ไม้หนึ่ง ก.กุนที หรือ กมล ดวงผาสุก กวีเสื้อแดง ถูกยิงบริเวณลานจอดรถ ลาดปลาเค้า 24 ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา เสื้อแดงช็อค-ไว้อาลัย นัดรวมพลรับศพที่ รพ.ตำรวจ ก่อนเคลื่อนไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลา 1 วัดเสมียนนารี

23 เม.ย. 2557 โพสต์ทูเดย์ รายงานว่า เมื่อเวลา 14.10 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่ “ไม้หนึ่ง ก. กุนที” หรือ นายกมล ดวงผาสุก กวีเสื้อแดง บริเวณลานจอดรถ หน้าร้านอาหารครกไม้ไทยลาว ซ.ลาดปลาเค้า 24 เขตลาดพร้าว

ผู้เห็นเหตุการณ์ ล่าว่า ภายหลังที่นายกมล รับประทานอาหารเสร็จและอยู่ระหว่างการเดินไปเอารถที่ลานจอดรถ มีเสียงดังขึ้นประมาณ 5-6 นัด เมื่อตามออกไปดูพบว่านายกมล นอนแน่นิ่งฟุบอยู่กับพื้น ร่างจมกองเลือด

ทั้งนี้นายกมลได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลเมโย โดยแพทย์ได้นำเข้ารักษาในห้องฉุกเฉิน ก่อนที่นายกมลจะเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา  ด้าน พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่แต่เมื่อทราบเรื่องจากผู้สื่อข่าวแล้วก็จะสั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าวทันที

ขณะที่เว็บไซต์ข่าวสด รายงายว่า ตำรวจสน.โชคชัยเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ วีครอส สีดำ เลขทะเบียน 2 กค9611 กรุงเทพฯ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้ากระจกหน้าฝั่งคนขับ 4 นัดและประตูฝั่งคนขับอีก 1 นัด พบปลอกกระสุนปืน ขนาด .45 มม.บริเวณก้านปัดน้ำฝน 2 ปลอก ใกล้กันที่พื้นตกอยู่อีก 3 ปลอก ฝั่งคนนั่งพบกองเลือด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่งกายเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาว กางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้ม รองเท้าหนัง ถูกยิงเข้ากระสุนเข้าหน้าอกทะลุหลัง พลเมืองดีเร่งนำส่งโรงพยาบาลเมโย

สอบสวนเบื้องต้นพบว่า ไม้หนึ่ง ก.กุนที มารับประทานอาหารที่ร้านดังกล่าว ขณะเดินมาขึ้นกระบะอีซูซุ วีครอส สีดำ เลขทะเบียน 2กค9611 กรุงเทพมหานคร ปรากฎว่ามีคนได้ยินเสียงปืนดัง 5-6 นัด เมื่อตามไปดูตรงลานจอดรถ เห็นร่างไม้หนึ่งฯ ล้มฟุบแน่นิ่งจมกองเลือด ส่วนอาการนั้นแพทย์ร.พ.เมโยพยายามยื้อชีวิต แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตเวลาต่อมา

นายวโรดม พรมมาลา อายุ 28 ปี ซึ่งพักอยู่ฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ ระบุว่า ได้ยินเสียงปืน 4-5 นัดจึงหันมาดู พบคนร้าย 2 คนสวมหมวกไหมพรม คนยิงสูงประมาณ 170 เซนติเมตรลงมือยิงแล้ววิ่งไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นโซนิค สีบรอนซ์เงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขี่หลบหนีออกไปทางปากซอยลาดปลาเค้า 24 ส่วนพยานอีกคนให้การว่าผู้ตายกับเพื่อนรวม 4 คน รวมถึงดร.สุดา รังกุพันธ์ หรืออาจารย์หวาน อาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและแกนนำปฏิญญาหน้าศาล มานั่งรับประทานอาหารที่ร้านครกไม้ไทยลาว โดยผู้ตายมาเป็นประจำ ภายหลังรับประทานอาหารเสร็จจึงเดินทางกลับ ระหว่างสตาร์ทเครื่องอยู่ที่รถนั้นก็มีเสียงดังขึ้น 4-5 นัด เมื่อออกไปดูพบว่าไม้หนึ่งฯ นอนแน่นิ่งฟุบอยู่กับพื้น ร่างจมกองเลือด จึงรีบพาส่งร.พ.เมโย  

