แนะประชาชนใกล้บ่อขยะรับมือ เตือนยังมีบ่อขยะอีกมากที่น่าห่วง

 

จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์เพลิงโหมไหม้กองขยะขนาดใหญ่ที่ตำบลแพรกษาอำเภอปากน้ำจังหวัดสมุทรปราการ เป็นเนื้อที่กว่าร้อยไร่และส่งผลกระทบให้กับประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก  นพ.กิติพงษ์ พนมยงค์  แพทย์จากกลุ่มงานอาชีวะเวชศาสตร์ โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ได้กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นนี้ในการประชุมวิชาการเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 2 ในหัวข้อ “ถึงเวลาเผชิญภัยพิบัติ”  ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ และคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 3 โรงแรมดิเอมเมอรัล รัชดา กรุงเทพมหานครว่า เหตุการณ์ไฟโหมไหม้บ่อขยะที่จังหวัดสมุทรปราการนั้นอาจจะจัดได้ว่าเป็นเหตุการณ์ภัยพิบัติเพราะมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายอำเภอและหลายเขตทั้งในจังหวัดสมุทรปราการและกรุงเทพมหานคร อีกทั้งประชาชนกว่า 200 ครัวเรือนที่อยู่บริเวณรอบของบ่อขยะก็ได้รับผลกระทบจนต้องอพยพออกนอกพื้นที่ด้วย ดังนั้นการเข้าให้การช่วยเหลือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเองก็ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง และจัดระบบในการเข้าให้การช่วยเหลืออย่างเป็นแบบแผนและเป็นรูปธรรม นอกจากนี้แล้วประชาชนที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวหากไม่อพยพออกนอกพื้นที่ก็ต้องเรียนรู้วิธีที่จะอยู่กับพิบัติภัยที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้จากกองขยะให้ได้

แพทย์จากกลุ่มงานอาชีวเวชศาสตร์ โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานีกล่าวว่า พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือพื้นที่ที่อยู่บริเวณรอบกองขยะหนึ่งถึงสองกิโลเมตร ซึ่งพื้นที่เหล่านี้จะถือว่าเป็นพื้นที่สีแดงที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วนส่วนพื้นที่อื่นนอกเหนือจากนี้หากไม่อพยพก็ต้องอยู่ในบ้านด้วยความระมัดระวัง ซึ่งการเผาไหม้จากกองขยะแห่งนี้จะทำให้เกิดหมอกควันที่มีผลต่อระบบทางเดินหายใจ ผู้ที่เป็นโรคทางเดินหายใจควรหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญกับควันโดยตรง และต้องอยู่แต่ในบ้านหรือในตึกที่พักอาศัยและปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิดไม่ให้ควันที่เกิดจากการเผาไหม้เข้าไปได้ นอกจากนี้หากมีแอร์ปรับอากาศก็ควรใช้แอร์ปรับอากาศที่เป็นระบบแอร์แยก ส่วนประชาชนคนไหนที่ต้องออกนอกพื้นที่ก็ควรหาหน้ากากที่มีผงคาร์บอนมาสวมไว้เพื่อป้องกันกลิ่นจากสารพิษหรือจากการเผาไหม้ที่ทำให้เกิดควันไฟ และหากเกิดอาการระคายเคืองดวงตาหรือผิวหนังควรรีบล้างน้ำสะอาดและรีบเข้าไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วน

นพ.กิติพงษ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้สิ่งที่ประชาชนที่อยู่ใกล้บริเวณที่เกิดพิบัติภัยควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อนำไปใช้ปฏิบัติสำหรับตนเองและครอบครัวหากเกิดเหตุในกรณีฉุกเฉินได้ ทั้งนี้เรื่องของการจัดการบ่อขยะก็เป็นเรื่องที่จำเป็นเป็นอย่างมาก ซึ่งตามหลักแล้วของการจัดการบ่อขยะที่ถูกกฏหมายและถูกต้องจะต้องมีการแบ่งแยกอย่างชัดเจนว่าบ่อขยะแต่ละแห่งใช้ทิ้งขยะอะไรแบบไหนบ้างอาทิ ขยะพลาสติก ขยะสารพิษ ขยะทั่วไปก็ต้องมีการระบุชนิดของขยะอย่างชัดเจนเพราะถ้าหากเกิดเหตุพิบัติภัยในลักษณะนี้จะทำให้การเข้าให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างถูกทางและถูกวิธี ซึ่งบ่อขยะที่น่าเป็นห่วงก็ยังมีอีกในหลายพื้นที่โดยเฉพาะบ่อขยะในจังหวัดสระบุรีที่มีเป็นจำนวนมาก

ขณะที่ นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า สำหรับการจัดการภัยพิบัติเราจะต้องมีแผนเตรียมรับมือ โดยยึดตามหลักการ 2P2R คือ การเตรียมความพร้อม(Preparation) การเผชิญเหตุที่ดี (Response) การฟื้นฟู (Recovery) และการป้องกันที่ยั่งยืน (Prevention) โดยการป้องกันถือเป็นสิ่งสำคัญ คือเราจะต้องไม่รอคอยให้ความเสี่ยงเกิดขึ้นก่อน แต่จะต้องมีการวิเคราะห์และเฝ้าระวังความเสี่ยงอยู่เสมอ เช่น ในฤดูกาลนี้มีความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้สูง ก็ควรวิเคราะห์ว่ามีพื้นที่ใดมีความเสี่ยงบ้าง ซึ่งหากเราหมั่นตรวจสอบ มีการป้องกันที่ดี ความเสียหายและภัยพิบัติก็จะไม่เกิด อย่างเช่นกรณีไฟไหม้บ่อขยะหากมีการเตรียมรับมือก็จะไม่เกิดความเสียหายและสร้างผลกระทบในวงกว้าง ซึ่งจากนี้ไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็คงจะต้องเฝ้าระวังแหล่งทิ้งขยะอื่นๆ ด้วย นอกจากนี้ในแต่ละพื้นที่ที่มีความเสี่ยงว่าจะเกิดภัยควรมีการเตรียมแผนเผชิญเหตุด้วย เช่น หากเกิดไฟไหม้และมีลมพัดผ่านจะมีพื้นที่ส่วนใดได้รับผลกระทบบ้าง และกระจายในวงกว้างเพียงใด

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท