Skip to main content
sharethis

ประชุมสภากลาโหมร่วมกับ ผบ.เหล่าทัพ นายกรัฐมนตรีกำชับให้ดูแลความมั่นคงทุกจังหวัด-ต้องไม่มีการแยกดินแดน ชี้บางประเด็นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนบังคับใช้กฎหมายอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทำความเข้าใจประชาชน ไม่เลือกปฏิบัติพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเป็นพิเศษ

ที่ประชุมสภากลาโหม ที่หอประชุม 80 ปีกองทัพอากาศ เมื่อ 4 มี.ค. 2557 (ที่มาของภาพ: เพจ Yingluck Shinawatra)

 

5 มี.ค. 2557 - เมื่อวานนี้ (4 มี.ค.) ที่หอประชุม 80 ปีกองทัพอากาศ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางมาประชุมสภากลาโหม มี พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม  และ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ให้การต้อนรับ

จากนั้น พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เดินทางมาถึง โดยก่อนประชุม นายกรัฐมนตรีจะร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพก่อนเริ่มการประชุมในเวลา 14.00 น. ขณะที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ไม่ได้มาร่วมประชุมเนื่องจากเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. เนื่องจากแพทย์ตรวจพบนิ่วในถุงน้ำดี มีการผ่าตัดแล้วและอยู่ระหว่างพักรักษาตัว

สำหรับวาระการประชุมสภากลาโหม ประกอบด้วย การเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ออกจากราชการตามอัตรากำลังและเงินทดรองราชการช่วยเหลือผู้ประสบภัยฉุกเฉิน  รวมถึงการรายงานการฝึกคอบร้าโกลด์ 2014 และการบรรยายสรุปงานด้านการข่าว รวมถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการรณรงค์การใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)

มีรายงานด้วยว่า จะมีการหารือถึงสถานการณ์การเมืองภายหลัง กปปส. ยุบเวทีไปอยู่ที่สวนลุมพินี เพื่อหารือเรื่องการวางกำลังเจ้าหน้าที่ทหารดูแลความความสงบรียบร้อย ตลอดจนการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีของสมัชชาปกป้องประชาธิปไตยล้านนา (สปป.ล้านนา)

ต่อมา สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่า พ.อ.ปภาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยผลการประชุมสภากลาโหมว่า รมว.กลาโหม ได้ขอบคุณหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม ที่ได้ชี้แจงกำลังพลและครอบครัว ให้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ในวันที่ 30 มีนาคมนี้ ได้กำชับให้กำลังพลวางตัวให้เหมาะสม ไม่ตกเป็นเครื่องมือของพรรคการเมือง และให้กำลังพลออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง นอกจากนี้ ได้ขอบคุณหัวหน้าหน่วยขึ้นตรง และกำลังพล ที่ได้ปฏิบัติภารกิจรักษาความปลอดภัย ในช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมือง ตามการร้องขอของศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) อย่างเต็มความสามารถ รวมทั้งกำชับให้ผู้ทำหน้าที่พลขับและกำลังพลทุกนาย ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติจราจร และข้อกำหนด 13 ข้อ ตามที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาจราจรกรุงเทพมหานคร กองบัญชาการตำรวจนครบาล กำหนดให้ปี 2557 เป็นปีลดอุบัติเหตุการจราจรบนท้องถนน

โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวอีกว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังได้ขอให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ ที่มีสถานีวิทยุกระจายเสียงและสถานีวิทยุโทรทัศน์ในความรับผิดชอบ ทำความเข้าใจกับผู้จัดรายการ พิจารณานำเสนอข่าวในสถานการณ์ความขัดแย้งด้วยความรอบคอบ ตามที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ขอความร่วมมือจากสื่อต่างๆ ไว้

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ รายงานด้วยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กล่าวภายหลังการประชุมสภากลาโหม โดยเน้นย้ำเกี่ยวกับสถานการณ์ทั่วไปกับผู้บัญชาการเหล่าทัพว่า ให้บูรณาการด้านความมั่นคงในทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด โดยเฉพาะจุดเสี่ยงที่อาจมีการทำผิดกฎหมายนอกเหนือจากกรอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันไม่ให้การแบ่งแยกดินแดนเกิดขึ้น นำความสามัคคีกลับสู่ประเทศไทย

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ที่ประชุมไม่ได้หยิบยกกรณี สปป.ล้านนา มาหารือ แต่เป็นการเน้นย้ำสถานการณ์ทั่วไป เนื่องจากสถานการณ์เหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่ใช่การบังคับใช้กฎหมายอย่างเดียว จะต้องทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายและปฏิบัติให้เสมอภาคกับทุกกลุ่ม โดยยืนยันว่า เน้นย้ำกับทุกกลุ่มไม่ให้ทำผิดกฎหมาย ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มเสื้อแดงเท่านั้น เพราะเป็นหน้าที่ ไม่เลือกปฏิบัติ

นอกจากนี้หลังการประชุมสภากลาโหม นายกรัฐมนตรีได้โพสต์ สเตตัสด้วยว่า "วันนี้ในที่ประชุมสภากลาโหมได้เน้นย้ำกับหน่วยขึ้นตรงของกระทรวงกลาโหม และ ผบ.เหล่าทัพ ให้ดูแลเรื่องความมั่นคงในพื้นที่ทุกจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความสุ่มเสี่ยงที่จะกระทำความผิดกฎหมายและที่อยู่นอกเหนือกฎหมายรัฐธรรมนูญโดยได้เน้นย้ำว่าจะต้องร่วมมือกันและไม่ให้เกิดเหตุการณ์การแบ่งแยกดินแดนเพื่อที่จะนำความสงบความสามัคคีมาสู่ประเทศไทย ประเด็นต่างๆ ตอนนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน การที่จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงความเข้าใจของประชาชนก็จะเกิดปัญหาต่างๆ ดังนั้นจะต้องดำเนินการทางกฎหมาย พร้อมกับควบคู่กับการทำความเข้าใจกับประชาชนและจะต้องปฏิบัติด้วยความเสมอภาคและเท่าเทียมกันของทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่เช่นเดียวกัน โดยไม่เลือกปฏิบัติว่าพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นสิ่งที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาคและจังหวัดต้องช่วยกันดูแลอย่างเต็มที่ค่ะ"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net