ส่วนแพทย์ที่รพ.เมโย ตรวจสภาพศพพบบาดเเผลฉกรรจ์ 1 เเห่งที่หน้าอกข้างซ้าย เนื่องจากถูกยิงเข้าราวนมทะลุชายโครง จำนวน 1 นัด ขณะที่บรรยากาศบริเวณด้านหน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเมโยเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ท่ามกลางกลุ่มคนเสื้อเเดงที่เดินทางมาให้กำลังใจ รวมถึงสุดา รังกุพันธ์ หรืออาจารย์หวาน แกนนำกลุ่มปฏิญญาหน้าศาล นพ.เหวง โตจิราการ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย และนางดารุณี กฤตบุญญาลัย

เวลา 17.20 น. เจ้าหน้าที่รพ.เมโย เปิดห้องฉุกเฉินชั้น 1 ให้กับเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเคลื่อนย้ายศพไปผ่าชันสูตรยังนิติเวช ร.พ.ตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่นำศพออกมา กลุ่มคนเสื้อเเดงกว่า 40 คนต่างร่วมไว้อาลัยพร้อมใจกันร้องเพลงนักสู้ธุลีดินเพื่อส่งวิญญาณไม้หนึ่งฯ ไปสู่สุขคติ บางคนถึงกับร่ำไห้ออกมาด้วยความเสียใจ ก่อนทั้งหมดเเยกย้ายกันกลับ

เวลา 18.00 น. วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมชั้นสอง สน.โชคชัยมีการประชุมของตำรวจกว่า 2 ชม.จากนั้น พ.ต.อ. ธนวัตร วัฒนกุล ผกก.สน.โชคชัย ได้เปิดเผยว่า ตำรวจกำลังหาภาพจากกล้องวงจรปิด สอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่สรุปว่ามาจากเรื่องใด ตั้งไว้ทุกประเด็น ทั้งการเมือง เรื่องส่วนตัว และการขึ้นเวทีอาจกล่าวพาดพิงใคร ซึ่งต้องไล่ดูเทปการขึ้นพูดบนเวทีด้วย สำหรับหลักฐานที่เกิดเหตุ ตำรวจเก็บปลอกปืนขนาด .45 ออโต้ได้ 5 ปลอก บาดแผลเท่าที่สอบถามแพทย์ระบุจุดตายที่หน้าอก กระสุนตัดขั้วหัวใจ

ด้านสุดา รังกุพันธุ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ไม้หนึ่งเป็นคนต่อสู้เพื่อสังคม ประชาชน และประชาธิปไตยมาตลอดชีวิต เป็นบุคคลเรียกร้องถึงความเท่าเทียมสิทธิเสรีภาพมาโดยตลอด ตอนนี้สถานการณ์การเมืองมีแต่ความรุนแรง ไล่ล่า สังหารบรรดาแกนนำ หนึ่งในนั้นก็คือไม้หนึ่ง ซึ่งมาจากฝ่ายที่มีความต้องการจะกำจัดผู้นำประชาธิปไตย ขอให้ไม้หนึ่งรับรู้ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่การต่อสู้ของพี่น้องประชาชนจะยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างเข้มแข็ง ไม่หวั่นไม่ท้อ และที่สำคัญขอสดุดีให้กับคุณไม้หนึ่งในฐานะประชาธิปพิทักษ์ไทย ซึ่งเขาได้รังสรรค์คำนี้ไว้เพื่อเรียกวีรชนประชาธิปไตยทุกท่าน แต่วันนี้ขอให้ทุกคนใช้คำนี้เรียกคืนให้แก่เขา

“ทุกวันนี้รู้สึกว่าชีวิตของพวกเราคนเสื้อแดงมีแต่ความเสี่ยงยิ่งเป็นแกนนำยิ่งเสี่ยงมากขึ้น ทั้งๆ ที่เราเป็นแค่คนธรรมดา แต่กลับไม่มีความปลอดภัยในชีวิต ตรงข้ามกับฝั่งคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ผบ.ตร. ออกมาจัดมาตรการการดูแลรักษาความปลอดภัยให้ แต่คนเสื้อแดงและแกนนำอีกมากมายกลับต้องอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยง ถูกคุกคามถูกทำร้าย อยากฝากให้เจ้าหน้าที่หันมาดูแลชีวิตของคนเสื้อแดงด้วย คุณไม้หนึ่งมีอุปนิสัยที่ดีมาตลอด เป็นคนนิ่งๆ จิตใจดีรักประชาชน รักประชาธิปไตย ขอไม่พูดถึงรายละเอียดส่วนอื่นๆ หวังเพียงอยากให้ทุกคนรักและระลึกถึงคุณไม้หนึ่งในเรื่องการต่อสู้เพื่อประชาชนทุกคน” อาจารย์หวาน กล่าว

