สนธิ ลิ้มทองกุล ระบุ ปชต. ถูกจริตคนไทยไม่ได้หมายความว่า 1 คนต้อง 1 เสียง อุปมาดั่งใช้ช้อนตักอาหาร-ไม่ได้ใช้มีดกับส้อมเหมือนยุโรป ชี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน เป็นสงครามสองฟากระหว่างคุณงามความดี กับสิ่งที่ชั่วร้ายอย่างตระกูลชินวัตร ลั่นไม่เอานายกฯ คนกลาง เพราะต้องสู้ให้ระบอบทักษิณพินาศ

สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปราศรัยหน้า ททบ.5 เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2557 (ที่มา: FMTV)

10 พ.ค. 2557 - ตามที่ผู้ชุมนุมกองทัพธรรม นำโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ปักหลักที่สถานีโทรทัศน์ ททบ.5 ใกล้ BTS สนามเป้า ถ.พหลโยธิน นั้น ล่าสุดเมื่อเวลา 20.15 น. วานนี้ (9 พ.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยที่เวทีกองทัพธรรม ซึ่งปักหลักหน้าสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ว่า วันนี้ได้สั่งให้หยุดรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ทางเอเอสทีวี เนื่องจากวันนี้ประชาชนออกมาชุมนุม และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ได้โทรศัพท์ไปชวนให้มาขึ้นเวทีกองทัพธรรมจึงมาร่วมเวทีด้วย

สนธิกล่าวด้วยว่า ยังมั่นใจว่าสิ่งที่เคยพูดไว้ไม่ผิด และจะพูดเหมือนเดิม เพราะเป็นการพูดความจริง การออกมาของพี่น้องครั้งนี้เป็นการแสดงเจตนารมณ์ให้ประเทศชาติเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง แต่จะจบได้ทหารต้องออกมาทำหน้าที่ เราต้องการให้ประเทศไทยเดินไปในรูปแบบไหน จะยกอุทาหรณ์สมัยรัชกาลที่ 5 สมัยก่อนคนไทยยังรับประทานอาหารด้วยมือ เมื่อพระองค์เสด็จประพาสยุโรป และเห็นว่าชาวยุโรปรับประทานอาหารด้วยช้อน มีด ส้อม เมื่อพระองค์กลับมาและต้องการให้คนไทยรับประทานอาหารด้วยเครื่องมือ พระองค์ท่านก็ประยุกต์ให้คนไทยใช้ช้อนตักอาหาร ไม่ใช้มีด หรือส้อมตัก เพราะนั่นคือฝรั่ง นี่คือการผสมผสานให้เข้ากับจริตของคนไทย

"ประชาธิปไตยก็เช่นเดียวกัน ไม่ได้หมายความว่า ต้อง 1 คน 1 เสียง เพราะประชาธิปไตยคือการจัดสรรผลประโยชน์ให้ลงตัว ให้ได้กันทุกฝ่าย ไม่ใช่ได้แค่นักการเมือง"

สนธิกล่าวด้วยว่า ที่ประชาชนออกมาต่อสู้นั้น ไม่ได้ต้องการปฏิรูปการเมือง อย่าหลงเข้าใจผิด เราไม่ได้ปฏิรูปการเมืองนะ แต่เราปฏิรูปประเทศเพื่อคนไทย 65 ล้านคน

เราไม่ได้ปฏิรูปเพื่อให้การเลือกตั้งโปร่งใสหรือซื่อสัตย์สุจริต เพราะมันเป็นไปไม่ได้ อย่ามาสู้เพื่อนักการเมืองอีกต่อไป ให้จำเอาไว้พี่น้อง วันนี้ต้องเป็นวันที่เราต้องมาเรียกร้องให้นักการเมืองเสียสละ หยุดเล่นการเมืองไปอย่างน้อย 5 ปี ไม่ว่าหมอนั่นจะหล่อหรือไม่หล่อ ช่างหัวมัน เราต้องทำให้คนไทย 65 ล้านคน ไม่ใช่ทำให้พรรคใดพรรคหนึ่ง ต้องจำอันนี้เอาไว้ ใส่ใจให้ดี

