพฤติกรรมการใช้อำนาจของ “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ”  ดังต่อไปนื้
 
1. การแต่งตั้งทหารและบริวารพวกพ้องมาดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆและกระทำการโดยไม่เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติและประชาชน
 
2.จับตาสภานิติบัญญัติที่จะตั้งขึ้นใหม่โดยอำนาจของคณะรัฐประหารว่าจะออกกฎหมายใดๆก็ตามที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนและไม่ได้เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ที่แท้จริงของประชาชนหรือไม่
 
3.จับตาการต่ออายุราชการของผู้นำทางการทหารใน “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ”  
 
4.จับตาและเฝ้าระวังการพยายามบังคับให้บุคคลสูญหายซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรง
 
5.เร่งให้เกิดการมีอิสรภาพของสื่อสารมวลชนอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นได้
 
6.จับตาการต่อรองผลประโยชน์ที่ลงตัวของชนชั้นนำที่ทำการรัฐประหารและถูกรัฐประหาร
 
ทั้งนี้อยากให้สังคมไทยคำนึงถึงบทเรียนของนานาประเทศและประเทศไทยเอง ว่าหลังเกิดการทำรัฐประหารเกิดอะไรขึ้นกับสังคมบ้าง ใช้เหตุใช้ผลในการขับเคลื่อนและรักษาระบอบประชาธิปไตย ยกระดับคุณภาพของประชาธิปไตย สร้างพลเมืองที่มีจิตสำนึกในระบอบประชาธิปไตย
            
เพราะเราจะสร้างสังคมประชาธิปไตยไม่ได้เลย หากขาด อิสรภาพ ความยุติธรรม และความสมานฉันท์
                                                                                                      
เพื่อประชาธิปไตยและความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ  
ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย (YPD.)
23 พฤษภาคม 2557
 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท