Skip to main content
sharethis
ศาลฎีกาอ่านคำสั่ง ไม่รับคำร้องของ นางอังคณา นีละไพจิตร และบุตร ในฐานะโจทก์ร่วมในคดี ให้มีการสอบพยานเพิ่มเติมตามในคดีที่ ทนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความมุสลิม สิทธิมนุษยชน ซึ่งสูญหายไปเมื่อสิบปีก่อน  

21 พ.ค. 2557 ณ ศาลอาญา รัชดาภิเษก ศาลฎีกาอ่านคำสั่ง ไม่รับคำร้องของ นางอังคณา นีละไพจิตร และบุตร ในฐานะโจทก์ร่วมในคดี ให้มีการสอบพยานเพิ่มเติมตามในคดีที่ ทนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความมุสลิม สิทธิมนุษยชน ซึ่งสูญหายไปเมื่อสิบปีก่อน  โดยศาลฎีกาให้เหตุผลว่า โจทก์มีสิทธิเรียกพยานได้ตั้งแต่ศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์จึงมีคำสั่งยกคำร้อง 
 
คดีดังกล่าว พ.ต.ต.เงิน ทองสุก, พ.ต.ท.สินชัย นิ่มปุญญกำพงษ์, จ.ส.ต.ชัยเวง พาด้วง, ส.ต.อ.รันดร สิทธิเขต  และพ.ต.ท.ชัดชัย เลี่ยมสงวน เป็นจำเลยที่ 1-5 ถูกกล่าวหาว่า ปล้นทรัพย์และข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใด 
 
โดยศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุก พ.ต.ต.เงิน เป็นเวลา 3 ปี และยกฟ้องจำเลยที่ 2-5 ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมด 
 
นางสาวประทับจิต นีละไพจิตร บุตรสาวของทนายสมชาย กล่าวว่า พยานที่ต้องการให้การสืบเพิ่ม คือพยานจากบริษัทผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ยืนยันความถูกต้องของข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของทนายสมชายและตำรวจทั้งห้าในวันเกิดเหตุ ซึ่งเป็นหลักฐาสำคัญในคดี 
 
โดยศาลชั้นต้นได้พิพากษาว่า หลักฐานดังกล่าวไม่มีความน่าเชื่อถือ เพราะเป็นเพียงสำเนา และไม่มีการยืนยันวามถูกต้องแท้จริงของหลักฐาน 
 
นางสาวประทับจิตกล่าวว่า ตำรวจและอัยการไม่มีความจริงใจละความพยายามที่หาหลักฐานที่มีน้ำนักและความน่าเชื่อถือ ถึงแม้ว่าจะทำได้ โดยเฉพาะในกรณีหลักฐานข้อมูลการใช้โทรศัพท์ดังกล่าว 
 
ทนายสมชาย นีละไพจิตร ถูกทำให้หายตัวไป เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2547 ขณะกำลังขับรถอยู่บนถนนรามคำแหง มีพยานเห็นว่า เขาถูกบังคับให้จอดรถ และถูกบังคับให้ขึ้นรถอีกคันนึงไป
 
ตำรวจห้าคนถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการบังคับสูญหายทนายสมชาย โดยส่วนใหญ่ในนั้นมีส่วนร่วมในคดีการซ้อมทรมานผู้ต้องหาแบ่งแยกดินแดงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ทนายสมชายเป็ทนายให้อยู่และได้เปิดโปงเรื่องการซ้อมทรมานดังกล่าว 
 
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกฎหมายไทยยังไม่รองรับเรื่องการบังคับสูญหาย (การฆาตกรรมแต่หาศพไม่พบ) ทำให้ตำรวจทั้งห้าคนถูกกล่าวหาเพียงแค่ข้อหาปล้นทรัพย์และข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใด 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net