Skip to main content
sharethis

ประธานเครือข่ายต้านบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์  แจ้งความเอาผิด 'พระ' แต่งหญิง และอั้ม-เนโกะ ฐานดูหมิ่นเหยียดหยามศาสนา

17 เม.ย. 2557 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่ปรากฎตามภาพถ่าย ซึ่งเผยแพร่อยู่ในสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก และที่ปรากฎเป็นข่าวในสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ตามความผิดฐานดูหมิ่นเหยียดหยามศาสนา กระทำด้วยประการใดๆ แก่วัตถุหรือสถานที่อันเป็นที่เคารพในทางศาสนา, ความผิดฐานแต่งกายเลียนแบบภิกษุ สามเณร หรือนักบวชในศาสนาโดยมิชอบ, ความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 206, 208, 341 ประกอบมาตรา 83 และ 86 โดยนำเอกสารและภาพถ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวม 42 ภาพ มามอบไว้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินคดี

นายสงกานต์ กล่าวว่า ตามที่ได้รับเบาะแสจากสมาชิกเครือข่ายฯ และมีการตรวจสอบภาพถ่ายที่ส่งมาถึงตนตั้งแต่ช่วงต้นปี 57 ที่ผ่านมา เป็นเวลากว่า 3 เดือนเต็ม พบภาพถ่ายพระภิกษุสงฆ์ซึ่งมีพฤติกรรมแต่งกายเป็นหญิง มีการสวมใส่วิกผมยาว โดยนำภาพดังกล่าวเผยแพร่ทางเฟซบุ๊กในชื่อว่า “นู๋ร๊ากผัวเขา ผัวเขาก็ร๊ากนู๋” แสดงภาพ และข้อความต่างๆ แลกเปลี่ยนกันในหมู่สมาชิกในกลุ่มดังกล่าวที่มีกว่า 350 คน อย่างไม่เหมาะสมกับเพศบรรพชิต สร้างความเสื่อมเสียแก่วงการพระพุทธศาสนา ขณะนี้ตนยังพบข้อมูลว่าพระรูปนี้สังกัดวัดดังแห่งหนึ่ง โดยมีพฤติการณ์คือในช่วงกลางวันยังห่มจีวรเป็นพระสงฆ์ แต่เวลากลางคืนจะแต่งกายเป็นหญิงสาวออกไปเที่ยวกลางคืน มีการตั้งฉายาว่า “นาตาลีร้อยหน้า”

นอกจากนี้ยังมีการสนทนากันถึงพฤติกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ชาย หรือที่ภาษาอีสานเรียกว่า “ซีคาด” ว่าได้มากี่คน พูดคุยกันเรื่องซื้อหวยใต้ดิน ดื่มสุรา เบียร์ในช่วงที่ออกเที่ยวกลางคืน ตบตีกับพระหรือเณร การเดินสายประกวดเทพี ตามเวทีประกวดต่างๆ มาอวดกัน รวมถึงการใช้ถ้อยคำ และนำภาพที่ไม่เหมาะสมมาโพสต์ประกอบ จึงต้องการให้ทาง บก.ป.ดำเนินการใน 4 คดี ประกอบด้วย

1.กรณีของผู้ที่ใช้ชื่อในเฟซบุ๊ก ว่า “นู๋ร๊ากผัวเขา ผัวเขาก็ร๊ากนู๋” เจ้าของฉายา “นาตาลีร้อยหน้า” 2.กรณีภาพถ่ายชายอายุระหว่าง 17-20 ปี สวมอังสะ ใช้ปากอมอวัยวะเพศ โดยพบเบาะแสว่ามีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ 3.กรณีภาพถ่ายชายอายุระหว่าง 18-25 ปี สวมอังสะ และภาพการประกวดเทพีตามงานต่างๆ มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.สุรินทร์ 4.กรณีที่ นายศรัณย์ ฉุยฉาย หรือ “อั้ม เนโกะ” นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถ่ายภาพในขณะใช้มือโหนพระศอ (คอ) พระพุทธรูปปางห้ามญาติ ด้วยกิริยาไม่เหมาะสม เนื่องจากพระพุทธรูปเสมือนหนึ่งตัวแทนพระพุทธเจ้าที่พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพบูชา เหตุเกิดใน กทม. นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวหาสมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย ว่าเป็นผู้ให้ข้อมูลเบาะแสต่างๆ เหล่านี้ด้วย

นายสงกานต์ กล่าวอีกว่า ได้ประสานให้ นางนวรัตน์ พัชราวุธ ผู้ชำนาญการด้านกฎหมายรวบรวมพยานหลักฐานที่ใช้ประกอบการดำเนินคดีและประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทุกกรณี โดยหากพบข้อเท็จจริงต่างๆ ตามที่ปรากฎ ก็ขอให้พนักงานสอบสวน บก.ป.ดำเนินคดีจนถึงที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบโดยมอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.1 กก.3 และ กก.4 บก.ป.ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวข้อง เร่งสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามที่มีการแจ้งความไว้หรือไม่ รวมทั้งสอบปากคำผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ก่อนนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป โดยยืนยันว่าทาง บก.ป.จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นนั้น พระธรรมสุธี อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎ์ และนายกสมาคมมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ซึ่งมีการระบุข้อมูลของพระฉาว ว่าสังกัดวัดตัวย่อ “ม” กล่าวยืนยันว่า ภาพของพระที่ปรากฎเป็นข่าว น่าจะเป็นพระที่มาใช้สถานที่วัดแห่งนี้เป็นสนามสอบพระปริยัติธรรมเท่านั้น เรื่องนี้ได้ตรวจสอบรายชื่อพระทั้งหมดกว่า 200 รูปแล้ว ซึ่งพระรูปดังกล่าวไม่ได้สังกัดวัดมหาธาตุฯ อย่างแน่นอน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net