"ประเทศชาติทุกวันนี้ มันยิ่งกว่าล่มสลาย มันไม่มีอะไรที่เลวร้ายกว่านี้อีกแล้ว เราดูตัวเลขทางเศรษฐกิจ ดัชนีสังคม เราวัดระดับศีลธรรม คุณธรรม เราอยู่ในขั้นฉิบหายแล้วพี่น้องเอ๋ย"

"เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าเราออกมาอย่างนี้ เราต้องมีเป้าที่ชัดเจน เราต้องทำเพื่อลูกเพื่อหลานของเรา เราต้องทำให้เขารู้ ว่าประเทศไทยในขณะนี้เป็นประเทศไทยในช่วงเปลี่ยนผ่าน เป็นสงครามสองฟาก สงครามของคุณงามความดี สงครามกับสิ่งที่ชั่วร้ายอย่างเช่นตระกูลชินวัตร"

"เราอย่าไปหลงอะไรทั้งสิ้น เราหลงไม่ได้ เราอย่าไปเอานายกรัฐมนตรีคนกลาง กลางอะไรกัน วันนี้ เราต้องสู้เพื่อให้ระบอบทักษิณ ระบอบชินวัตรที่มีแต่ความชั่วร้าย ให้มันพังพินาศ อย่าให้กลับมาอีกเป็นอันขาด แล้วนายกรัฐมนตรีคนกลางจะขึ้นมาเป็นกลางได้อย่างไร ใช่ ไม่ใช่พี่น้อง อย่าหลงประเด็น เราต้องไม่ประนีประนอมเรื่องใดทั้งสิ้นกับนายกรัฐมนตรีคนกลาง เราต้องเอานายกรัฐมนตรีที่พร้อมฟาดฟันความชั่วร้ายให้พินาศฉิบหายไป แล้วเราค่อยมาฟื้นฟูตัวเราเอง"

"พี่น้องครับอย่าไปหลงวาทะกรรมว่าพักการเมือง 1 ปีแล้วปฏิรูป เราไม่ต้องการปฏิรูปการเมือง ต้องการขับไล่นักการเมือง ปฏิรูปการเมืองไปทำไม ปฏิรูปการเมืองเพื่อให้พวกนี้กลับมากินบ้านกินเมือง ด้วยวิธีแยบยลกว่าเดิม ใช่ ไม่ใช่ พี่น้องจะเอาหรือ เอาไม่เอา"

"เราต้องสามัคคี เราต้องมีเอกภาพ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเดินไปเราต้องเดินด้วยสติ เราอย่าไปหลงในวาทะกรรม เราอย่าท้อ เราอย่าเหนื่อย ผมพูดในรายงานเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว ผมบอกว่าเราไม่ได้แพ้นะ เราชนะอยู่แล้ว เวลาเป็นของเรา แต่เวลาของพวกเขามันหมดแล้ว ใช่ไม่ใช่พี่น้อง มันเป็นเรื่องของการดำน้ำว่าใครอึดกว่าใคร เพราะฉะนั้นแล้วท้อไม่ได้ ต้องไม่ท้อ พี่น้องให้ระลึกเสมอว่าเมื่อเราเดินออกมาข้างนอก แล้วสละแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อเราเอาทุกสิ่งทุกอย่างกลับเข้ามาสู่ประเทศไทยเหมือนเดิม หรืออีกนัยยะหนึ่ง ขอประเทศไทยที่ดีของเรากลับคืนมาหาเราเสียที ใช่ ไม่ใช่พี่น้อง

สนธิกล่าวด้วยว่า ต้องทำให้แต่ละส่วนแต่ละภาคกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง ทหารต้องเป็นของจอมทัพไทย เป็นทหารของพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่ทหารของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือทหารของทักษิณ ชินวัตร ให้ทหารมีศักดิ์ศรี มีเกียรติยศ ส่วนเราต้องสู้โดยเอาชาติเป็นตัวตั้ง อย่าเอาปฏิรูปการเมืองเป็นตัวตั้ง ปฏิรูปการเมืองแล้วยังไง เราต้องท่องนะโมตลอดว่าไม่เอานักการเมือง ขอให้พวกมึงลงนรกไป อย่าลืมเป็นอันขาด

อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวด้วยว่า ไม่เคยทิ้งพ่อแม่พี่น้องที่ออกมาต่อสู้ ยังสนับสนุนทุกคนและให้กำลังใจ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ถึงแม้ตนจะไม่เห็นด้วยกับบางประเด็นเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ไม่เป็นไร เชื่อว่าวันหนึ่งความจริงจะพิสูจน์ว่าตนพูดไม่ผิด แต่ตนถือว่านายสุเทพเสียสละให้ชาติบ้านเมือง ต้องขอบคุณนายสุเทพต่อหน้าพี่น้องประชาชน แน่นอนการรบทัพจับศึก ยุทธวิธีของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน แต่เป้าหมายเหมือนกัน คือโค่นระบอบทักษิณ และต้องเอาประเทศไทยคืนมาให้คนไทย 65 ล้าน ไม่ใช่เอากลับมาให้นักการเมืองเหมือนเดิม

สนธิ กล่าวในตอนท้ายว่า การรัฐประหารไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่ถ้ารัฐประหารแล้วเอาชาติบ้านเมืองมาเป็นสมบัติผลัดกันชม เหมือน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นั่นเป็นเรื่องที่ชั่วร้ายที่สุด แต่ถ้ารัฐประหารแล้วทหารถอยออกไป ให้ผู้มีความรู้ความสามารถมาเปลี่ยนแปลงชาติบ้านเมือง เพื่อคน 65 ล้านคน ก็เป็นเรื่องที่ดี เป็นสิริมงคล ขอฝากไปถึงทหารที่ยังจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ วันนี้จะเป็นมาตรา 7 หรือมาตรา 3 ไม่ควรเอามาใช้ เพราะเมื่อเราเล่นมาตรานี้ เรากำลังกดดันพระเจ้าอยู่หัวให้ตัดสินใจเลือกข้าง พระองค์เลือกข้างไม่ได้ เพราะคน 65 ล้านคนล้วนเป็นพสกนิกร แต่ทหารเลือกข้างได้ ทหารต้องออกมาแล้วบอกว่าเราต้องไม่ทำให้เป็นที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท

“เพราะฉะนั้นต้องมีกลุ่มทหารเดินไปประกาศตัวบอกว่าตระกูลชินวัตรออกไป หยุด ไม่ต้องใช้มาตรา 3 มาตรา 7 พวกผมจะจัดการเอง เราต้องไม่ใช้มาตรา 3 มาตรา 7 เพราะนั่นคือการกดดันพระเจ้าอยู่หัว ทหารต้องไม่ให้ใครมากดดันพระเจ้าอยู่หัว ทหารต้องทำเอง” นายสนธิ กล่าวในตอนท้าย

นอกจากนี้ในเวลา 21.00 น. สนธิได้ไปปราศรัยที่เวที กปปส. แจ้งวัฒนะ ที่นำโดย "พุทธะอิสระ" ด้วย โดยระบุว่า "หลวงปู่พุทธะอิสระ" เคยช่วยเหลือตลอดการชุมนุม 193 วันในปี 2551 ส่วนการชุมนุมในปัจจุบันนั้น เขาต้องต้องดูแลเอเอสทีวี และเอเอสทีวีต้องยืนด้วยลำแข้งตัวเอง และไม่อยากมาสร้างความขัดแย้งให้นายสุเทพ เป็นการเตะตัดขาอีก และหลวงปู่ก็มีจุดยืนหลายอย่างต่างจากนายสุเทพ ดังนั้นเกิดเป็นนายสนธิลำบาก ออกมาก็โดนด่า อยู่เฉยก็โดนด่า ไม่พูดก็โดนด่า พูดก็โดนด่า