สำหรับการจัดงานศพ คนใกล้ชิดและคนเสื้อแดงบางส่วนได้นัดรวมตัวกันที่แผนกนิติเวช ร.พ.ตำรวจ เวลา 10.00 น. วันที่ 24 เม.ย. และจะตั้งขบวนแห่ศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเสมียนนารี ศาลา 1 

ไม้หนึ่ง ก.กุนที 

“ไม้หนึ่ง ก.กุนที” เป็นนามปากกาของ "กมล ดวงผาสุก" เจ้าของร้านข้าวหน้าเป็ด บะหมี่เป็ด "Duck Poet's Society" เขาเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากการเขียนบทกวีการเมืองลงใน มติชนสุดสัปดาห์ และนิตยสารอื่นๆ ตั้งแต่ปลายทศวรรษ 2530 ถึงต้นทศวรรษ 2540 พื้นเพของเขาเป็นชาวอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม จบการศึกษาปริญญาตรีจากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ผลงานเขียนชิ้นสำคัญของเขา ได้แก่ บางเราในนคร (2541) รูปทรง มวลสาร พลังงาน และความรัก (2544) และ สถาปนาสถาบันประชาชน (2554) เป็นต้น

ภายหลังรัฐประหาร เขาเป็นอีกหนึ่งคนที่ออกมาต่อต้าน และเริ่มปรากฏตัวบนเวทีของคนเสื้อแดง ร่ายบทกวีการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอันทรงพลัง จนกระทั่งเขากลายเป็นที่รู้จักในนาม “กวีราษฎร" "กวีเสื้อแดง” มีบทกวีหลายชิ้นที่เป็นที่กล่าวขวัญถึงจนปัจจุบัน เช่น ‘ประชาทิพย์ พิทักษ์ไทย’ ที่แต่งให้ นวมทอง ไพรวัลย์ คนขับแท็กซี่ชนรถถังต้านรัฐประหาร 49 ซึ่งภายหลังได้ผูกคอตายเพื่อยืนยันอุดมการณ์ของตนในวันที่ 31 ต.ค. ปีเดียวกัน

หลังจากนั้นเขายังคงร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มคนเสื้อแดงโดยตลอด ในปี 2553 ไม้หนึ่งฯ เป็นส่วนหนึ่งของแกนนำที่จัดตั้งพรรค ‘แนวร่วมสังคมประชาธิปไตย’ ซึ่งในภายหลังต้องยุติการตั้งพรรคไปเนื่องจากไม่สามารถดำเนินการตามเงื่อนไขของกฎหมายเลือกตั้งได้

หลังการสลายการชุมนุมปี 2553 ไม้หนึ่งฯ และแกนนำจำนวนหนึ่งได้หายหน้าไปจากเวทีการเคลื่อนไหวทางการเมืองพักใหญ่ อาจจะด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ก่อนจะกลับมาอีกครั้งและผนึกกำลังกับ สุดา รังกุพันธ์ หรือ อ.หวาน ขับเคลื่อนเรื่องการช่วยเหลือนักโทษทางการเมือง มีการจัดตั้งกลุ่มปฏิญญาหน้าศาล จัดเสวนาเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม

ราวปี 2555 เขาเป็นแนวร่วมในการขับเคลื่อนแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ขับเคลื่อนโดยคณะกรรมการรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 (ครก.112) 

จนกระทั่งต้นปี 2556  เขายังมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนขบวน “29 มกราหมื่นปลดปล่อย” เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการปล่อยนักโทษการเมืองจำนวนมากที่ถูกจับกุมหลังสลายการชุมนุมและยังถูกคุมขังจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้เขายังจัดรายการทางช่องเอเชียอัพเดทด้วย 

ในช่วงปี 2553 เขามีส่วนร่วมกับศิลปินคนอื่นจัดทำรูปปั้น "นวมทอง ไพรวัลย์" โดยไม้หนึ่งตั้งชื่อประติมากรรมนี้ว่า “นวมทอง ไพรวัลย์ ประชาทิพย์พิทักษ์ไทย” โดยคำว่าประชาทิพย์ ปรากฏในบทกวีของเขาหลังเหตุการณ์สงกรานต์เลือด โดยเขาให้เหตุผลว่า โดยมโนคติเดิมมักบอกว่าคนดีตายแล้วขึ้นสวรรค์ แต่เขาเห็นว่าคนที่มีอุดมการณ์เพื่อส่วนรวม ตายแล้วก็คงไม่ไปเสวยผลบุญส่วนตัวด้วยการไปสวรรค์ แต่น่าจะยังยินดีเป็นเจ้าที่เจ้าทาง ผีทุ่งผีนา ที่อยู่ใกล้ชิดประชาชน ดูแลปกป้องคุ้มครองประชาชนผู้ต่อสู้เพื่อส่วนรวม