Skip to main content
sharethis
แจงเหตุ พบภาพการจัดกิจกรรมบนเวทีของกลุ่ม อพปช.ที่ จ.สกลนคร ถูกตัดต่อนำออกเผยแพร่ทางทางสำนักข่าวทีนิวส์ กล่าวหามีการจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธ-แพร่แนวคิดแบ่งแยกดินแดน ทำถูกเพ่งเล็งจากหน่วยงานด้านความมั่นคง
 
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 20 มีนาคม ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้อีสาน” รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และประธานกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ (อพปช.) พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหารสำนักข่าวทีนิวส์ รวมทั้งเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ www.tnews.co.th และบุคคลที่ใช้ชื่อว่า “Nui Cfour” ซึ่งเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและภาพถ่ายทางเว็บไซต์เฟซบุ๊ก และโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ ที่มีเครือข่ายติดตาม ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยนำภาพถ่าย สำเนาข่าวที่เผยแพร่ตามเว็บไซต์สำนักข่าวต่างๆ และเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง มอบให้พนักงานสอบสวนไว้ประกอบการพิจารณาดำเนินคดี
 
นายสุภรณ์ กล่าวว่า เหตุที่ต้องเข้าแจ้งความดำเนินคดีในครั้งนี้ เนื่องจากปรากฏภาพการจัดกิจกรรมบนเวทีของกลุ่ม อพปช.ที่ จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีการตัดต่อภาพดังกล่าวนำออกเผยแพร่ทางสำนักข่าวทีนิวส์ กล่าวหาว่ากลุ่ม อพปช.มีการจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธ มีการเผยแพร่แนวความคิดในการแบ่งแยกดินแดน รวมทั้งการใส่ร้ายในกรณีอื่นๆ ทั้งที่ไม่เป็นความจริง เพราะทางกลุ่ม อพปช.มีความชัดเจนว่า เริ่มต้นจากแนวความคิดของผู้นำที่รักประชาธิปไตยในภาคอีสาน 20 จังหวัด ก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ปกป้องประชาธิปไตยและต่อการการกระทำที่เป็นเผด็จการทุกรูปแบบ
 
นายสุภรณ์ กล่าวต่อว่า การกระทำของสำนักข่าวดังกล่าวและผู้ที่เผยแพร่ขยายความต่อจากข่าวสารดังกล่าวมีเจตนาต้องการให้ตนกับคณะกรรมการกลุ่ม อพปช.ถูกเพ่งเล็งจากหน่วยงานด้านความมั่นคง อาทิ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ซึ่งอาจเข้าใจผิด นำข้อมูลไปประกอบการพิจารณาดำเนินคดีกับตนในความผิดร้ายแรงว่าเป็นกบฏต่อแผ่นดิน มีการจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธ ทั้งที่ความเป็นจริงเราติดอาวุธทางปัญญาให้กับมวลชน ให้กับผู้ที่จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่ม อพปช.
 
“ผมยืนยันว่า อพปช.มีจุดประสงค์การตั้งกลุ่มที่ชัดเจน และเราไม่มีการฝึกฝนหรือจัดตั้งกองกำลังใดๆ เราเพียงแต่ให้ความรู้กับประชาชนทุกพื้นที่ทั่วประเทศเกี่ยวกับเรื่องประชาธิปไตย และจะต่อต้านการปฏิวัติรัฐประหาร หรือการยึดอำนาจรัฐด้วยวิธีที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เรามีจุดยืนตรงนี้ โดยขณะนี้ได้เริ่มมีการเปิดรับสมัครสมาชิกเรื่อยมาตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม โดยตั้งเป้าหมายว่าจะมีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 2 แสนคนทั่วประเทศ และอนาคตก็อาจมีการจัดตั้งโรงเรียนเปิดสอน ให้ความรู้กับประชาชนต่อไป” นายสุภรณ์ กล่าว
 
นายสุภรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการรับสมัครบุคคลที่จะเข้าเป็นสมาชิก เราก็มีคณะกรรมการแต่ละจังหวัดๆ ละ 10 คน เป็นผู้คอยคัดกรอง ไม่ใช่ว่าใครจะสมัครเข้ามาก็ได้ หรือรับไว้ทั้งหมด ต้องมีผู้รับรอง มีการประชุม ซึ่งเร็วๆ นี้ ก็จะมีการประชุมใหญ่ โดยตนจะนัดหมายกับประธานกรรมการของแต่ละจังหวัดอีกครั้งหนึ่ง และเราดำเนินการทั่วประเทศ ขณะนี้ได้เริ่มที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกแล้ว ก็จะทำไปเรื่อยๆ จนทั่วทุกภาค
 
ด้าน พ.ต.ท.พงษ์ไสว กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้ร้องไว้ก่อนจะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net